วันนี้ เวลา 01:00 • ไลฟ์สไตล์

ทำไม 🇬🇱 เกาะกรีนแลนด์ (Greenland) จึงอยู่ภายใต้การปกครองของเดนมาร์ก

บทนำ : เกาะน้ำแข็งยักษ์กับคำถามทางประวัติศาสตร์
เมื่อพูดถึง “กรีนแลนด์” ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวของคนทั่วโลกมักเป็นดินแดนน้ำแข็งกว้างใหญ่ ฟยอร์ดลึก ภูเขาน้ำแข็งลอยกลางทะเล และแสงเหนือที่เต้นระบำบนท้องฟ้าอาร์กติก แต่เบื้องหลังภาพธรรมชาติอันยิ่งใหญ่นั้น กลับมีคำถามทางการเมืองและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคำถามหนึ่งคือ
เหตุใดเกาะที่อยู่ใกล้ทวีปอเมริกาเหนือ และมีวัฒนธรรมอินูอิตเป็นรากฐาน จึงอยู่ภายใต้การปกครองของ “เดนมาร์ก” ซึ่งอยู่ไกลออกไปในยุโรปเหนือ?
คำตอบของคำถามนี้ไม่ใช่เรื่องสั้น ๆ แต่เป็นเรื่องราวที่ลากยาวกว่า 1,000 ปี ครอบคลุมตั้งแต่ยุคไวกิ้ง การล่าอาณานิคม ระบบราชอาณาจักรยุโรป การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายระหว่างประเทศ ไปจนถึงการต่อสู้เพื่ออัตลักษณ์และการปกครองตนเองของชาวกรีนแลนด์ในยุคปัจจุบัน
บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนเวลาอย่างเป็นระบบ เพื่อทำความเข้าใจว่า
กรีนแลนด์ “มาเป็นของเดนมาร์ก” ได้อย่างไร และยังคงอยู่เช่นนั้นเพราะอะไร
1. กรีนแลนด์ก่อนยุโรป : แผ่นดินของชาวอินูอิต
ก่อนที่ยุโรปจะรู้จักกรีนแลนด์ ดินแดนแห่งนี้คือบ้านของมนุษย์มานานหลายพันปี
1.1 ชนพื้นเมืองดั้งเดิม
ชาวอินูอิต (Inuit) และกลุ่มบรรพบุรุษ เช่น Dorset และ Thule
ดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ทะเล วาฬ แมวน้ำ และการประมง
ไม่มี “รัฐ” หรือ “ประเทศ” แบบยุโรป แต่เป็นสังคมชุมชน
ในมุมมองสมัยใหม่ ดินแดนนี้คือ ดินแดนของชนพื้นเมือง อย่างแท้จริง
แต่ในโลกยุคกลางของยุโรป แนวคิดเรื่อง “เจ้าของแผ่นดิน” ถูกกำหนดโดย ผู้ค้นพบ + ผู้ปกครอง + อำนาจรัฐ
และจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง…
2. ไวกิ้ง : ผู้พากรีนแลนด์เข้าสู่โลกยุโรป
2.1 เอริค เดอะ เรด (Erik the Red)
ราวปี ค.ศ. 982 นักเดินเรือไวกิ้งจากนอร์เวย์ชื่อ เอริค เดอะ เรด ถูกเนรเทศจากไอซ์แลนด์ เขาจึงล่องเรือไปทางตะวันตก และค้นพบเกาะขนาดมหึมาแห่งหนึ่ง
เขาตั้งชื่อมันว่า Greenland
ไม่ใช่เพราะมันเขียว แต่เป็นการ “ตั้งชื่อเชิงการตลาด” เพื่อชักชวนคนอพยพ
2.2 อาณานิคมไวกิ้งในกรีนแลนด์
ตั้งถิ่นฐานหลัก 2 แห่ง: Eastern Settlement และ Western Settlement
นับถือศาสนาคริสต์
ติดต่อค้าขายกับยุโรป
สำคัญที่สุดคือ
ชาวไวกิ้งเหล่านี้ เป็นชาวนอร์เวย์
และนี่คือจุดเริ่มต้นของความเชื่อมโยงทางกฎหมายที่ยาวนาน
3. กรีนแลนด์กับราชอาณาจักรนอร์เวย์
3.1 การขึ้นกับกษัตริย์นอร์เวย์
ราวศตวรรษที่ 13 ชุมชนไวกิ้งในกรีนแลนด์ยอมรับอำนาจของ กษัตริย์นอร์เวย์
นั่นหมายความว่า
กรีนแลนด์ถูกนับว่าเป็น “ดินแดนในพระราชอาณาเขตของนอร์เวย์”
แม้จะอยู่ไกลและควบคุมได้จำกัด แต่ในโลกยุโรปยุคกลาง “การยอมรับทางนิตินัย” มีความสำคัญอย่างยิ่ง
4. การหายไปของไวกิ้ง และการไม่หายไปของสิทธิ์
4.1 ไวกิ้งหายไป แต่รัฐไม่หาย
ราวศตวรรษที่ 15 อาณานิคมไวกิ้งในกรีนแลนด์ค่อย ๆ ล่มสลาย
สาเหตุอาจรวมถึง:
ภูมิอากาศหนาวเย็นขึ้น (Little Ice Age)
ความโดดเดี่ยว
ปัญหาการค้า
อย่างไรก็ตาม
การที่ผู้คนหายไป ไม่ได้ทำให้ “สิทธิ์อธิปไตย” หายไปตามมุมมองของยุโรป
กรีนแลนด์ยังคงถูกนับว่าเป็นดินแดนของนอร์เวย์ในทางกฎหมาย
5. สหภาพเดนมาร์ก–นอร์เวย์ : จุดเปลี่ยนชี้ชะตา
5.1 การรวมราชอาณาจักร
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1380 เดนมาร์กและนอร์เวย์ถูกรวมอยู่ภายใต้กษัตริย์องค์เดียวกัน
เรียกว่า ราชอาณาจักรเดนมาร์ก–นอร์เวย์
ดินแดนในปกครองรวมถึง:
นอร์เวย์
ไอซ์แลนด์
หมู่เกาะแฟโร
กรีนแลนด์
ในช่วงนี้ กรีนแลนด์จึง “กลายเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กโดยทางอ้อม”
6. สนธิสัญญาคีล (1814) : จุดตัดขาดของนอร์เวย์
หลังสงครามนโปเลียน เดนมาร์กแพ้สงครามและถูกบังคับให้ลงนามใน สนธิสัญญาคีล
6.1 เงื่อนไขสำคัญ
เดนมาร์กต้องยก “นอร์เวย์” ให้สวีเดน
แต่ ดินแดนในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ได้แก่
กรีนแลนด์
ไอซ์แลนด์
หมู่เกาะแฟโร
ยังคงอยู่กับเดนมาร์ก
นี่คือเหตุผลทางกฎหมายที่ชัดเจนที่สุดว่า
กรีนแลนด์ไม่ได้ตกเป็นของสวีเดน แต่ตกอยู่กับเดนมาร์กโดยตรง
7. เดนมาร์กกับการปกครองกรีนแลนด์ยุคอาณานิคม
7.1 การกลับมาควบคุมอย่างจริงจัง
ศตวรรษที่ 18 เดนมาร์กเริ่มส่งมิชชันนารี พ่อค้า และข้าราชการไปกรีนแลนด์
ควบคุมการค้า
แผ่ศาสนาคริสต์
จัดตั้งระบบบริหาร
กรีนแลนด์กลายเป็น อาณานิคมของเดนมาร์กโดยพฤตินัย
8. กรีนแลนด์ในกฎหมายระหว่างประเทศ
8.1 คดีศาลโลก (1933)
นอร์เวย์เคยอ้างสิทธิ์พื้นที่ตะวันออกของกรีนแลนด์
แต่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินว่า
กรีนแลนด์เป็นของเดนมาร์กโดยชอบธรรม
คดีนี้ตอกย้ำสถานะของเดนมาร์กในระดับโลก
9. จากอาณานิคม สู่ดินแดนปกครองตนเอง
9.1 ยกเลิกสถานะอาณานิคม
ปี 1953 กรีนแลนด์ถูกยกระดับเป็น “ส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเดนมาร์ก”
9.2 การปกครองตนเอง
1979 : Home Rule
2009 : Self-Government
ชาวกรีนแลนด์มี:
รัฐบาลของตนเอง
ควบคุมทรัพยากรส่วนใหญ่
สิทธิ์ลงประชามติแยกประเทศในอนาคต
10. ทำไมกรีนแลนด์ “ยัง” อยู่กับเดนมาร์ก
เหตุผลสำคัญ:
เศรษฐกิจยังพึ่งพาเงินอุดหนุนจากเดนมาร์ก
ระบบรัฐสวัสดิการ
ความมั่นคงและการทูต
การตัดสินใจของประชาชนเอง
บทสรุป : ไม่ใช่การยึดครอง แต่คือประวัติศาสตร์ที่สืบทอด
กรีนแลนด์ไม่ได้ “ถูกยึด” โดยเดนมาร์กในแบบอาณานิคมคลาสสิก
แต่เป็นผลของ:
การค้นพบของไวกิ้ง
ระบบกษัตริย์ยุโรป
สนธิสัญญาระหว่างประเทศ
และการตัดสินใจของผู้คนในแต่ละยุค
วันนี้ กรีนแลนด์กำลังยืนอยู่บนทางแยกของประวัติศาสตร์อีกครั้ง
ระหว่างการเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเดนมาร์ก
หรือการก้าวสู่เอกราชเต็มรูปแบบในอนาคต
โฆษณา