19 ธ.ค. เวลา 08:11 • ไลฟ์สไตล์

“เลียม ลูกเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ไม่ได้หรอกนะ… มันคงไม่รอดหรอก”

แม่พูดแบบนั้น ในวันที่เด็กชายวัยห้าขวบอุ้มเจ้ารัสตี้กลับบ้าน
วันนั้น เขาพบลูกสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กติดอยู่ในรั้วหลังบ้านคุณปู่คุณย่า
ร่างกายของมันเย็นเฉียบ แทบไม่ขยับ
เลียมค่อย ๆ ดึงมันออกมา อุ้มแนบอก แล้วพากลับบ้านโดยไม่ลังเล
ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ไม่สามารถรับมันได้ในคืนนั้น
คำแนะนำมีเพียงให้ดูแลให้อบอุ่นและให้อาหาร
และเด็กชายตัวเล็ก ๆ ก็ทำทุกอย่างที่เขาทำได้
ให้อาหารด้วยหลอดหยดทุก ๆ สองสามชั่วโมง
ใช้ผ้าขนหนูอุ่นจากเครื่องอบผ้าห่อร่างเล็ก ๆ นั้นไว้
เขานอนบนพื้นข้าง ๆ ไม่ยอมไปไหน จนกว่ารัสตี้จะเริ่มแข็งแรงขึ้น
จากวันที่แทบไม่รอด
รัสตี้เริ่มกินอาหารเองได้
เริ่มยืน เริ่มเดิน
และในไม่ช้า…ก็เริ่มเดินตามเลียมไปทุกที่
ตลอดช่วงเวลาที่เติบโต
รัสตี้อยู่เคียงข้างเขาในทุกเรื่อง
เลียมเป็นคนดูแลอาหาร
พาไปตรวจสุขภาพ
จัดการใบอนุญาตทุกอย่างด้วยตัวเอง
ในวันที่ชีวิตหนักหนา และไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ
รัสตี้คือกำลังใจเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่เคยหายไป
และเพราะสุนัขจิ้งจอกตัวนั้น
เลียมจึงเลือกเส้นทางชีวิต
เขาเรียนสัตวแพทย์…เพื่อช่วยชีวิตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ดังนั้น ในวันรับปริญญา
เขาจึงพารัสตี้ไปด้วย
เหมือนคำสัญญาที่เคยบอกไว้ตั้งแต่วันแรก
วันที่เด็กชายวัยห้าขวบเลือกจะไม่ยอมแพ้
และเลือกจะเชื่อในชีวิตเล็ก ๆ หนึ่งชีวิต 🐾❤️
โฆษณา