ประกันสังคม ม.33 ปรับเพดานค่าจ้าง เริ่ม 1 ม.ค. 2569
ล่าสุด ครม.อนุมัติให้ประกันสังคมปรับเพดานค่าจ้างสูงสุด โดยปรับเป็นขั้นบันได 3 ระยะ ทุก 3 ปี ซึ่งการปรับครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับระดับค่าจ้างในปัจจุบัน และช่วยให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม ทั้งในกรณีเจ็บป่วย ว่างงาน ทุพพลภาพ คลอดบุตร ตลอดจนกรณีชราภาพ
ปัจจุบันอัตราค่าจ้างสูงสุดของประกันสังคม อยู่ที่ 15,000 บาท ผู้ประกันตนจะถูกหักเงินในอัตรา 5% เท่ากับ 750 บาทต่อเดือน ดังนั้น ถ้าใครที่เงินเดือนเกิน 15,000 บาท จะถูกหักเพิ่มตามเพดานเงินเดือนสุดสูง
สำหรับเพดานค่าจ้างสูงสุดของทางประกันสังคม จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในปี 2569 - 2575 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ระยะที่ 1 (ปี 2569-2571)
- ปรับเพิ่มเพดานค่าจ้างสูงสุดเป็น 17,500 บาท เดิมผู้ประกันตน มาตรา 33 เคยส่งเงินสมทบสูงสุดเดือนละ 750 บาท ปรับเพิ่มเป็น 875 บาทต่อเดือน
- เจ็บป่วย: 8,750 บาท/ครั้ง
- คลอดบุตร: 26,250 บาท/ครั้ง
- ทุพพลภาพ: 8,750 บาท/เดือน
- กรณีเสียชีวิต: รับเงินสงเคราะห์ 105,000 บาท
- ว่างงาน: 8,750 บาท/ครั้ง
- บำนาญชราภาพ: ส่ง 15 ปี ได้ 3,500 บาท/เดือน, ส่ง 25 ปี ได้ 6,125 บาท/เดือน
ระยะที่ 2 (ปี 2572-2574)
- ปรับเพดานค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท และส่งเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
- เจ็บป่วย: 10,000 บาท/ครั้ง
- คลอดบุตร: 30,000 บาท/ครั้ง
- ทุพพลภาพ: 10,000 บาท/เดือน
- กรณีเสียชีวิต: รับเงินสงเคราะห์ 120,000 บาท
- ว่างงาน: 10,000 บาท/ครั้ง
- บำนาญชราภาพ: ส่ง 15 ปี ได้ 4,000 บาท/เดือน, ส่ง 25 ปี ได้ 7,000 บาท/เดือน
ระยะที่ 3 (ปี 2575 เป็นต้นไป)
- ปรับเพดานค่าจ้างสูงสุด 23,000 บาท และส่งเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน
- เจ็บป่วย: 11,500 บาท/ครั้ง
- คลอดบุตร: 34,500 บาท/ครั้ง
- ทุพพลภาพ: 11,500 บาท/เดือน
- กรณีเสียชีวิต: รับเงินสงเคราะห์ 138,000 บาท
- ว่างงาน: 11,500 บาท/ครั้ง
- บำนาญชราภาพ: ส่ง 15 ปี ได้ 4,600 บาท/เดือน, ส่ง 25 ปี ได้ 8,050 บาท/เดือน
นอกจากผู้ประกันตนจะได้สิทธิ์ประโยชน์ต่างๆ แล้ว ยังสามารถนำไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย โดยปัจจุบันกำหนดค่าลดหย่อนสูงสุด 9,000 บาท
ส่วนในปีถัดไปที่ต้องเงินสมทบเพิ่ม คาดว่าน่าจะมีการปรับวงเงินค่าลดหย่อนตามไปด้วย แต่ทั้งนี้จะต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
- 70
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
