วันนี้ เวลา 01:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ตั้งรัฐบาลล่าช้าไม่กระทบพื้นฐาน กูรูชี้หุ้นไทยผันผวนแค่เชิงจิตวิทยา

  • การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากภาคส่วนอื่น ๆ เช่น การท่องเที่ยวและการส่งออกยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
  • ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยจากความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นเพียงปัจจัยกดดันเชิงจิตวิทยาในระยะสั้นเท่านั้น
  • ในช่วงที่รอรัฐบาลใหม่จะทำให้ประเทศขาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนัยยะจากภาครัฐ เนื่องจากรัฐบาลรักษาการมีอำนาจจำกัด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า ปัจจุบันรัฐบาลถือว่าเป็นเพียงรักษาการเท่านั้น ดังนั้นอำนาจบริหารต่างๆจะกระทำได้ไม่เต็มที่โดยเฉพาะมาตรการที่ต้องส่งผ่านต่อไปยังรัฐบาลชุดหน้า
อีกทั้งในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนมีรายงานว่าแม้กระทั่งโครงการกระตุ้นการบริโภคอย่างคนละครึ่งเฟส 2 ก็อาจไม่สามารถจะดำเนินการได้ และแน่นอนว่าโครงการกระตุ้นตลาดหุ้นอย่าง TISA น่าจะถูกปัดตกไป
แต่อย่างไรก็ตามโครงการ TISA จากเนื้อหาที่เผยก่อนหน้ามองว่าไม่ได้เป็นบวกกับตลาดหุ้นมากนัก เพราะไม่ค่อยจูงใจ (สามารถไถ่ถอนได้อายุ 55 ปีขึ้นไป)
ในขณะเดียวกันเม็ดเงินก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะตลาดหุ้นไทยยังครอบคลุมตราสารหนี้ , กองทุน หลังจากนี้กว่าจะได้รัฐบาลใหม่อาจใช้ระยะเวลาราว 3-4 เดือน ทำให้ประเทศไทยจะเข้าสู่ภาวะไร้มาตรการกระตุ้นที่มีนัยยะจากรัฐบาล
แน่นอนว่าปัจจัยดังกล่าวจะกระทบกับเศรษฐกิจ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ถึงกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากเครื่องยนต์เศรษฐกิจอื่นๆ ยังขับเคลื่อนได้ (ท่องเที่ยว ส่งออก ส่วนการบริโภคคาดว่าขยายตัวได้แต่อาจไม่มี Upside เพิ่ม)
ในส่วนของตลาดหุ้นก็เชื่อว่าผลกระทบจำกัดในเชิงพื้นฐานแต่ระยะสั้นอาจเป็นแรงกดดันเชิงจิตวิทยา สถิติช่วงที่ผ่านมาพบว่าก่อนการเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ตลาดหุ้นมักปรับขึ้นและหลังเลือกตั้งราว 1-2 สัปดาห์ตลาดหุ้นก็ยังเป็นบวก Sector ที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นได้แก่ค้าปลีก (หลังเลือกตั้ง 2 สัปดาห์ + เฉลี่ย 4.3% และก่อนเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ +2.5%)
การจัดตั้งรัฐบาลจะล่าช้าหรือไม่ ยังเป็นประเด็นที่ไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำเพราะต้องไปดูอีกครั้งว่าแต่ละพรรคได้จำนวนเสียง ส.ส. ในมือเท่าใด หากสมมติว่าพรรคใดพรรคหนึ่งได้เสียงข้างมาก ก็จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ทันที (แต่ความจริงน่าจะเป็นไปได้ยาก)
ดังนั้น สมมติว่าเลือกตั้งเสร็จในช่วงต้นเดือน ก.พ. กว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้อาจอยู่ในช่วง เม.ย. - พ.ค. (กรณีนายกเศรษฐาใช้เวลามากถึง 100 วัน) หากอยู่ใน่ช่วงเวลาประมาณนี้ก็ไม่น่าจะมี Downside เศรษฐกิจมากนัก รวมไปถึงตลาดหุ้นก็เชื่อว่าไม่มีผลอะไร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆก็ยังดำเนินการได้ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว บริโภค ส่งออก อาจสะดุดบ้างเล็กน้อยแค่การลงทุนภาครัฐ
โฆษณา