7 ธ.ค. เวลา 05:00 • ธุรกิจ

UTA รื้อใหญ่พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เมืองการบินภาคตะวันออก BA รุกลงทุน MRO อู่ตะเภา

โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออกของกลุ่ม UTA และแผนพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO อู่ตะเภา) ของบางกอกแอร์เวย์ส ล่าสุดมีความคืบหน้าอย่างไร “พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพจำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นบริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่นจำกัด หรือ UTA มีคำตอบ
UTA เร่งเจรจาปรับแก้สัญญาลดสเกลอู่ตะเภา
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวอัพเดตโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ของ UTA ว่าจากการเจรจาล่าสุดกับทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) หรือ EEC ถึงการปรับแก้สัญญา และการปรับลดขนาดการลงทุนในโครงการนี้ยังไม่จบ ยังอยู่ในกระบวนการ
เพราะ EEC น่าจะต้องดูในภาพรวมด้วย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายก็อยากจะเห็นโครงการนี้ให้มันเดินได้ ล่าสุดได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับทาง (EEC) เพื่อกำหนดแนวทางและหน้าที่ที่แต่ละฝ่ายต้องดำเนินการต่อไป
โดย EEC ก็ต้องไปขับเคลื่อนต่อ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประโยชน์ เรื่องเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆต้องเอาเข้าไป เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) แล้วก็เข้าครม.หากต้องมีการเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงข้อเสนอเดิมที่เคยยื่นไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการเสนอ เช่น เรื่องภาษี และสิทธิประโยชน์ของคนที่เข้ามาทำงานในพื้นที่โครงการ
ขณะนี้ UTA อยู่ระหว่างคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารใหม่ เพื่อเจรจากับ EEC ในการปรับสัญญาลงทุน โดยจะเสนอลงทุนสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ในเฟสแรก จาก 12 ล้านคน เหลือเริ่มที่ 3 ล้านคน และหากสถานการณ์ดีขึ้น ผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ามาเร็ว ก็อาจกลับไปเป็น 12 ล้านคนได้ในไม่นาน
รวมถึงอาจจะพิจารณาขอลดจำนวนการก่อสร้างทั้งโครงการต่ำกว่า 60 ล้านคน เพราะตัวเลขที่เคยคำนวณไว้ใช้ไม่ได้แล้วในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะก่อนโควิด สนามบินอู่ตะเภามีผู้โดยสารใช้บริการ 2 ล้านคน แต่ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการเพียง 400,000 คนเท่านั้น แผนเดิมนั้นไม่ใช่ตัวเลขที่เหมาะสมอีกต่อไป จำเป็นต้องมีการคำนวณตัวเลขใหม่ทั้งหมด ที่อาจจะเหลือไม่ถึง 30 ล้านคน
ทั้งหากมีการปรับลดขนาดการลงทุนก็ต้องมีการปรับปรุงตัวเลขผู้โดยสารและการจ่าย minimum guarantee ใหม่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ยังคงต้องหารือกับทาง EEC ให้ได้ข้อสรุปต่อไป โดย UTA วางกรอบการลงทุนไว้ประมาณปีกว่า ๆ ในการทำให้เรื่องทุกอย่างจบ เพื่อเริ่มโครงการได้ เพราะอยากให้โครงการนี้ดำเนินการได้
บางกอกแอร์เวย์ส ทุ่ม 2 พันล้าน ลงทุน MRO อู่ตะเภา
สำหรับความคืบหน้าของแผนการลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO - Maintenance, Repair, and Overhaul) หรือ MRO อู่ตะเภา บางกอกแอร์เวย์ส ได้หารือกับการบินไทยแล้วว่าจะไม่มีการตั้งบริษัทใหม่ เนื่องจากหากตั้งบริษัทใหม่จะทำให้ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ แนวทางที่ถูกเลือกคือการแบ่งพื้นที่กันใช้ ซึ่งน่าจะมีความรวดเร็วมากกว่า
โดยการบินไทยจะเช่าพื้นที่ 210 ไร่ จาก EEC มาพัฒนา การบินไทย จะรับผิดชอบการทำโครงสร้างพื้นฐานหลัก (infrastructure หลัก) และการบินไทย จะแบ่งพื้นที่ให้บางกอกแอร์เวย์ส 30 ไร่ มาพัฒนาโรงซ่อมเครื่องบินลำตัวแคบ
เฉพาะพื้นที่ในส่วนของบางกอกแอร์เวย์สจะสร้างโรงซ่อมเครื่องบินจอดประมาณ 2 ลำ น่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะรองรับการซ่อมเครื่องบินของบางกอกแอร์เวย์ส คาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการได้ไม่ช้า อาจจะเริ่มได้ภายในปีหน้า และในระยะต่อไปก็ขยายให้บริการสายการบินต่างๆ
เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยขาดแคลนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานและสายการบินต่างๆที่เป็นสมาชิกสมาคมสายการบินประเทศไทย ก็ต้องนำเครื่องบินไปซ่อมที่ต่างประเทศ
มองขยายอนาคตฝูงบินใหม่ 30 ลำ
นอกจากการลงทุน MRO อู่ตะเภา สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ยังมีแผนขยายฝูงบินต่อเนื่อง เพื่อทดแทนฝูงบินเดิม และเพิ่มฝูงบินใหม่ โดยได้ทำสัญญาสั่งซื้อเครื่องบิน ATR 72-600 จำนวน 10 ลำ เพื่อทดแทนฝูงบินเดิมและเพิ่มจำนวนเครื่องบินเอทีอาร์ 72-600ที่มีอยู่เดิม โดยน่าจะรับมอบเครื่องบินดังกล่าวในไตรมาสที่ 4 ปี 2569 จำนวน 2 ลำ และในปี 2570-2571 มูลค่าลำละประมาณ 600-700 ล้านบาท รวมประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท
ขณะนี้บางกอกแอร์เวย์ส ยังกำลังพิจารณาเครื่องบินในอนาคตที่เป็น Generation ใหม่จะเช่าหรือซื้อต้องไปดูสถานการณ์ทางการเงินอีกทีหนึ่ง โดยมองทั้งเครื่องบินของแอร์บัส โบอิ้ง แอมแบร์ ซึ่งมีการแจ้ง requirement ต่างๆเสนอไปยังผู้ผลิตเครื่องบินแล้ว ก็ต้องดูว่าทางผู้ผลิตจะเสนอกลับมาอย่างไร เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งปัจจุบันสายการบินมีเครื่องบินแอร์บัส 319 แอร์บัส 320 และเอทีอาร์ ในฝูงบินอยู่ 23 ลำ มองว่าถ้าขยับขยายต่ออนาคตผมว่าอย่างน้อยต้องมีถึง 30 ลำ ไม่รวมของเดิมที่อาจต้องเปลี่ยน
การจัดหาเครื่องบินก็ต้องพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องยนต์ และสถานการณ์ซัพพลายเชนด้วย เพราะหลังโควิด การผลิตเครื่องบินต้องใช้เวลาที่นานกว่าเดิมมาก และล่าสุดโบอิ้ง ก็จะพัฒนาโบอิ้ง MAX 7 ให้บินสมุยได้ ที่จะได้รับการรับรองในปีหน้า ถ้ามีเราก็มองว่าจะพิจารณาเช่นกัน
สำหรับผลการดำเนินงานของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในปีนี้ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 19,990 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน 4,765 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 3,138 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีนี้จะมีผู้โดยสารอยู่ที่ 4.4 ล้านคน อัตราการบรรทุกเฉลี่ย 70% ปลายๆ
หากเทียบกับก่อนโควิด-19 การเปิดเส้นทางบินของบางกอกแอร์เวย์สยังกลับมาไม่ถึง 50% เพราะแม้เส้นทางบินสมุยจะเติบโตสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด แต่ยังมีหลายเส้นทางที่ยังกลับมาบินไม่ครบ อาทิ เวียดนาม มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา ส่วนรายได้ในปีนี้ก็น่าจะใกล้เคียงกับปีผ่านมา เพราะต้นทุนอะไหล่แพงขึ้น แต่โชคดีที่ราคาน้ำมันไม่ขึ้น ส่วนปีหน้าก็คาดว่าผู้โดยสารก็น่าจะโตไม่มากนัก
โฆษณา