🌊 เจาะลึก Elliott Wave: แยก "คลื่นเทรนด์" ออกจาก "คลื่นไซด์เวย์" ไม่ให้พอร์ตพังเพราะหลงทาง
ถ้าคุณเคยนับคลื่นแล้ว “เปลี่ยนชื่อคลื่นทุก 5 นาที” ไม่ได้แปลว่าคุณไม่เก่ง…แปลว่าคุณยังไม่แยก สองฝั่ง นี้ให้ชัดก่อนครับ
ผมแบ่งง่ายๆเป็น 2 ทีม:
ฝั่งที่ 1: คลื่นแรง (Trend / Motive) — เทรดง่ายกว่า แต่ “ห้ามสวน”
เหตุผลที่เทรดง่าย: ราคาวิ่งชัด มีระยะให้กินกำไร
เหตุผลที่พอร์ตแตกง่าย: คนชอบสวนตอนมันกำลัง “ลาก” (เบรกเอาต์แล้วโดนลาก = ของจริง ไม่ใช่ตำนาน)
1) Trending Impulse Wave (1-2-3-4-5)
เป็นเทรนด์ที่ “แรงและคลาสสิก” ที่สุด
มีช่วงสะสมแรง (มักเห็นชัดในคลื่น 2 หรือ 4)
กฎจำเป็น: ต้องมี Extension / มี Alternation (คลื่น 2 กับ 4 ต้องสลับนิสัยกัน)
> ถ้าผิดกฎ → ไม่ใช่ Trending Impulse (จะกลายเป็น Motive แบบอื่น)
2) Non-Standard Small X Wave (Double / Triple)
เทรนด์แรงรองลงมา เพราะ “ไม่ต้องสะสมเยอะ”
มักวิ่งใน Channel ชัด ขึ้นแบบไม่ลังเล
การย่อมักไม่ลึกเกิน ~61.8% ของชุดก่อนหน้า
โครงสร้าง:
Double: a-b-c-x-a-b-c
Triple: a-b-c-x-a-b-c-x-a-b-c
Terminal Impulse Wave (1-2-3-4-5 แต่เริ่มอ่อนแรง)
3) Terminal Impulse Wave (1-2-3-4-5 แต่เริ่มอ่อนแรง)
โครงสร้างคล้าย Impulse แต่มี Overlap (ทับหัวคลื่น 1) → บอกว่าแรงเริ่มหมด
ไม่เกิดเป็นคลื่น 3 ใหญ่
มักอยู่ในคลื่นย่อยของ “คลื่น 5”
จบแล้วมักย้อนกลับลงมาถึงฐาน/จุดเริ่มต้นชุด
4) Diagonal (Leading / Ending)
ขึ้นลงแบบ “ลังเล” ทรงคล้ายสามเหลี่ยม
มี Overlap
คลื่น 2 กับ 4 มักเป็น Zigzag เหมือนกัน (ไม่ค่อย Alternation)
ไม่มี Extension ชัด
ชนิด:
Leading Diagonal
Leading Diagonal: จบแล้วไม่จำเป็นต้องมีเอฟเฟกต์ใหญ่
Ending Diagonal: จบแล้วมัก “ย้อนกลับแรง” ทดสอบฐาน
Ending Diagonal
ฝั่งที่ 2: คลื่นปรับตัว (Sideway / Corrective) — ยากที่สุด แต่ “ทำเงินได้ถ้าอ่านออก”
Sideway แคบๆคือกับดัก: โดนคัตบ่อย สับสนง่าย เหมาะกับการมองกรอบใหญ่
1) Large X Wave (Double / Triple) — ยาว นาน เบรกหลอกบ่อย
โครงสร้างเหมือนชุด a-b-c ต่อกัน แต่ “ตัว X” ของมัน มักยาวเกิน 61.8% ของชุดก่อนหน้า
Double / Triple ตามรูปแบบเดียวกับด้านบน
Double / Triple
2) Triangle (a-b-c-d-e)
5 ขา ซับซ้อน โดนคัตง่าย
มีทั้ง Contracting (ปากปิด) และ Expanding (ปากเปิด)
3) Flat (a-b-c) — “B แรง” จนคนคิดว่าเป็น Double Top/Bottom
จุดเด่น: คลื่น b มักเกิน 61.8% และบางครั้งถึง 161.8% (Strong B)
c อาจสั้น/ยาว/เท่า a
ใช้เวลาสั้นกว่า Large X และ Triangle
4) Zigzag (a-b-c) — เทรดง่ายสุดในฝั่ง Sideway
มีการทิ้งตัวชัด
b ไม่เกิน 61.8% ของ a (แรงรีบาวด์อ่อน)
c มักลงได้ลึกสุดใน Corrective
> ข้อควรระวัง: ใจร้อน + Leverage หนัก = บิลค่าเรียนแพงมาก
ตัวอย่าง “หนึ่งรอบใหญ่” ที่มีทั้งเทรนด์และไซด์เวย์สลับกัน
คลื่น 1 (Trend): อาจเป็น Trending Impulse / Small X / Diagonal
แต่ Terminal หรือ Ending Diagonal ยังไม่ควรโผล่ เพราะมันชอบอยู่ “ปลายคลื่น”
คลื่น 2 (Sideway): ดูว่าเป็นอะไรด้วยกฎง่ายๆ
ถ้า b เด้งเกิน 61.8% → มีโอกาสเป็น Flat
ถ้าไม่เกิน → อาจเป็น Zigzag
ถ้าซับซ้อน/หักหลอก → อาจเป็น Triangle / Large X
คลื่น 3 (Trend): กลับไปเช็กฝั่งเทรนด์
ถ้ามี Extension + ไม่มี Overlap หัวคลื่น 1 → มักเข้าข่าย Trending Impulse
คลื่น 4 (Sideway): ใช้ Alternation ช่วยตัดตัวเลือก
ถ้าคลื่น 2 เป็น Flat แล้ว → คลื่น 4 มักสลับเป็น Zigzag/Triangle
ถ้าคลื่น 3 ยืดมาก → Large X มักไม่ค่อยคุ้มจะเกิด (คลื่น 5 มักไม่ยืดตาม)
คลื่น 5 (Trend ปลายคลื่น): ตรงนี้แหละที่ Terminal / Ending Diagonal “มีสิทธิ์เกิด”
ถ้าเห็นขึ้นแบบอ่อนแรง + Overlap + คล้ายสามเหลี่ยม → มักเป็น Ending Diagonal
สรุปจำง่าย (Checklist)
Trend = ห้ามสวน / ดู Extension + Overlap + Alternation
Sideway = ดู b เกิน 61.8% ไหม / โครงสร้างซับซ้อนแค่ไหน
สิ่งที่อันตรายสุดไม่ใช่ “นับผิด” แต่คือ นับผิดแล้วยัง Leverage หนัก 😄
การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในตัวคุณเอง!
บัญชีเทรด / ลิงก์เปิดบัญชี
Exness เทรดคริปโต & ทองคำ
Social Trading
เทรดทองคำ/โลหะ
Binance Global
วิธีเปิดบัญชี Exness (คลิปสอนจับมือทำ)
เข้ากลุ่มไลน์: @peachcrypto
รับไฟล์ Elliott Wave ชุดเต็ม + โซนเข้าออก BTC/Alt รายสัปดาห์
ติดตามทุกแพลตฟอร์ม:
Facebook / YouTube / TikTok — ตามผมลงทุนคริปโต
#อิเลียตเวฟ #วิเคราะห์กราฟ #ElliottWaveไทย #เทรดคริปโต #มือใหม่คริปโต #วิเคราะห์BTC #ลงทุนคริปโต #PeachCrypto #เทรดทองคำ #PriceAction #ElliottWave
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
