Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
CREATIVE TALK
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 ชั่วโมงที่แล้ว • ธุรกิจ
เพราะแรงใจไม่ใช่ของฟรี อยากให้ทีมเต็มที่ ต้องสร้างแรงจูงใจ ไม่ใช่แค่แรงกดดัน
รู้จัก 10 วิธีสร้างแรงจูงใจให้ทีมได้ ด้วยการมอบรางวัลที่มีความหมาย
เคยไหม? ทำงานหนักทั้งปี แต่ไม่มีใครบอกเลยว่าเราทำได้ดีหรือเปล่า?
เพราะคนทำงานยุคนี้ให้ความสำคัญกับคุณค่าของตัวเอง แต่ถ้าหากคุณค่าที่มีไม่ถูกมองเห็น หรือไม่ถูกดูแลเอาใจใส่ ก็อาจทำให้หมดไฟได้เช่นกัน เพราะสำหรับคนทำงาน หลังจากทำงานหนักมาเป็นเวลานาน เมื่องานเสร็จก็อยากได้อะไรให้ตัวเองบ้าง เพื่อเป็นรางวัล และสิ่งยืนยันที่บอกว่าเราทำมันได้ดี
สำหรับลีดเดอร์บางคน อาจมองว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างในการใช้เงินฟุ่มเฟือย แต่ในความเป็นจริงการให้รางวัลสามารถเพิ่มแรงจูงใจ และทำให้ทีมมี productivity สูงขึ้นได้ หากลีดเดอร์ต้องการคนทำงานที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่คนทำงานเองก็อยากได้รับการยอมรับในความพยายามที่ทำลงไป ดังนั้นวิธีที่ควรทำคือการสร้างแรงจูงใจด้วยการให้รางวัลที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยหนุนให้ productivity ของทีมสูงขึ้นตามมา
คุณ Ashley Whillan รองศาสตราจารย์จาก Harvard Business School กล่าวว่า
“สำหรับพนักงานส่วนใหญ่ในปัจจุบัน คุณต้องพยายามช่วยปลูกฝังแรงจูงใจจากภายใน (Intrinsic Motivation) ให้พวกเขารู้สึกมีแรงจูงใจที่จะทุ่มเทมากขึ้น เพราะความสนุกในสิ่งที่ทำและการได้รับคำชื่นชมสำหรับงานของพวกเขา จะช่วยจูงใจเขาได้ ที่ไม่ใช่แค่แรงจูงใจจากเงินอย่างเดียว”
นั่นเป็นเหตุผลให้ลีดเดอร์ควรมอบรางวัลเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับทีม ที่ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่ยังรวมถึงเรื่องความรู้สึก หรือเรื่องของจิตใจ เพราะคนทำงานยุคใหม่ไม่ได้สนใจว่าจะทำงานได้ดีเท่าไหร่ แต่สนใจว่ามีคุณค่าแค่ไหน ดังนั้นการมอบรางวัลให้เมื่อทำงานสำเร็จ เป็นสิ่งที่ลีดเดอร์ควรทำเพื่อบ่งบอกว่า พนักงานหรือทีมยังมีคุณค่า และจะช่วยลดภาวะของการหมดไฟไปได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะพามาดูวิธีสร้างแรงจูงใจให้คนทำงานยุคใหม่ ใน 10 วิธี
10 วิธีมอบรางวัลที่มีความหมาย เพื่อไม่ให้ความพยายามสูญเปล่า
🔷 1. ก่อนจะได้อะไร ควรรู้ก่อนว่าต้องทำอะไร
วิธีแรกคือการระบุเงื่อนไขให้ชัดเจนว่า ต้องทำอะไร ถึงจะได้รางวัลที่ต้องการ เพื่อทุกคนเข้าใจตรงกันและรู้ว่ากำลังทำงานเพื่ออะไร และมีอะไรรออยู่เมื่อทำงานได้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลงานของทีมอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มากกว่าแค่ทำไปเรื่อย ๆ เช่น แจ้งให้ทีมรู้ล่วงหน้าว่าถ้าทำคอนเทนต์ได้เกินเป้า KPI ที่ตั้งไว้ หัวหน้าทีมจะพาไปกินเลี้ยง
🔷 2. จัดรางวัลที่ต้องได้ ให้ตรงกับผลงานที่ทำได้
วิธีต่อมาคือ เมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอะไร ก็ต้องส่งเสริมให้รางวัลที่ได้สอดคล้องกับผลงานที่ทำด้วย เพื่อให้ทีมเข้าใจประสิทธิภาพ และเข้าใจว่าต้องทำอะไรให้ได้ ถ้าอยากจะได้รางวัลตอบแทน
