Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ธรรมะ คือ คุณากรณ์
•
ติดตาม
3 ชั่วโมงที่แล้ว • ปรัชญา
watthakhanun
พวกเรานั่งรถสามล้อกลับมาที่วัดไทยลุมพินี ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณสุพจน์ - พระราชโพธิวิเทศวัชรสุธี, ดร. (สุพจน์ กิตฺติวณฺโณ ป.ธ. ๙) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล ท่านได้กลับมาจากพุทธคยาในการไปบวชให้กับคณะตำรวจแล้ว พวกเราจึงเข้าไปภายในพระอุโบสถ กราบพระแล้วก็รวบรวมปัจจัยถวายผ้าป่ากับท่าน
กระผม/อาตมภาพต้องเติมให้ครบทุกรายการ รวมเป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ รูปี ๑๐,๐๐๐ บาทไทย และ ๑๐๐ ดอลลาร์ ท่านเจ้าคุณสุพจน์ขออนุญาตกราบกระผม/อาตมภาพก่อน มีการบ่นด้วยว่าไม่เจอกันนานมาก เนื่องเพราะว่าครั้งสุดท้ายนั่นก็คือ ตอนที่ท่านไปช่วยเหลือแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล..!
เมื่อพวกเราถวายผ้าป่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรีบเดินทางกลับ เพื่อที่ไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม แล้วจะได้เดินทางไปยัง "สนามบินไภรวะ" ต่อไป แต่ว่าท่านเจ้าคุณสุพจน์ขอเวลาชั่วคราว ก็คือให้กระผม/อาตมภาพไปช่วยอธิษฐานจิต ให้การสร้างพระมหาเจดีย์ของวัดไทยลุมพินีนี้สำเร็จเรียบร้อยลงโดยเร็ว..! กระผม/อาตมภาพจึงต้องฝากบรรดาเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ให้ช่วยกันใช้ความสามารถให้เต็มที่ มีโอกาสแล้วจะมาทำบุญให้กับท่านทั้งหลายอีก
พอสวนออกมา ปรากฏว่าเจอคณะพระทั่วประเทศไทย ๑๐๐ กว่ารูป ที่ท่านเจ้าคุณกอล์ฟ - พระวิเทศวัชราจารย์ (เฉลิมชาติ ชาติวโร) เจ้าอาวาสวัดสิทธารถราชมณเฑียร เลขานุการธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล ต้องลากระผม/อาตมภาพเพื่อไปต้อนรับคณะนี้เอง หลายท่านที่รู้จักกันก็ทักทายกันด้วยความดีใจ
กระผม/อาตมภาพออกมาแล้ว ก็ขึ้นรถกลับไปยังโรงแรม RAMADA By Wyndham เมื่อไปถึง อาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อตักมาแค่สิ่งที่ตนเองชอบใจ ปรากฏว่านายกูเป้ได้เอาแกงถวายมา ๑ ถ้วย บอกว่า "เป็นมัตตั้นแพะครับ อร่อยมาก" กระผม/อาตมภาพตักเข้าปากคำแรก ก็ต้องบอกว่าสมคำร่ำลือจริง ๆ จากที่เคยกิน "แกงกะหรี่มัตตั้นแกะ" อร่อยที่สุดที่ปากีสถานมาแล้ว ขอยืนยันว่า "แกงกะหรี่มัตตั้นแพะ" ของโรงแรม RAMADA By Wyndham นี้ อร่อยที่สุดเท่าที่เคยฉันมา..!
เมื่ออิ่มแล้ว พวกเราก็ต้องรีบขึ้นรถตรงไปยัง "สนามบินไภรวะ" หรือที่คนอื่นอ่านไม่ค่อยจะถูกว่า "ไปราว่า" บ้าง "ไพราว่า" บ้างซึ่งความจริงมาจากชื่อของเจ้าแม่นภิสราเทวีส่วนหนึ่ง ก็คือ "พระไภรวะ" ที่บ้านเราเรียกว่า "พระพิราพ" ทุกคนล้วนแล้วแต่คิดว่าเป็นผู้ชาย แต่เจ้าแม่แกยืนยันว่าใครบนพระไภรวะหรือพระพิราพ แกเป็นคนรับทั้งหมด..!
เมื่อไปถึง พวกเราก็ต้องเข้าคิวให้เขาตรวจพาสปอร์ตว่ามีรายชื่อตรงกับในตั๋วเครื่องบินหรือไม่ ? แล้วก็ไปสแกนกระเป๋า เจอคณะของหลวงพ่อพระครูประเสริฐ - พระครูโกศลธรรมานุสิฐ เจ้าคณะอำเภอบางปลาม้า เจ้าอาวาสวัดสวนหงษ์ จังหวัดสุพรรณบุรีที่ตรงนี้ ปรากฏว่ากลับเครื่องเที่ยวเดียวกันเสียด้วย..!
