Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 02:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📉 "เมื่อพายุเศรษฐกิจมาเยือน"
ทำไมองค์กรต้องกล้าจ่าย “แพง” เพื่อให้ได้ของ “ถูก” จริง?
สัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้ ไม่ได้ดังอยู่แค่ในหน้าหนังสือพิมพ์หรือรายงานจากสถาบันการเงินระดับโลก หากแต่กำลังส่งเสียงคำรามผ่านข่าวการเลิกจ้าง (Layoff) การชะลอการลงทุน และการปิดกิจการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายอุตสาหกรรม ทั้งในไทยและทั่วโลก
สำหรับคนทำงาน ผู้บริหาร และเจ้าของกิจการ นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะโทษโชคชะตา หรือฝากความหวังไว้กับ “ดวง” ว่าวันหนึ่งชื่อของเราจะไม่ถูกเรียกในการปรับโครงสร้างองค์กร เพราะในโลกธุรกิจ ความอยู่รอดไม่เคยขึ้นกับโชค หากขึ้นกับ “ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้จริง” และความสามารถในการสร้างคุณค่าในวันที่ทรัพยากรมีจำกัด
วิกฤตเศรษฐกิจทำหน้าที่เหมือนตัวเร่งปฏิกิริยา มันไม่ได้สร้างปัญหาใหม่ แต่เร่งให้ปัญหาเดิมที่ซ่อนอยู่ใต้พรมปรากฏชัดขึ้นเร็วและแรงกว่าเดิม องค์กรที่เคยหลวม เคยช้า หรือเคยพึ่งพาความเคยชิน จะถูกคัดออกอย่างไม่ปรานี ขณะที่องค์กรที่เข้าใจเกม จะใช้ช่วงเวลานี้ “ปรับโครงสร้าง” ทั้งคน กระบวนการ และเทคโนโลยี เพื่อกลับมาแข็งแรงกว่าเดิม
====
💥 กับดักความคิด “ประหยัดไว้ก่อน” ในยามวิกฤต?
สัญชาตญาณของหลายองค์กรเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คือการเข้าสู่โหมด “Play Safe” ลดงบ หยุดลงทุน ชะลอการจ้าง และบีบต้นทุนทุกทางที่ทำได้ โดยเฉพาะต้นทุนด้านคน ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นต้นทุนที่ปรับลดได้เร็วที่สุด
ฟังดูเหมือนเป็นวิธีเอาตัวรอด แต่ในความเป็นจริง นี่คือกับดักอันตรายที่สุดของช่วงวิกฤต
เพราะในวันที่ตลาดผันผวน องค์กรไม่ได้ต้องการคนที่ “เชื่อฟังที่สุด” หรือ “ราคาถูกที่สุด” หากแต่ต้องการคนที่ “สร้างผลลัพธ์ได้มากที่สุด” ต่างหาก การลดต้นทุนแบบไม่เลือกหน้า อาจช่วยให้ตัวเลขดูดีในระยะสั้น แต่กำลังบ่อนทำลายขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวอย่างเงียบๆ
หลายองค์กรล้มไม่ใช่เพราะขาดเงิน แต่เพราะขาดคนที่แบกเกมได้ในวันที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมบางบริษัทจึงเลือกเดินเกมสวนกระแส
====
🧬 ทำไมบางองค์กรเลือก “จ่ายแพง” ในวันที่คนอื่นกำลัง “ลดราคา”?
หนึ่งในแนวคิดการบริหารคนที่ทรงพลังที่สุดในช่วงวิกฤต คือการยอมทำในสิ่งที่สวนทางกับสามัญสำนึก นั่นคือ “กล้าจ่ายแพงกว่าเดิม เพื่อให้ต้นทุนรวมถูกลงจริง”
แนวคิดนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า
* คนเก่งหนึ่งคน สามารถสร้างผลงานได้เท่ากับคนธรรมดา 2–3 คน งานที่ทำโดยมืออาชีพจะจบเร็วกว่า แก้น้อยกว่า และไม่สร้างต้นทุนแฝงในภายหลัง คุณภาพที่ดีตั้งแต่ต้น คือวิธีลดต้นทุนที่ถูกที่สุดในระยะยาว
* เมื่อมองในภาพรวม องค์กรอาจจ่ายเงินเดือนสูงขึ้นต่อหัว แต่กลับใช้คนน้อยลง งานเดินเร็วขึ้น การตัดสินใจแม่นขึ้น และลดความสูญเสียจากงานซ้ำซ้อนหรือความผิดพลาดที่แก้ไม่จบ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคำว่า “จ่ายแพง” จึงไม่ได้แปลว่า “สิ้นเปลือง” เสมอไป
ในบริบทของการ Layoff วิกฤตจึงไม่ใช่เวลาของการ “กอดทุกคนไว้” แต่เป็นเวลาที่ต้องกล้าคัดเลือกอย่างมีสติ ใครคือ Talent ที่จำเป็นต่อการพาองค์กรข้ามพายุ และใครคือคนดีที่ขยัน แต่ไม่ตอบโจทย์ทิศทางใหม่ของธุรกิจในยุคที่ความเร็วและคุณภาพกลายเป็นปัจจัยชี้ขาด
====
⚙️ "ประสิทธิภาพในโลกใหม่” = เมื่อ Talent ต้องทำงานร่วมกับ AI
คำว่า “ประสิทธิภาพ” ในบริบทธุรกิจยุคนี้ ไม่ได้หมายถึงการทำงานล่วงเวลา หรือการทุ่มแรงกายจนหมดพลัง หากแต่หมายถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างฉลาดที่สุด โดยเฉพาะการผสานศักยภาพของคนเข้ากับเทคโนโลยีอย่าง AI และ Automation
1. เลิกเริ่มจากศูนย์โดยไม่จำเป็น
องค์กรจำนวนมากยังเสียพลังไปกับการสร้างสิ่งเดิมซ้ำๆ เพราะต่างคนต่างทำ การรู้ว่าใครทำอะไรอยู่ และกล้ารวมสิ่งที่ทับซ้อน คือจุดเริ่มต้นของการลดความสูญเสียอย่างแท้จริง
2. ทำลายไซโลให้เร็วที่สุด
ในวันที่ความผิดพลาดมีต้นทุนสูง การทำงานแบบต่างคนต่างอยู่คือความเสี่ยง การผนึกกำลังข้ามสายงานไม่ใช่เรื่องสวยหรู แต่คือกลไกความอยู่รอดขององค์กรยุควิกฤต
3. ใช้สมองนำแรง ไม่แข่งกับ AI ในสิ่งที่แพ้ตั้งแต่ต้น
งานที่ยังพึ่งพาแรงกายหรือความถึกเป็นหลัก กำลังถูกท้าทายโดย AI อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Talent ในยุคนี้จึงไม่ใช่คนที่ทำงานหนักที่สุด แต่คือคนที่รู้จักใช้ AI เป็นตัวคูณ แล้วเอาสมองไปโฟกัสกับการคิดเชิงกลยุทธ์ การตัดสินใจ และการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
4. วัดผลจากความจริง ไม่ใช่เอกสาร
ลดการประชุมที่ไม่มีเจ้าภาพ ลดรายงานที่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจ แล้วกลับมาดูตัวเลขที่จับต้องได้ อะไรต้องทำเดี๋ยวนี้ อะไรควรเลิกทำ และอะไรคือภาระที่องค์กรไม่ควรแบกต่อ
5. ผู้นำต้องมองเกมให้ขาด และขยับให้เร็ว
วิกฤตไม่รอใคร ผู้นำที่ดีต้องอ่านสัญญาณให้ไว ตัดสินใจให้เร็ว และกล้าลองก่อนที่สถานการณ์จะบีบให้ขยับแบบไม่มีทางเลือก
====
✨ วิกฤตไม่ใช่เรื่องของบริษัทอย่างเดียว แต่คือเรื่องของชีวิตทุกคน
* ท้ายที่สุดแล้ว วิกฤตเศรษฐกิจไม่ใช่บททดสอบของ CEO เพียงคนเดียว แต่เป็นบททดสอบของคนทั้งองค์กร
* เมื่อบริษัทต้องปรับตัว คนทำงานก็ต้องปรับตัวเช่นกัน เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องผลประกอบการ แต่คือความมั่นคงของชีวิตในระยะยาวของทุกคน ในโลกที่ AI กำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวัน คนที่อยู่รอดไม่ใช่คนที่อาวุโสที่สุด หรือขยันที่สุด แต่คือคนที่สร้างคุณค่าได้ชัดเจนที่สุด
* ทุกวิกฤตมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ คนที่มองเห็นก่อน ปรับตัวก่อน และสร้างสมดุลย์ระหว่าง “คุณภาพสูง ประสิทธิภาพสูง และต้นทุนรวมต่ำ” ได้ก่อน คือคนที่จะยืนอยู่ได้ ในขณะที่คนอื่นค่อยๆ หลุดออกจากเกม
เพราะสุดท้ายแล้ว ชีวิตและธุรกิจมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันเสมอ
“การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำถามมีเพียงว่า… เราจะเป็นคนเลือกเปลี่ยนเอง หรือรอให้สถานการณ์บังคับให้เปลี่ยน”
#วันละเรื่องสองเรื่อง #CrisisManagement #Efficiency #TalentStrategy #Layoff #AIatWork #BusinessSurvival #FutureOfWork
เศรษฐกิจ
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย