ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซ้อมรบร่วมแสดงแสนยานุภาพ ท่ามกลางการซ้อมรบทางทหารของจีน-รัสเซีย
เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้ของสหรัฐฯ ได้บินเหนือน่านน้ำทะเลญี่ปุ่นร่วมกับเครื่องบินขับไล่ F-35 และ F-15 ของญี่ปุ่น เพื่อแสดงแสนยานุภาพภายหลังจากการซ้อมรบทางทหารของจีนและรัสเซียใกล้กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
รูปภาพ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ทำท่าทางขณะที่นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ของญี่ปุ่นมีปฏิกิริยาตอบรับ ขณะที่ทหารเรือสหรัฐฯ ให้การต้อนรับพวกเขา บนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS George Washington ระหว่างการเยือนฐานทัพเรือสหรัฐฯ โยโกสุกะ ในโยโกสุกะ ญี่ปุ่น วันที่ 28 ตุลาคม 2025 (ที่มา: REUTERS/Evelyn Hockstein)
เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้ของสหรัฐฯ บินเหนือน่านน้ำทะเลญี่ปุ่นร่วมกับเครื่องบินขับไล่ F-35 และ F-15 ของญี่ปุ่น เพื่อแสดงแสนยานุภาพภายหลังจากการซ้อมรบทางทหารของจีนและรัสเซียใกล้กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
นี่ถือเป็นการยืนยันการปรากฏตัวทางทหารครั้งแรกของสหรัฐฯ ในภูมิภาค นับตั้งแต่จีนเริ่มการซ้อมรบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของจีนและรัสเซีย และการซ้อมรบเรือบรรทุกเครื่องบินของจีน ญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นตอบโต้การซ้อมรบเหล่านี้ โดยรายงานว่าเครื่องบินของพวกเขาถูกเรดาร์จีนจับเป้า
ทำไมถึงสำคัญ
ปฏิบัติการร่วมระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เป็นการส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งที่จะป้องกันความพยายามฝ่ายเดียวใด ๆ ในการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ด้วยกำลัง การแสดงแสนยานุภาพนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในฐานะเจ้าบ้านที่ตั้งกองกำลังสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการรวมศูนย์อำนาจทางทหารของอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในต่างประเทศ
ความตึงเครียดเน้นย้ำถึงการแข่งขันทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่ในเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบไต้หวัน ซึ่งเผชิญกับแรงกดดันทางทหารจากจีนอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงการบินของเครื่องบินขับไล่ J-16 และเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6 ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ ได้แก่ กองทัพสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันความพร้อมและความมุ่งมั่นในพันธมิตร จีนและรัสเซียมีความเคลื่อนไหวในการซ้อมรบในภูมิภาค โดยปักกิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหาของญี่ปุ่นที่ว่าทำให้การปฏิบัติการของจีนตกอยู่ในอันตราย
เกาหลีใต้ก็เข้าร่วมในการตอบสนองการป้องกันทางอากาศต่อการรุกล้ำใกล้กับน่านฟ้าของตน ไต้หวันยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันทางทหารอย่างต่อเนื่องจากจีน ขณะที่คำกล่าวทางการเมืองล่าสุดของโตเกียวเกี่ยวกับไต้หวันได้เพิ่มความตึงเครียดยิ่งขึ้นไปอีก
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
การเฝ้าระวังในภูมิภาคน่าจะดำเนินต่อไป โดยกองกำลังสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะยังคงรักษาท่าทีทางทหารที่แข็งแกร่งเพื่อตอบสนองต่อกิจกรรมของจีนและรัสเซีย
สถานการณ์อาจทวีความรุนแรงขึ้นหากการซ้อมรบทางทหารยังคงดำเนินต่อไปใกล้กับน่านฟ้าและช่องทางเดินเรือที่เป็นข้อพิพาท ความพยายามทางการทูตและการเฝ้าระวังระหว่างประเทศจะมีบทบาทสำคัญในการจัดการความตึงเครียด ขณะที่ไต้หวันและประเทศเพื่อนบ้านยังคงเฝ้าระวังการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก Reuters
Sana Khan
11 ธันวาคม 2025
US and Japan Conduct Joint Show of Force Amid China-Russia Military Drills
U.S. nuclear-capable B-52 bombers flew over the Sea of Japan alongside Japanese F-35 and F-15 fighter jets in a show of force following Chinese and Russian military exercises near Japan and South Korea.
ภาพ
U.S. President Donald Trump gestures as Japanese Prime Minister Sanae Takaichi reacts, as they are welcomed by U.S. Navy sailors, aboard the aircraft carrier USS George Washington, during a visit to U.S. Navy's Yokosuka base in Yokosuka, Japan, October 28, 2025. REUTERS/Evelyn Hockstein
U.S. nuclear-capable B-52 bombers flew over the Sea of Japan alongside Japanese F-35 and F-15 fighter jets in a show of force following Chinese and Russian military exercises near Japan and South Korea.
This marked the first U.S. assertion of military presence in the region since China began drills last week, including flights by Chinese and Russian strategic bombers and Chinese aircraft carrier exercises. Japan scrambled jets in response to these exercises, reporting that its aircraft were targeted by Chinese radar.
WHY IT MATTERS
The joint U.S.-Japan operation signals a strong commitment to prevent any unilateral attempts to alter the status quo by force. The display underscores the strategic importance of Japan and South Korea as hosts of U.S. forces, including the largest concentration of American military power overseas.
The tensions highlight the ongoing military rivalry in East Asia, particularly around Taiwan, which faces frequent Chinese military pressure, including J-16 fighter and H-6 bomber flights in the Western Pacific.
Key stakeholders include the U.S. and Japanese militaries, with both reaffirming readiness and alliance commitments. China and Russia are active in regional drills, with Beijing denying Japanese accusations of endangering Chinese operations.
South Korea also participates in air defense responses to incursions near its airspace. Taiwan remains under constant military pressure from China, while Tokyo’s recent political remarks on Taiwan have further heightened tensions.
WHAT’S NEXT
Regional vigilance is likely to continue, with U.S. and Japanese forces maintaining a strong military posture in response to Chinese and Russian activity.
The situation may escalate if military exercises continue near disputed airspace and sea lanes. Diplomatic efforts and international monitoring will play a key role in managing tensions, while Taiwan and neighboring countries remain on alert for potential provocations.
With information from Reuters.
Sana Khan
December 11, 2025
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
