Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พลพล
•
ติดตาม
19 ธ.ค. เวลา 13:43 • ความงาม
รักษาสิว รอยสิวไม่ยาก ต้องเข้าใจประเภทของสิวให้ถูกก่อนรักษา
การรักษาสิวอย่างถูกวิธีเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหลายคนพยายามรักษาสิวด้วยตัวเองแต่ไม่ได้ผล สิวเก่าไม่หาย สิวใหม่ขึ้นซ้ำ จนเริ่มไม่มั่นใจว่าควรรักษาสิวแบบไหนถึงจะดีที่สุด สำหรับใครที่สงสัยว่ารักษาสิววิธีไหนดีที่สุด รักษาแบบไหนเหมาะกับตัวเอง พร้อมวิธีการรักษารอยสิว หลุมสิวอย่างถูกวิธี บทความนี้มีคำตอบ!
เยี่ยมชม
aurabangkokclinic.com
รักษาสิวด้วยตัวเองต้องทำอย่างไร? แนะนำวิธีรักษาสิวและรอยสิว
รักษาสิวใช้วิธีไหนดี? รู้ทันพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิวมีอะไรบ้าง วิธีรักษาสิวด้วยตัวเองต้องทำอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีรักษารอยสิวช่วยให้ผิวใส เคลียร์ เรียบเนียน
สิว คืออะไร?
สิวเกิดจากอะไร
สิว ส่วนใหญ่เกิดจากการอุดตันของความมันและสิ่งสกปรกในรูขุมขนและต่อมไขมันบนผิว ทำให้เกิดการสะสมของไขมันและเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว เมื่อมีแบคทีเรียเข้ามาร่วมด้วยก็จะเกิดการอักเสบ จนกลายเป็นสิวอักเสบ หรือสิวหัวหนองได้ การรักษาสิวอย่างถูกวิธีตั้งแต่เริ่มแรกช่วยลดโอกาสเกิดรอยแผลและหลุมสิว สำหรับคนที่มีหน้าสิว การทำความสะอาดผิวอย่างเหมาะสมและเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยควบคุมการเกิดสิวและลดการอักเสบ
หลุมสิว คืออะไร?
หลุมสิว คือ รอยบุ๋มบนผิวหน้าที่เกิดจากการอักเสบของสิวชนิดรุนแรง เช่น สิวอักเสบหรือสิวหัวช้าง เมื่อผิวไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนกลับมาทดแทนได้เต็มที่ ผิวจะยุบลงทำให้เกิดเป็นหลุม สิวที่พัฒนาไปจนเกิดหลุมสิวลึกมักเกิดจากการปล่อยให้สิวหายเองโดยไม่รักษา หรือบีบสิวกดสิวแบบผิดวิธี ทำให้การรักษาสิวต้องทำโดยแพทย์เท่านั้นเพื่อป้องกันการเกิดหลุม สิวเหล่านี้ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยให้รอยหลุมหรือรอยแดงลดลงได้
สิวแบบไหนที่มักจะทำให้เกิดหลุมสิว
สิวหัวช้าง (Cyst)
สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้เกิดตุ่มหรือก้อนขนาดใหญ่บนหน้า คนที่หน้าเป็นสิวมักมีอาการบวม นูน และเจ็บ ถึงแม้ไม่ได้สัมผัส การรักษาสิวในกรณีนี้ควรทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะการบีบหรือแกะสิวเองอาจทำให้เกิดหลุมสิวและรอยแผลเป็นถาวรได้ การรักษาสิวหัวช้างโดยการใช้ยา การกดสิวโดยแพทย์ การทำหัตถการหลังจากกดสิวแล้ว ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดหลุมสิวลึกได้
สิวอักเสบ (Pustule)
สิวอักเสบ เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดง เป็นตุ่มนูนขึ้นจากผิว มีหนองอยู่ภายใน ผิวบริเวณที่เป็นสิวอักเสบมักบวมและเจ็บ การอักเสบเกิดจากแบคทีเรียร่วมกับการอุดตันของรูขุมขน คนเป็นสิวมักพบว่าหน้าอักเสบเป็นจุด ๆ การรักษาสิวอักเสบอย่างถูกวิธี คือการรักษาสิวโดยแพทย์ จะสามารถช่วยลดอาการอักเสบของผิวและป้องกันไม่ให้เกิดหลุม ส่วนสิวอักเสบที่ไม่ได้รับการดูแลหรือกดเองมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดรอยแผลเป็นและหลุมบนผิวหน้า
หลุมสิวมีกี่แบบ?
