5 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าวรอบโลก

สวัสดิการที่บาชาร์ อัล-อัสซาด มอบให้แก่ประชาชนในขณะที่เขาปกครองประเทศซีเรีย

Gemini : การพิจารณาสวัสดิการในสมัยของ บาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad) ต้องแบ่งออกเป็นสองช่วง คือช่วงก่อนเกิดสงครามกลางเมือง (ค.ศ. 2000–2011) และช่วงที่เกิดสงครามแล้ว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและขีดความสามารถของรัฐในการจัดสวัสดิการมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ
ในช่วงที่เขารับตำแหน่งต่อจากบิดา (ฮาเฟซ อัล-อัสซาด) เขาพยายามนำนโยบาย "การปฏิรูปเศรษฐกิจสู่ตลาดสังคมนิยม" มาใช้ โดยมีสวัสดิการหลักๆ ดังนี้ครับ:
1. การอุดหนุนสินค้าพื้นฐาน (Subsidies)
รัฐบาลซีเรียมีระบบการอุดหนุนราคาที่เข้มแข็งมาก เพื่อรักษาค่าครองชีพให้ต่ำ:
* ขนมปังและอาหารหลัก: รัฐบาลอุดหนุนราคาขนมปัง (Khubz) ซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวซีเรียให้มีราคาถูกมากจนเกือบจะฟรี รวมถึงน้ำตาลและข้าว
* น้ำมันและพลังงาน: ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊สหุงต้ม และไฟฟ้า ถูกควบคุมโดยรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคเกษตรกรรม
2. ระบบการศึกษาฟรี
* ฟรีทุกระดับ: เช่นเดียวกับประเทศในกลุ่มอาหรับสายสังคมนิยม ซีเรียจัดการศึกษาฟรีตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงมหาวิทยาลัย
* การขยายโอกาส: ในช่วงปี 2000 มีการเปิดโอกาสให้มีมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกๆ เพื่อลดความแออัดของมหาวิทยาลัยรัฐ แต่อัตราการเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยของรัฐยังคงไม่มีค่าเล่าเรียนสำหรับประชาชนทั่วไป
3. ระบบสาธารณสุข
* การเข้าถึงการรักษา: ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐได้ฟรีหรือเสียค่าใช้จ่ายในราคาที่ต่ำมาก
* อุตสาหกรรมยา: ซีเรียก่อนสงครามเคยเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของภูมิภาค สามารถผลิตยาใช้เองได้มากกว่า 90% ของความต้องการในประเทศ ทำให้ยามีราคาถูกและเข้าถึงได้ง่าย
4. การจ้างงานในภาครัฐ
* ความมั่นคงในงาน: รัฐบาลอัสซาดรักษาฐานเสียงด้วยการจ้างงานประชาชนจำนวนมหาศาลเข้าสู่ระบบราชการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมาพร้อมกับบำนาญและสวัสดิการหลังเกษียณที่มั่นคง
5. การพัฒนาด้านสิทธิสตรีและสังคมเมือง
* รัฐฆราวาส (Secularism): ซีเรียภายใต้พรรคบะอษ์มีลักษณะเป็นรัฐฆราวาส สตรีชาวซีเรียมีสิทธิในการทำงาน การแต่งกาย และการศึกษาที่ค่อนข้างอิสระเมื่อเทียบกับประเทศอนุรักษนิยมอื่นๆ ในภูมิภาค
จุดเปลี่ยนหลังปี 2011 (ช่วงสงครามกลางเมือง)
เมื่อเกิดสงครามกลางเมือง สวัสดิการเหล่านี้พังทลายลงอย่างมาก:
* ระบบการปันส่วน (Smart Card): รัฐบาลต้องเปลี่ยนมาใช้บัตรอัจฉริยะเพื่อจำกัดปริมาณการซื้อสินค้าอุดหนุน (เช่น ขนมปัง น้ำมัน) เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและถูกคว่ำบาตร
* การขาดแคลน: แม้ตามกฎหมายสวัสดิการจะยังมีอยู่ แต่ในทางปฏิบัติประชาชนต้องเผชิญกับการขาดแคลนไฟฟ้า (มีการตัดไฟเป็นเวลานาน) และยารักษาโรคที่ราคาพุ่งสูงขึ้น
สรุป:
ในสมัยของบาชาร์ อัล-อัสซาด สวัสดิการเน้นไปที่การรักษา "เสถียรภาพทางสังคม" ผ่านการคุมราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งช่วยให้ประชาชนชั้นกลางและล่างอยู่ได้ แต่การปฏิรูปเศรษฐกิจที่โน้มเอียงไปทางทุนนิยมในช่วงปี 2005 เป็นต้นมา ก็ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในชนวนเหตุของความไม่พอใจก่อนเกิดสงครามครับ
Gemini จบ
โฆษณา