ผ่านการสแกนเข้าไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการตรวจร่างกายซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกระทั่งมั่นใจ แล้วพวกเราจึงเข้าไปเช็คอินทางด้านในได้ กระผม/อาตมภาพต้องมอบน้ำหนักทั้งหมดให้กับทางเอ็นซีทัวร์ตามเคย เมื่อได้ตั๋วมาแล้วก็ไปผ่านการตรวจคนออกจากเมือง ซึ่งทาง ตม.ของประเทศเนปาลจะทำการประทับตราพาสปอร์ตและประทับตั๋ว (บอร์ดดิ้งพาส) ให้ด้วย ครั้นเข้าไปข้างในแล้ว ยังมีการสแกนอีกชั้นหนึ่ง เมื่อผ่านเครื่องเอ็กซเรย์แล้ว ถึงจะได้รับตราประทับที่บอร์ดดิ้งพาสเป็นดวงที่ ๒ ถ้าใครมีตราประทับไม่ครบ ก็จะไม่ให้เข้าไปทางด้านใน..!
เมื่อเข้าไป ก็ได้คุยกับพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายต่อหลายคน ทางด้านทิดดอย (นายภาณุพงศ์ วังประภา) ตรวจสอบแล้วแจ้งว่าเครื่องดีเลย์จากกรุงเทพฯ ๓๐ นาที แต่เจ้าแม่นภิสราเทวี ซึ่งถ้าเรียกแค่ "เจ้าแม่นภิสรา" ปรากฏว่ามีคนพูดไม่ชัดเรียกเป็น "เจ้าแม่น้ำพริกสละ" มาแล้ว ท่านยืนยันว่าไม่ต้องกังวล เครื่องมาถึงตามปกติและกลับได้ตามปกติ..!
เนื่องเพราะว่าฤดูนี้ ส่วนใหญ่ถ้ามาถึงแล้วทัศนวิสัยปิด หมอกปกคลุมไปทั้งสนามบิน เครื่องก็จะลงไม่ได้ ปรากฏว่าเครื่องของเราลงได้ แล้วพวกเราก็ผ่านการตรวจตั๋วเพื่อที่จะขึ้นไปข้างใน โดยที่เขาเรียกพระขึ้นก่อน เมื่อนั่งเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วทุกคน ปรากฏว่าเครื่องออกก่อนเวลา ๕ นาที..! เจ้าแม่แกทำได้จริง ๆ แถมยังทำหน้าทะเล้นโบกมือ "บ๊ายบาย" ให้เสียด้วย..!
เมื่อเครื่องวิ่งออกมา กระผม/อาตมภาพก็หลับตาภาวนาอุทิศส่วนกุศล และขอบคุณขอบใจทุกท่านที่ช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์ทั้งขามาและขากลับ ปรากฏว่าทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) สะกิด "หลวงพ่อครับ ไม่อยากรบกวน แต่นั่นน่าจะเป็นเทือกเขาหิมาลัยครับ" เมื่อกระผม/อาตมภาพมองไปก็ยืนยันว่าใช่เลย เพราะผ่าน North Face พอดี จึงได้ทำการถ่ายรูปไปหลายรูป
รอจนกระทั่งถ่ายรูปยอดเขาไกรลาศแล้ว ถึงได้กลับไปเข้าสมาธิต่อ มารู้ทีหลังว่าหลายต่อหลายคนถ่ายแล้วพยายามส่งรูปลงกลุ่มไลน์ แต่เนื่องจากว่าฝีมือไม่ถึง เพราะว่ามือไม่นิ่ง รูปจึงค่อนบ้างเบลอบ้าง ติดปีกเครื่องบินบ้าง กระผม/อาตมภาพจึงต้องส่งรูปของตัวเองลงไปให้ทุกคนดูแทน
ที่น่าอัศจรรย์ก็คือเครื่องของเรามาลงที่สนามบินนานาชาติดอนเมืองก่อนเวลา ๒๕ นาที..! เจ้าแม่แกสุดยอดตรงนี้เอง ไม่เชื่อก็ไม่ได้..! เมื่อพวกเราประทับตราพาสปอร์ตเข้าเมืองแล้ว ก็มารอรับกระเป๋า กระผม/อาตมภาพนอกจากรับกระเป๋าแล้ว ยังต้องรับปัจจัยสารพัดที่หลายต่อหลายคนควักกระเป๋าทำบุญส่งท้าย บางคนถึงขนาดประกาศว่าถวายหมดตัวเลย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต้องเดินกลับบ้านหรือเปล่า !?
จากนั้นกระผม/อาตมภาพ น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ)และไอ้อ้วน (นางสาวดวงฤทัย ตั้งวรกุลกิจ) ก็ต้องขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น ๓ เพราะว่าทิดรอย (นายณพจน์ วิไลรัตน์ ) นำรถมารอรับอยู่ที่นั่น วิ่งฝ่ารถติดเล็กน้อย ไปจนถึงวัดอุทยานซึ่งเป็นที่พักคืนนี้ กระผม/อาตมภาพเองเมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว จึงรีบมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน หลังจากนี้ก็จะฉันยาและนอนสลบไสลแล้ว
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๘
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย