14 ธ.ค. เวลา 08:45 • ไลฟ์สไตล์

ผมยังไม่ถึงไหน แต่ผมไม่หยุด

ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมาถึงจุดที่เรียกว่า “สำเร็จ”
ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ผมยังเห็นตัวเองอยู่กลางทางเหมือนเดิม
ผมเห็นคนรอบตัวก้าวไปข้างหน้าเร็วกว่า
บางคนไปไกลจนผมไม่เห็นฝุ่นของตัวเองในกระจกเงาเลยด้วยซ้ำ
ช่วงหนึ่งผมเคยถามตัวเองว่า ทำไมถึงช้าขนาดนี้
ทำไมพยายามแล้ว ชีวิตถึงยังดูธรรมดาเหมือนเดิม
ยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกว่าคำว่า “ยังไม่ถึงไหน” หนักขึ้นทุกวัน
มันไม่ใช่แค่คำบ่น แต่เป็นความรู้สึกติดค้างในใจลึก ๆ
ผมเคยคิดว่าคนที่ไปถึง ต้องรู้สึกมั่นใจตลอดเวลา
แต่ความจริงคือ คนที่ยังเดินอยู่ มักไม่มั่นใจเลยสักวัน
หลายวันที่ผมทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ
ไม่มีอะไรยืนยันว่ามันจะพาผมไปถึงที่ไหนจริง ๆ
ไม่มีเสียงปรบมือ
ไม่มีใครมาบอกว่าผมมาถูกทางแล้วหรือยัง
ผมแค่รู้ว่า ถ้าผมหยุด
ทุกอย่างที่เคยทำมาจะจบลงตรงนั้นทันที
การไม่หยุดจึงกลายเป็นเหตุผลเดียวที่ผมพอจะยึดไว้ได้
ไม่ใช่เพราะมั่นใจ แต่เพราะไม่อยากเสียใจทีหลัง
ผมเริ่มเข้าใจว่า ความก้าวหน้าไม่ได้มาเป็นก้าวกระโดด
แต่มาเป็นการขยับเล็ก ๆ ที่แทบไม่มีใครสังเกต
บางวันผมก้าวได้นิดเดียว
บางวันผมแค่ประคองตัวเองไม่ให้ถอยหลัง
มันอาจดูไม่เหมือนการเติบโตในสายตาคนอื่น
แต่สำหรับผม การยังอยู่บนเส้นทาง คือความสำเร็จแบบหนึ่ง
ผมเคยพยายามเร่ง
พยายามเทียบ
พยายามเป็นให้เหมือนคนที่ไปไกลกว่า
ผลลัพธ์คือผมเหนื่อย
และเริ่มเกลียดจังหวะของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
วันที่ผมยอมรับว่าตัวเองยังไม่ถึงไหน
ผมกลับเบาลงอย่างประหลาด
ผมไม่ต้องรีบอธิบายชีวิตให้ใครฟัง
ไม่ต้องพิสูจน์ว่ากำลังไปได้ดีแค่ไหน
ผมแค่ต้องซื่อสัตย์กับคำถามง่าย ๆ
วันนี้ผมยังทำในสิ่งที่ควรทำอยู่หรือเปล่า
การไม่หยุด ไม่ได้แปลว่าต้องทำหนักทุกวัน
บางวันแค่ไม่เลิก ก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
ผมเริ่มให้ค่ากับความต่อเนื่องมากกว่าความหวือหวา
เพราะความหวือหวามาไว แต่ความต่อเนื่องพาผมอยู่รอด
ไม่มีใครเห็นความพยายามเล็ก ๆ เหล่านี้
แต่มันสะสมอยู่ในตัวผมทุกวันอย่างเงียบ ๆ
ผมอาจยังไม่เห็นปลายทาง
แต่ผมเริ่มเชื่อว่าปลายทางไม่สำคัญเท่าทิศทาง
ตราบใดที่ผมยังไม่หันกลับ
ตราบนั้นผมยังไม่ได้แพ้
ผมยังไม่ถึงไหนในแบบที่โลกชอบวัด
แต่ผมรู้ว่าผมไม่ใช่คนเดิมที่ยืนอยู่กับที่อีกแล้ว
การไม่หยุดทำให้ผมเปลี่ยน
แม้การเปลี่ยนนั้นจะช้ามากก็ตาม
วันนี้ผมยังเป็นคนธรรมดา
ยังมีความกลัว ยังมีความลังเล และยังมีคำถามเต็มหัว
แต่ผมเลือกจะไม่หยุด
เพราะการหยุดคือการตัดโอกาสของตัวเองในอนาคต
ถ้าวันหนึ่งผมจะไปถึงที่ไหนสักแห่ง
ผมรู้ว่ามันไม่ได้เกิดจากวันที่ผมมั่นใจที่สุด
แต่มาจากวันที่ผมยังไม่ถึงไหน
และตัดสินใจเดินต่อ ทั้งที่ไม่มีอะไรรับประกันเลย
ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังอยู่ตรงไหนของเส้นทาง
แต่ถ้าคุณยังไม่หยุด นั่นอาจเพียงพอแล้วสำหรับวันนี้
เราไม่จำเป็นต้องไปถึงพร้อมใคร
แค่ไม่ทิ้งตัวเองไว้ข้างหลัง ก็ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว
ถ้าวันนี้คุณยังไม่ถึงไหน
แต่คุณยังไม่หยุด
นั่นอาจเป็นก้าวที่สำคัญกว่าที่คุณคิด
โฆษณา