หลุมสิวเกิดจากการอักเสบของสิวและผิวไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อกลับคืนได้ ทำให้เกิดรอยบุ๋มบนผิวหน้า หลุมสิวสามารถแบ่งออกเป็นแบบ 5 หลัก ๆ ดังนี้
●
Ice Pick Scar หลุมสิวแบบนี้มักจะมีลักษณะลึก ปากแผลแคบ มักเกิดจากสิวอักเสบหรือการกดบีบสิวจนผิวเสียหาย คอลลาเจนถูกทำลาย ทำให้หลุมสิวลึกและยากต่อการฟื้นฟู
●
Box Scar หลุมสิวจะเป็นบ่อกว้าง มีขอบชัดเจน ความลึกประมาณ 3–5 มม. มักเกิดจากสิวอักเสบชนิดรุนแรงหรือคนที่เป็นสิวเรื้อรัง การรักษาสิวโดยแพทย์ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดหลุมซ้ำ
●
Rolling Scar จะเป็นหลุมตื้น มีลักษณะเว้าลงเพียงผิวชั้นบน มักเกิดจากการอักเสบไม่รุนแรงหรือเป็นสิวที่รักษาไม่ต่อเนื่อง การักษาสิวอย่างเหมาะสมและถูกวิธี จะช่วยให้หลุมชนิดนี้ตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนมากขึ้น
●
Hypertrophic Scar เป็นรอยแผลเป็นที่มีลักษณะนูนขึ้นมาเหนือผิว มีสีคล้ำ ๆ โดยอาจเป็นสีดำหรือสีแดง ขนาดแผลคงที่ ไม่มีการขยายใหญ่ขึ้น แผลเป็นแบบนี้เกิดจากการที่ผิวหนังสร้างเนื้อเยื่อมากเกินไปในกระบวนการสมานแผล มักเกิดบริเวณหน้าอก หลัง แต่ก็สามารถเกิดบนใบหน้าได้
●
Keloid Scar คล้าย Hypertrophic Scar แต่มีความหนาและขยายใหญ่เกินขอบเขตของบาดแผลเดิม ลักษณะเป็นก้อนแดงแข็ง บางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วย พบบ่อยบริเวณไหล่และใบหู
รอยสิว หลุมสิว รักษาวิธีไหนดี?
หลังรักษาสิวหลายครั้งทิ้งรอยไว้ ทำให้หลังรักษาสิวแล้วอาจจะต้องรักษารอยสิว หลุมสิว ต้องเน้นไปที่การกระตุ้นคอลลาเจนและการสร้างผิวใหม่ให้ผิวกลับมาเต็ม ดังนั้น โปรแกรมที่เหมาะจะใช้รักษาหลุมสิวคือการฉีดเมโสเพื่อรักษารอยสิว การฉีด Skin Booster การทำโปรแกรม Microneedling หรือการใช้เลเซอร์จำพวก Pico Laser ในการช่วยลดเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้รอยสิวลดลง หรือฉีดสารเติมเต็มเพื่อทำให้หลุมสิวแลดูตื้นขึ้น
รวมเรื่องต้องระวัง ถ้าไม่อยากเป็นสิว!
การป้องกันการเกิดสิวเริ่มจากการปรับพฤติกรรมประจำวันให้เหมาะสม เพื่อช่วยลดสิวและป้องกันรอยสิวที่ตามมา แนะนำข้อควรระวังในการป้องกันการเกิดสิว ได้แก่
●
หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้าโดยตรง เพราะมือสกปรกเป็นแหล่งของเชื้อแบคทีเรีย การจับ แคะ หรือบีบสิวอาจทำให้สิวอักเสบและเกิดรอยสิวได้
●
เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน ใช้โฟมล้างหน้า ครีมบำรุง และกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง การใช้ยาทาสิวอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ช่วยลดการเกิดสิวซ้ำ
●
ระวังอาหารและเครื่องดื่ม หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด อาหารมันจัด หรือของทอดเยอะ เพราะอาจกระตุ้นต่อมไขมัน ทำให้เป็นสิวมากขึ้น
●
พักผ่อนและจัดการความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอหรือเครียดสะสม ทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงและกระตุ้นให้ผิวเกิดสิว การผ่อนคลายจิตใจช่วยเป็นส่วนหนึ่งของวิธีลดสิว
●
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและฝุ่นละออง แสงแดดทำให้ผิวอักเสบง่าย ฝุ่นละอองสะสมบนใบหน้าอาจทำให้รูขุมขนอุดตัน การป้องกันช่วยลดสิวอักเสบและรอยดำหลังสิว
●
ออกกำลังกายและดูแลสุขภาพผิว การออกกำลังกายช่วยระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ทำให้ผิวสดใสและช่วยลดสิวอักเสบร่วมกับการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ
รักษาสิวเพื่อใบหน้าที่สวย ดูเรียบเนียน เผยผิวได้อย่างมั่นใจ
เป็นสิวต้องรักษาอย่างถูกวิธี ถ้าปล่อยไว้หรือไปแคะ แกะ เกา กดเอง อาจกลายเป็นรอยสิวหรือหลุมสิวได้ การดูแลสิวต้องเข้าใจสาเหตุของการเกิดสิว รู้วิธีลดสิวอักเสบ ซึ่งปัจจุบันมีการรักษาสิวมีหลายแบบ ทั้งยาทา การกินยาไปจนถึงหัตถการที่ช่วยดูแลสิวอักเสบ รอยสิว และหลุมสิว สำหรับใครที่เป็นสิวเรื้อรัง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จากคลินิกที่มีบริการรักษาสิว รอยสิว หลุมสิว เพื่อแก้ปัญหาสิวและรอยสิวได้อย่างตรงจุดมากที่สุด
ความงาม
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย