เมื่อวาน เวลา 04:13 • ไลฟ์สไตล์
ขอตอบในฐานะคนดูแลร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนะ คนใช้เครื่องฝาบนมากกว่าฝาหน้า อาจจะเพราะที่ร้านมีเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาด 10กิโล ตัวอาจจะเล็กเกินไปหน่อย ทำให้ไม่เป็นที่นิยม เพราะจุผ้าได้น้อย เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว หรือ 1-3วันซักที ผ้าไม่เยอะ
แต่ในความเป็นจริงส่วนใหญ่ คนจะซักผ้าอาทิตย์ละหน กว่าผ้าจะซักก็มาตะกร้าใหญ่โต ซักทีทั้งครอบครัว 2-4 คน จึงมักจะซักเครื่อง 15 โล - 21 โล ที่สามารถจุผ้าได้ทีเดียวเยอะๆ
หรือบางคนประหยัด ผ้าเยอะ แต่จะยัดใส่เครื่อง 10โลและ 13โลให้ได้ ผ้าแน่นๆเลยก็มี คนซักไม่ได้ห่วงว่าผ้าจะสะอาดไหม แต่อยากจะประหยัด10-20 บาท เพราะเห็นว่าราคาถูกกว่า แค่นั้นเอง
ส่วนคนดูแล สิ่งที่กลัวที่สุดสำหรับเครื่องซักผ้าคือ ผ้าห่มนาโน ผ้านิ่มๆบางๆ ราคาถูก ที่หลายคนชอบซื้อ แทบจะทำเครื่องซักผ้าพัง หรือทำให้การซักไม่จบ เป็นปัญหาบ่อยมาก เพราะตอนผ้าโดนน้ำ มันหนักมาก แล้วพอจะปั่น ผ้าไปกองอยู่ข้างๆ ก็ทำให้เครื่องเสียสมดุลย์
เครื่องฝาบน ถังแกว่งฟาดกับตัวเครื่อง ดัง ปัง ปัง ปัง ถ้าไม่น็อต หยุดการทำงาน ก็จะปล่อยน้ำ ซักไป 3 ชม.ก็ไม่จบ เพราะปั่นไม่ได้ ปั่นทีไร ก็ไม่รอดสักที ปล่อยน้ำซักอีกรอบ ทั้งวัน ส่วนถ้าเป็นฝาหน้า ก็เจออาการคล้ายๆ แต่แรงเหวี่ยงมากกว่า ก็ใช้เวลาซักเกินชั่วโมง ปล่อยน้ำหลายรอบเช่นกัน
ผ้านาโน ตอนโดนน้ำหนักมาก คนก็ซักมือไม่ไหวเหมือนกัน ยังไงเขาก็เอามาโยนลงเครื่อง ต้องเฝ้าเครื่องเลย และคอยปรับผ้าไม่ให้ไปกองหนักข้างเดียว ต้องปรับผ้าให้สมดุลย์ก่อนปั่น เพื่อให้การซักเสร็จสมบูรณ์
ยอมรับว่าฝาบนซักสะอาดสู้ฝาหน้าไม่ได้ แต่ฝาบนใส่น้ำยาซักผ้าและปรับผ้านุ่มได้ตามต้องการ เปิดฝาใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้ายได้ ใส่น้ำยาซักผ้าเยอะก็ไม่เป็นปัญหา ยกเว้นอย่าใส่ผงเยอะ อาจะเป็นคราบได้
แต่ฝาหน้าใส่น้ำยาซักผ้าได้จำกัด น้ำยาปรับผ้านุ่มได้จำกัด เพราะช่องใส่เล็ก และใส่เป็นผงซักผ้าไม่ได้ มันจะเป็นก้อนไม่ละลายน้ำ แล้วถ้าใส่น้ำยาซักผ้าเยอะ ผลคือ ฟองไหลออกมานอกเครื่อง ฟองล้น น้ำนองพื้น พอใส่น้ำยาซักผ้าน้อย ใส่ปรับผ้านุ่มน้อย ผลคือ ไม่หอม สะอาดแต่ไม่หอม สู้ฝาบนไม่ได้ หอมกว่า
ส่วนตัวเราก็ชอบฝาบนนะ เพราะเราชอบเปิดฝา ตอนน้ำสุดท้ายเพื่อใส่ปรับผ้านุ่ม เพราะถ้าใส่ไว้ก่อน น้ำยาปรับผ้านุ่มจะออกตอนน้ำสอง แล้วล้างทิ้งตอนน้ำสุดท้าย ทำให้ผ้าไม่หอม เราจึงเปิดฝาเพื่อใส่ตอนน้ำสุดท้าย ผ้าจะหอมมาก
โฆษณา