7 ธ.ค. เวลา 22:52 • ไลฟ์สไตล์

มันใช้เวลาถึงเจ็ดสิบปี

กว่าฉันจะเข้าใจอย่างแท้จริงว่า
ความเจ็บปวดที่ใหญ่ที่สุด…ไม่ใช่บ้านที่ว่างเปล่า
แต่คือการมีชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้คน
ที่ไม่มองเห็นเราอีกต่อไปต่างหาก
ฉันชื่อมาเรีย ปีนี้อายุเจ็ดสิบ
ตัวเลขกลม ๆ ที่ฟังดูงดงาม
แต่กลับไม่ได้พาความสุขมาให้เลย
แม้แต่เค้กที่ลูกสะใภ้ทำให้
ก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
หรือบางที…ฉันอาจหมดความอยาก
ทั้งต่อของหวาน และต่อความสนใจจากใคร ๆ
นานมาแล้วฉันเคยคิดว่า
ความแก่คือความเหงา
บ้านเงียบ ๆ โทรศัพท์ที่ไม่ดัง
สุดสัปดาห์ที่ว่างเปล่า
ฉันเคยเชื่อว่านั่นคือความเจ็บปวดที่สุด
แต่วันนี้ฉันรู้แล้วว่า
แย่ยิ่งกว่านั้น คือการอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยผู้คน
แต่เรากลับ “ไร้ตัวตน”
สามีฉันเสียไปสิบปีแล้ว
เราอยู่ด้วยกันสี่สิบปี
เขาเป็นคนเรียบง่าย อบอุ่น น่าเชื่อถือ
ซ่อมประตูเป็น จุดไฟเป็น
และรู้เสมอว่าจะพูดคำไหน
ให้ฉันรู้สึกปลอดภัย
วันที่เขาจากไป ฉันเหมือนเสียหลักทั้งชีวิต
ฉันอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ คาร์โลและลอรา
ฉันให้พวกเขาทุกอย่าง
ไม่ใช่เพราะหน้าที่ แต่เพราะนั่นคือวิธีรักของฉัน
ไม่เคยมีของหรู ไม่เคยมีทริปต่างประเทศ
แต่ฉันอยู่ข้าง ๆ เสมอ
ในวันที่มีไข้ การบ้านกองโต หรือฝันร้ายยามดึก
ฉันเชื่อว่า “ความรักจะย้อนกลับมา”
แต่ทีละน้อย การมาหาฉันก็เริ่มน้อยลง
– แม่ ตอนนี้ไม่ว่าง
– สุดสัปดาห์ก็ไม่ว่างเหมือนกัน
และฉันก็รอ…
จนวันหนึ่ง คาร์โลพูดว่า
– แม่ย้ายมาอยู่กับเราสิ แม่จะได้มีเพื่อนคุย
ฉันเก็บของ ผ้าห่มให้เพื่อนบ้าน
เครื่องชงกาแฟเก่าให้คนรู้จัก
ขายเปียโนทิ้ง และย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่
ช่วงแรกทุกอย่างดีมาก
หลานกอดฉัน ลอราชงกาแฟให้
แต่ไม่นาน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
– แม่ เบาเสียงทีวีด้วย
– แม่อยู่ในห้องนะ วันนี้มีแขก
– แม่ไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปรวมกับของพวกเราอีกใช่ไหม
และประโยคเหล่านี้เริ่มกลายเป็นของประจำบ้าน
– เราดีใจที่แม่มาอยู่…แต่แม่อย่าเกินขอบเขตนะ
– แม่ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของแม่แล้ว
ฉันพยายามช่วยทุกอย่าง
ทำกับข้าว ซักผ้า เลี้ยงหลาน
แต่เหมือนฉัน “ไม่มีตัวตน”
หรือแย่ยิ่งกว่า… “เป็นภาระ”
คืนหนึ่งฉันได้ยินลอราพูดโทรศัพท์
– แม่สามีฉันเหมือนรูปปั้นอยู่มุมบ้าน
อยู่…แต่เหมือนไม่อยู่ ง่ายกว่าเยอะ
คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ
มองเพดานทั้งคืนและรู้ทันทีว่า
แม้จะอยู่กลางครอบครัว
ฉันกลับเหงายิ่งกว่าตอนอยู่ลำพังเสียอีก
หนึ่งเดือนต่อมา ฉันจากมา
ฉันบอกว่ามีเพื่อนชวนไปอยู่บ้านชนบท
– ดีแล้วแม่ คาร์โลตอบ พร้อมสีหน้าโล่งใจที่พยายามซ่อนแต่ไม่อยู่
ตอนนี้ฉันอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ชานเมืองกรานาดา
ชงกาแฟ อ่านหนังสือ เขียนจดหมายที่ไม่มีวันส่ง
ไม่มีใครขัด ไม่มีใครตัดสิน
เจ็ดสิบปี…ฉันไม่คาดหวังอะไรแล้ว
ขอแค่รู้สึกว่า ฉันยังเป็น “คน”
ไม่ใช่ “ภาระ” ไม่ใช่ “เงา”
ฉันได้เรียนรู้ว่า
ความเหงาที่แท้จริง…ไม่ใช่ความเงียบในบ้าน
แต่คือช่วงเวลาที่คนที่เรารักอยู่ตรงหน้า
แต่ไม่มีใครมองตาเรา
ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเห็นคุณค่า
ความชราไม่ได้อยู่ที่ริ้วรอย
แต่อยู่ที่ “ความรัก”
ที่ครั้งหนึ่งเราเคยมอบให้หมดหัวใจ…
แต่ไม่มีใครต้องการมันอีกต่อไป
Live Healthy Live Better
Ramet Tanawangsre ถอดความ
โฆษณา