3 ชั่วโมงที่แล้ว • การศึกษา

📚 Learn กับ Study - เรียนเหมือนกัน แต่ภาษาอังกฤษคิดไม่เหมือนกัน

ภาษาไทยใช้คำว่า
“เรียน”
คำเดียว
ได้หมดทั้ง
เรียนหนังสือ
เรียนรู้ชีวิต
เรียนจากความผิดพลาด
แต่ภาษาอังกฤษ
แยกชัดว่า
คุณกำลังพูดถึง “กระบวนการ”
หรือ “ผลลัพธ์ของการเรียน”
1️⃣ Learn = ได้ความรู้ / เกิดการเรียนรู้ 🌱
learn
เน้นที่
สิ่งที่ “เกิดขึ้นในตัวเรา”
หลังจากผ่านการเรียน การลอง การผิดพลาด
ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการ
และไม่จำเป็นต้องมีหนังสือ
🔹 ตัวอย่าง
I learned a lot from my mistakes.
อธิบาย:
- ไม่ได้ไปนั่งอ่าน
- แต่เกิดความเข้าใจขึ้นจริง
- learn = ผลลัพธ์ของประสบการณ์
📌 โฟกัส: การเปลี่ยนแปลงภายใน
2️⃣ Study = ตั้งใจเรียน / ลงแรงเรียน 📖
study
เน้นที่
การนั่งเรียน
การอ่าน
การทบทวน
กระบวนการอย่างเป็นระบบ
มักเกี่ยวกับ:
- โรงเรียน
- วิชา
- หนังสือ
- การสอบ
🔹 ตัวอย่าง
She is studying biology.
อธิบาย:
- มีโครงสร้าง
- มีเนื้อหา
- มีเป้าหมายชัด
📌 โฟกัส: ความพยายามและกระบวนการ
3️⃣ Study ≠ Learn เสมอไป ⚠️
จุดที่คนมักเข้าใจผิดคือ
คิดว่า study = learn
แต่ในภาษาอังกฤษ
คุณ study ได้
โดยที่ยัง ไม่ learn ก็ได้ 😅
🔹 ตัวอย่าง
I studied all night, but I didn’t learn much.
อธิบาย:
- ลงแรงเรียนจริง
- แต่ความเข้าใจไม่เกิด
- ภาษาอังกฤษแยก 2 สิ่งนี้ชัดมาก
4️⃣ Learn โดยไม่ study ก็ได้ 🤹‍♀️
กลับกัน
คุณสามารถ learn
โดยไม่ต้อง study เลย
🔹 ตัวอย่าง
I learned English by watching movies.
อธิบาย:
- ไม่มีตำรา
- ไม่มีชั้นเรียน
- แต่ความเข้าใจเกิดจริง
5️⃣ ใช้กับอะไรได้บ้าง? 👀
Learn ใช้กับ:
- learn English
- learn a skill
- learn from experience
Study ใช้กับ:
- study math
- study for an exam
- study at university
ภาษาอังกฤษเลือกคำ
ตาม “มุมมองของการเรียน”
6️⃣ เทคนิคจำง่ายแบบไม่ต้องแปล 🧠✨
ถามตัวเองแค่นี้ 👇
ถ้าพูดถึง การลงแรงเรียน
→ ใช้ study
ถ้าพูดถึง สิ่งที่เข้าใจจริง
→ ใช้ learn
กระบวนการ ≠ ผลลัพธ์
ภาษาอังกฤษแยก 2 อย่างนี้ออกจากกัน
✍️ บันทึกจาก English Notes
ภาษาอังกฤษไม่ได้สนใจแค่ว่า
คุณ “นั่งเรียน” หรือไม่
แต่มันสนใจว่า
คุณ “ได้อะไรกลับมา”
Study อาจทำให้คุณเหนื่อย
แต่ Learn
คือสิ่งที่เปลี่ยนคุณจริงๆ 🌱
และเมื่อเข้าใจความต่างนี้
ประโยคธรรมดา
จะเริ่มฟังดูเหมือนเจ้าของภาษาทันที ✨
โฆษณา