11 ธ.ค. เวลา 05:32 • ปรัชญา
“การโกหกผิดเสมอไปหรือไม่?”
**ศีลธรรมไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์**
คำถามนี้ดูเหมือนง่าย
แต่แท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในปัญหาที่ยากที่สุดของ ปรัชญาจริยศาสตร์
เพราะมันพาเราไปสู่คำถามใหญ่สองข้อคือ—
1. อะไรคือชีวิตที่ดีที่มนุษย์ควรแสวงหา?
2. อะไรคือมาตรฐานที่เราควรใช้ตัดสินว่าการกระทำหนึ่ง “ดีหรือเลว”?
แล้วเราจะใช้บรรทัดฐานใดมาวางคำว่า “โกหก” ลงบนตาชั่งแห่งศีลธรรม?
1) กลุ่มที่ตัดสินจากผลลัพธ์ (Consequentialism)
นักปรัชญากลุ่มนี้บอกว่า
“การกระทำดีหรือเลว ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของมัน ไม่ใช่ตัวการกระทำเอง”
ตัวอย่างที่เห็นชัด
สแกมเมอร์โกหกคนเป็นพันให้หมดตัว → เลว เพราะผลลัพธ์ทำร้ายคนจำนวนมาก
ตำรวจโกหกเพื่อล่อซื้อยาบ้า → ดี เพราะช่วยจับผู้ค้ายาและปกป้องสังคม
นักสืบปลอมตัวเข้าไปหาหลักฐานทุจริต → ดี เพราะนำสู่ความยุติธรรม
สำหรับกลุ่มนี้ “white lie” มีอยู่จริง
การโกหกจึง ไม่ผิดเสมอไป
แต่ ผิดเมื่อมันสร้างผลเลวร้ายให้ส่วนรวม
2) กลุ่มที่ตัดสินจากตัวการกระทำเอง (Deontology)
อีกกลุ่มหนึ่งกลับบอกว่า
> “บางการกระทำมันผิดในตัวของมันเอง โดยไม่ต้องดูผลลัพธ์”
และ “โกหก” คือหนึ่งในนั้น
ตัวแทนที่โดดเด่นที่สุดคือ Immanuel Kant
ซึ่งเคร่งครัดถึงขนาดว่า
แม้การโกหกเพื่อช่วยคนหนีจากฆาตกร
ก็ยัง “ผิด”
เพราะ…
> ถ้าเรายอมให้โกหกได้ครั้งหนึ่ง
ระบบศีลธรรมทั้งหมดจะถูกทำลายจากภายใน
ในสายนี้
ไม่มี white lie
มีแต่การโกหกล้วน ๆ
และมัน “ผิดเสมอ”
แล้วมนุษย์ควรเชื่อแบบไหน?
นี่คือความงามของปรัชญา
ไม่ใช่เพื่อให้คำตอบตายตัว
แต่เพื่อให้เรารู้ว่า “เรากำลังใช้มาตรฐานแบบใดในการตัดสิน”
บางครั้งเราปกป้องสังคมด้วยการโกหก
บางครั้งเราทำร้ายสังคมด้วยการโกหก
และบางครั้ง…ความจริงตรง ๆ อาจโหดร้ายกว่าการโกหกด้วยซ้ำ
มนุษย์จึงต้องเลือก
ว่าจะเป็นคนของ “ผลลัพธ์”
หรือเป็นคนของ “หลักการ”
บทสรุป
> การโกหกไม่ผิดเสมอไป
แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่ามันถูกเสมอไป
ศีลธรรมไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์
มันคือพื้นที่ที่เราต้องรับผิดชอบต่อการเลือกทุกครั้ง—
ทั้งต่อความจริง
และต่อหัวใจของคนที่ต้องเผชิญกับมัน.
โฆษณา