ดังนั้นการสื่อสารอย่างชัดเจนว่าทีมจะรับรางวัลได้อย่างไร และลีดเดอร์ก็สามารถให้รางวัลและยอมรับพนักงานตามข้อมูลผลการปฏิบัติงาน เช่น ในบริษัทมีเป้าหมายคือ การรวบรวมคำยืนยันจากลูกค้ามากขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ลีดเดอร์อาจแจ้งรางวัลสำหรับทีมที่ดูแลลูกค้า หรือจูงใจลูกค้าให้เข้าร่วมได้ โดยอาจให้รางวัลเป็นบัตรของขวัญ หรือของพรีเมียมพิเศษของบริษัท ตามความเหมาะสมของผลงานที่ทำได้
🔷 3. ไม่ใช่แค่ได้รางวัล แต่ต้องเป็นรางวัลที่อยากได้
เมื่อทีมรู้แล้วว่าวิธีการจะได้รางวัลคืออะไร และต้องหาวิธีที่จะได้รางวัล วิธีต่อมาคือ ‘ของรางวัล’ ที่จะได้ การมอบรางวัลที่มีความหลากหลาย และมีความหมาย จะทำให้สามารถจูงใจพนักงานทำงานได้ดีขึ้น และมีแรงจะทำงานมากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ลีดเดอร์ต้องมองหารางวัลที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าแค่ได้รางวัล แต่ต้องรู้สึกว่าเป็นรางวัลที่อยากได้ เช่น ทีมต้องการความยืดหยุ่นในการจัดตารางเวลาหรือเปล่า ? แล้วตารางเวลาแบบไหนที่ทีมต้องการ ?
🔷 4. มองเห็นความสำเร็จในทุก ๆ ก้าวที่ทีมเดิน
ไม่ว่าจะทำผลงานได้มากหรือน้อยแค่ไหน ลีดเดอร์ไม่ควรมองข้าม แต่ควรหันมาใส่ใจทั้งความสำเร็จเล็ก ๆ และความสำเร็จครั้งใหญ่ เพราะถึงแม้การมุ่งเป้าไปที่ชัยชนะก้อนใหญ่จะสำคัญ แต่รายละเอียดเล็ก ๆ ระหว่างทางก็เป็นสิ่งที่ช่วยพาให้ทีมสู่ความสำเร็จนั้นได้ไม่แพ้กัน เช่น การให้รางวัลระยะสั้น ในช่วง 2–3 ปีของการทำงาน เพื่อเติมกำลังใจในทีม โดยไม่ต้องรอให้ครบ 5 ปีถึงค่อยมอบรางวัลให้ทีม
🔷 5. เสริมแรงใจให้ทั้งทีม ด้วยรางวัลจากความพยายามร่วมกัน
วิธีต่อมาคือการส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ที่ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง เพราะการทำงานเป็นทีมช่วยเสริม productivity ของแต่ละคน และนำไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดี รวมถึงยังส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เกิดความร่วมมือ นวัตกรรม และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในบริษัท
ดังนั้นการมอบรางวัลให้กับความพยายามร่วมกันของทีม ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยเสริม productivity ให้ได้มากยิ่งขึ้น เช่น เมื่อทีมทำโปรเจกต์เสร็จเร็วกว่าที่วางแผนไว้ ลีดเดอร์ก็ควรมอบรางวัลให้ทีมด้วยรางวัลที่เป็นกิจกรรมกลุ่ม อาจจะเป็นการไปเที่ยวทะเลที่เลือกด้วยสมาชิกในทีม เป็นต้น
🔷 6. สร้างเป้าหมายในงาน ให้เหมือนด่านในเกม
1
ถ้าหากอยากเพิ่มให้การแข่งขันมีความสนุก และผ่อนคลายมากขึ้น การสร้างการแข่งขันเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะช่วยให้บรรยากาศการทำงานผ่อนคลาย ถ้าหากอยู่ในระดับที่เหมาะสม (เช่น เกมสะสมคะแนน) เพื่อให้บริษัทมีทางเลือกในการให้รางวัลเพิ่มขึ้น และพนักงานรู้สึกถึงแรงจูงใจในระดับที่เหมาะสมจากเพื่อนร่วมงาน และลีดเดอร์ เช่น การทำเกมสะสมคะแนนเพื่อแลกรางวัลช่วยเพิ่มความสนุกในการทำงานได้
🔷 7. เลือกรางวัลให้ตรงใจทีม ในทุกช่วงเวลา
เมื่อเลือกของรางวัลให้เหมาะสมแล้ว ก็อย่าลืมที่จะเปลี่ยนของรางวัลให้มีความทันสมัย และสดใหม่อยู่เสมอ เพราะบางครั้งทีมอาจเบื่อกับรางวัล ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้คุณค่าของรางวัลนั้นลดลง
เพราะฉะนั้นถ้าหากต้องการให้ทีมมุ่งมั่นอยู่ตลอดเวลา ก็ควรที่จะเปลี่ยนรางวัลบ่อย ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการของทีมที่เปลี่ยนไป เช่น ลีดเดอร์ต้องเปลี่ยนของขวัญจากเดิมที่เคยให้รางวัลเป็นบัตรของขวัญเหมือนกันทุกปี เป็นรางวัลที่แตกต่างออกไปในแต่ละช่วง เช่น สัปดาห์ทำงาน 4 วันชั่วคราวหลังปิดโปรเจกต์ใหญ่ ให้รางวัลคลาสเวิร์กช็อปตามความสนใจของทีม ซึ่งช่วยให้รางวัลกลับมาน่าสนใจและกลับมาสร้างแรงจูงใจอีกครั้ง
🔷 8. มองเห็นสมาชิกในทีมเป็นคนคนหนึ่ง ไม่ใช่แค่พนักงานหนึ่งคน
วิธีนี้เป็นการลงรายละเอียดที่ลึกกว่าเดิม เนื่องจากเป็นการเลือกรางวัลให้เฉพาะบุคคล ซึ่งทำให้ทีมได้มีส่วนร่วมและมีพัฒนาการที่ดีกว่า เพราะทำให้รู้สึกได้รับการยอมรับในฐานะคนพิเศษ มากกว่าแค่คนทำงานทั่วไป
รวมถึงการให้รางวัลเฉพาะคนนี้ยังช่วยลดความเครียดต่อการทำงานของทีมได้อีกด้วย เช่น เมื่อสมาชิกในทีมมีความพยายามที่จะทำเป้าหมายของทีมให้สำเร็จอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ทำงาน และยังเป็นคนที่อยู่กับบริษัทมาหลายปีแล้วบรรลุเป้าหมายของทีม ลีดเดอร์อาจพาไปรับประทานอาหารกลางวันแบบตัวต่อตัวเพื่อแสดงให้เห็นว่า ลีดเดอร์มีความใส่ใจ และมองเห็นคุณค่าอยู่ตลอด
🔷 9. สร้างโอกาสให้การการเติบโตของทีม เพื่อยกระดับการเติบโตของงาน
ในฐานะลีดเดอร์รางวัลที่ล้ำค่าที่สุด คือการลงทุนในอนาคตของลูกทีม ลูกทีมที่ได้รับการช่วยเหลือโดยตรงจากลีดเดอร์จะช่วยสร้างคุณค่า ความไว้วางใจ และรู้สึกถูกมองเห็น ซึ่งรางวัลชิ้นนี้เป็นอีกหนึ่งรางวัลสำคัญที่จะช่วยสร้าง productivity ได้มากขึ้น เช่น สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมสัมมนา และช่วยจัดหาแหล่งข้อมูลที่จำเป็นให้ ซึ่งจะส่งผลให้งานของสมาชิกในทีมมีงานที่คุณภาพดีขึ้น เนื่องจากได้รับความรู้ที่มีประโยชน์
🔷 10. สนับสนุนสิ่งที่ทีมสนใจ เพื่อบ่งบอกความใส่ใจของลีดเดอร์
คนทำงานหลายคนอาจจะไม่ได้มีความชอบเหมือนกัน สิ่งสำคัญคือลีดเดอร์ต้องหันมาสนใจในสิ่งที่ทีมใส่ใจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เพื่อให้เข้าใจ สร้างความผูกพัน และส่งเสริมคนในทีมในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากมีคนในทีมสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อม แล้วลีดเดอร์หรือบริษัทไปสนับสนุนเรื่องพวกนั้นด้วยเช่นกัน ก็จะทำให้ทีมรู้สึกถูกมองเห็น และถูกให้ความสำคัญ
ทั้งหมดนี้คือแนวทางในการให้รางวัลกับทีมในฐานะของลีดเดอร์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี รวมถึงส่งเสริม productivity ที่ถูกวิธี ดังนั้นลีดเดอร์ในวันนี้ควรทบทวนตัวเองให้ดี ว่าทั้งปีที่ผ่านมาคุณได้ให้รางวัลอะไรกับทีมหรือยัง เพราะการให้รางวัลกับทีมไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่า คุณมองเห็นคุณค่าของคนในทีมต่างหาก
✍🏻 เรียบเรียง: ธัญวรัตน์ ปกรณ์รัศมี
ที่มา:
• Self-Reward: The Power of Brief Utterances -
https://www.psychologytoday.com/us/blog/anger-in-the-age-of-entitlement/202506/self-reward-the-power-of-brief-utterances
• 10 ways to increase employee productivity with rewards and recognition -
https://www.rewardgateway.com/blog/recognition-increase-employee-productivity
25 บันทึก
12
25
25
12
25
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย