Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
SILKSPAN
•
ติดตาม
27 ธ.ค. เวลา 06:00 • ยานยนต์
เปรียบเทียบประกันรถยนต์: “แผนไหน เหมาะกับคุณที่สุด”
เมื่อคุณมีรถยนต์ การเลือก “ประกันภัยรถยนต์” ที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละประเภทประกันให้ความคุ้มครองแตกต่างกันอย่างชัดเจน — ทั้งในเรื่องค่าคุ้มครอง เบี้ยประกัน และเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนั้นการเข้าใจจุดต่างของแต่ละแผนก่อนตัดสินใจ จะช่วยให้คุณได้ “ความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ และไม่จ่ายเกินจำเป็น”
ทำความรู้จักประกันรถยนต์แต่ละประเภท
ในไทย ประกันรถยนต์ที่นิยมหลัก ๆ มีหลาย “ชั้น” (type) ได้แก่
●
ประกันรถยนต์ชั้น 1 — เป็นแผนที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด: ทั้งอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี/ไม่มีคู่กรณี รถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเหตุรุนแรงต่าง ๆ ครอบคลุมแทบทุกความเสี่ยง
●
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ — เหมาะกับรถทั่วไปที่ต้องการคุ้มครองหลักเมื่อมีคู่กรณี หรือกรณีรถหาย ไฟไหม้ ถือว่าเป็น “ทางสายกลาง” ที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเบี้ยประกันและความคุ้มครอง
●
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ / ชั้น 3 — ให้ความคุ้มครองพื้นฐาน เช่น คุ้มครองบุคคลภายนอก หรือทรัพย์สินของบุคคลที่สาม เหมาะกับรถเก่า หรือรถที่มูลค่าไม่สูงมาก แต่ข้อจำกัดคือ ค่าซ่อมรถของคุณเองอาจไม่ครอบคลุม
แต่ละแผนมีระดับความคุ้มครองและราคาเบี้ยที่แตกต่าง — ก่อนเลือกระวังให้ดีว่า “คุณต้องการคุ้มครองระดับไหน” และ “รถ / การใช้งานของคุณเหมาะกับแผนไหน”
วิธีเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และรถของคุณ
ถ้ารถใหม่ / รถมีมูลค่าสูง / ใช้บ่อย / ขับทางไกล → ควรเลือกประกันชั้น 1
เพราะครอบคลุมทุกความเสี่ยง ทั้งเหตุไม่มีคู่กรณี อุบัติเหตุ น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือรถหาย เป็นเกราะป้องกันครบ จบในกรมธรรม์เดียว
ถ้ารถใช้งานในเมือง / ขับไม่บ่อย / มูลค่ากลาง ๆ → ประกันชั้น 2+ คือทางเลือกที่คุ้มค่า
ได้ความคุ้มครองแบบครบพอสมควร โดยเฉพาะกรณีชน รถหาย ไฟไหม้ แต่เบี้ยถูกกว่าเยอะ เหมาะกับคนที่ต้องการ “คุ้มค่า ใช้งานทั่วไป”
ถ้ารถเก่า / ใช้เฉพาะในเมือง / งบจำกัด → ประกันชั้น 3+ / 3 อาจพอเพียง
แต่ต้องยอมรับว่า “ความคุ้มครองจำกัด” โดยเฉพาะถ้ารถมีมูลค่า หากเกิดอุบัติเหตุที่ต้องซ่อม จะต้องรับภาระเองเยอะ อาจไม่คุ้มในระยะยาว
เคล็ดลับเปรียบเทียบให้ได้ประกันที่ “ใช่”
●
ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ครบ — ดูว่าครอบคลุมอะไรบ้าง (รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม อุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี ฯลฯ) ไม่ใช่ดูแค่ราคาเบี้ยอย่างเดียว
●
เปรียบเทียบ “เบี้ย vs ความคุ้มครอง” — อย่ารีบเลือกแค่เบี้ยถูก ถ้ารถคุณมีโอกาสเสี่ยงหรือมูลค่าสูง มากกว่าอาจได้ไม่คุ้มเสีย
●
พิจารณา “รูปแบบการใช้งานรถของคุณ” — ขับบ่อยไหม? เดินทางไกลไหม? รถเก่าหรือใหม่? — สิ่งนี้มีผลต่อความคุ้มค่า
สรุป
ไม่มี “ประกันที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน” — แต่มี “ประกันที่เหมาะกับคุณ” ถ้าคุณมีรถใหม่? ใช้งานหนัก? → ชั้น 1 คือคำตอบ ถ้าคุณใช้รถเบา ๆ ในเมือง → ชั้น 2+ อาจเพียงพอ แต่ถ้ารถเก่า งบน้อย และใช้งานน้อย → ชั้น 3+ / 3 ก็เป็นตัวเลือกหนึ่ง
การรู้จักเปรียบเทียบประกันรถยนต์อย่างเข้าใจ จะช่วยให้คุณ “จ่ายให้คุ้ม ได้ความคุ้มครองจริง” และขับขี่อย่างไม่ต้องกังวลเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด
อ่านบทความได้เต็มที่
https://www.silkspan.com/article/insurance/compare-car-insurance-all-type/
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย