Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ธิดา อักขิโสภา
•
ติดตาม
วันนี้ เวลา 07:15 • ไลฟ์สไตล์
สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้กับผมคือ คนไข้ที่ลูกรับไม่ได้ที่พ่อจะต้องจากไป
พ่อขอเลือกแนวทางการจากไปอย่างไม่ทุกข์ทรมาน
แต่ลูกเหมือนกับรับได้ แต่จริงๆยังรับไม่ได้กับการจากลา
รายแรกคนไข้ขอไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ขอรับยาทุเลาความทุกข์ทรมาน ส่วนอีกรายขอไม่ใส่ท่อช่วยหายใจเช่นกัน ขอจากไปอย่างมีความสุข ไม่อยากถูกยื้อชีวิต
☸️
รายแรกครอบครัวกลัวคนไข้จะหลับและจากไปจากฤทธิ์ของยามอร์ฟีน จึงขอทีมรักษาให้หยุดการเพิ่มมอร์ฟีนในขณะที่ความทุกข์ทรมานของคนไข้ต้องการปริมาณยาเพิ่มขึ้น
คนไข้สามารถหลับได้เป็นพักๆ แต่เมื่ออาการเหนื่อยมากขึ้นคนไข้ก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเหนื่อย ทุรนทุราย เนื่องจากหายใจไม่พอกับที่ร่างกายต้องการ
พยาบาลรายงานผมว่า ได้ขอเพิ่มปริมาณยามอร์ฟีนขึ้นเรื่อยๆตามที่ผมได้สั่งการรักษาไว้ แต่ครอบครัวขอให้หยุดการเพิ่มเพราะไม่ต้องการให้พ่อหลับลึก
แต่อาการคนไข้ไม่สามารถสงบได้ จึงรายงานให้ผมรับทราบ
ในขณะเดียวกันครอบครัวคนไข้แจ้งเข้าไปในกลุ่ม LINE ว่า “ทนเห็นความทุกข์ทรมานและทุรนทุรายของพ่อไม่ได้ ”
ผมได้สื่อสารไปยังกลุ่มไลน์ของคนไข้และครอบครัว เพื่อให้ครอบครัวยอมรับกับธรรมชาติของการจากลา….ดังนี้
🩷🩷🩷
ธรรมชาติการจากลา เป็นแบบนี้
เราต้องไม่เอาความต้องการของเราไปอยากให้ท่าน
-ต้องได้รับยา หรือ ต้องไม่รับยา เพราะเราเลือก
-ต้องสู้อยู่ต่อ หรือ พอแล้ว เพราะเราทนเห็นไม่ได้
-ต้องตื่น หรือห้ามหลีบหลับ เพราะอยากคุยกับพ่อ
….ขอให้เอาสุขกับทุกข์ของพ่อเป็นหลักดีกว่า เอาตามความต้องการของเรา…
ธรรมชาติเมตตามนุษย์มากๆ
การนอนหลับ การไม่อยากอาหาร การให้สมองปิดสวิตช์ การไม่ต้องรับรู้ความทุกข์ทรมาน ธรรมชาติเค้าให้มาหมดแล้ว
แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ไม่เรียนรู้คือพยายามต้านธรรมชาติ และฝืนความเป็นจริงของธรรมชาติโดยไปแทรกแซงธรรมชาติของการจากลา
หมอขออนุโมทนากับครอบครัวที่ใส่ใจ หวังดีต่อคนไข้ ดูแลท่านอย่างเต็มที่ จึงได้เห็นธรรมชาติความเป็นจริงของสังขารมนุษย์ ได้เห็นความทุกข์ที่เกิดจากการแก่เจ็บตาย และการฝืนธรรมชาติ
ช่วงนี้คนไข้ยังมีชีวิตอยู่ บุญกุศลที่ท่านต้องการทำด้วยใจบริสุทธิ ขอให้ทำด้วยทรัพย์ของท่านเอง อานิสงส์ก็จะส่งถึงท่านอย่างเต็มที่ ดังนั้นถ้าจะเป็นสะพานบุญให้ท่านขอให้รีบทำ
การรับรู้ของพ่อในอวัยวะอื่นเช่นเจ็บปวดเหนื่อยอาจจะเหลือน้อยลงแล้ว เพราะท่านปิดการทำงานของสมองแล้ว แต่ปฏิกริยาของร่างกายยังคงต้องมี เช่นหายใจเร็ว ฯลฯ
สิ่งที่ท่านทุรนทุรายเป็นพักๆ เราสามารถลดอาการด้วยมอร์ฟีนที่เตรียมไว้
การรับรู้เสียง และการได้ยิน จะเป็นอวัยวะสุดท้ายที่ดับไป สมองส่วนรับรู้เสียงจะหมดคลื่นไฟฟ้าหลังจากหัวใจหยุดเต้นไปอีกครึ่งชั่วโมง
ดังนั้นสิ่งที่ครอบครัวพูดกับพ่อควรเป็นสิ่งบวก บุญกุศลความภาคภูมิใจ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดูแลพี่น้อง ดูแลคุณแม่ เราจะไม่ทอดทิ้งกันเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถพูดให้ท่านสบายใจ
ไม่ร้องห่มร้องไห้หรือรำพึงรำพันในสิ่งที่เป็นความทุกข์ความทรมานความห่วงหาอาวรณ์ สิ่งเหล่านี้จะฉุดรั้ง อย่าเอาความผูกพันมารัดท่านไว้
หลังจากนั้น ทีมได้ส่ง คำบอกลาให้กับครอบครัวทางกลุ่มไลน์
💠การบอกลาครั้งสุดท้ายก่อนที่จะสายเกินไป
การบอกลาครั้งสุดท้ายของญาติที่มีต่อผู้ป่วยระยะสุดท้ายสำคัญมาก ทีมดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองจะแนะนำให้ญาติได้กล่าวคำอำลาอยู่7ประเด็นดังนี้
1. ให้ลูก ภรรยา สามี ผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยได้ขอขมาผู้ป่วยและกล่าวคำขอโทษที่เคยทำให้ผู้ป่วยโกรธเคืองหรือไม่พอใจมาก่อน โดยขอให้ผู้ป่วยอย่าถือโทษ ในสิ่งที่เคยล่วงเกินไว้ และ ให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
2.ให้คำมั่นสัญญากับผู้ป่วยในสิ่งที่ผู้ป่วยเคยสั่งสอนหรือสั่งเสียไว้เช่นการเป็นคนดีต่อสังคมและ ครอบครัว มีศีลธรรม รักใครปรองดองในหมู่พี่น้องไม่ทอดทิ้งกัน จะดูแลแม่หรือพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ดี จะตั้งใจทำงานดูแลทรัพย์สมบัติที่ผู้ป่วยได้เก็บไว้ให้
3.กล่าวชื่นชมในสิ่งที่ผู้ป่วยประทับใจหรือมีปิติเช่นการได้ช่วยเหลือสังคม เป็นเจ้าภาพงานบุญต่างๆ ช่วยผู้ยากไร้ตกทุกข์ได้ยาก ช่วยสัตว์จรจัด หรือสิ่งที่ท่านเคยได้รับรางวัลเช่นพ่อแม่ดีเด่น หรือในสิ่งที่ท่านภาคภูมิใจในตัวลูกหลาน
4.ไม่พูดในสิ่งที่เป็นเงื่อนเวลากับการรอคอยเช่น รอหลานคลอด รอลูกบวชเข้าพรรษา ควรทำในสิ่งที่เป็นได้จริงโดยไม่ต้องรอและควรทำทันทีไม่ควรสร้างข้อแม้แห่งการรอคอย
5.ไม่ถามในสิ่งที่ผู้ป่วยต้องใช้ความคิดเพื่อสนองความต้องการของคนถาม เช่นจำได้ไหมว่าใครมาเยี่ยม เพราะระบบการจำ การนึกคิดตัดสินใจของผู้ป่วยไม่เหมือนคนปกติ ทำให้คนไข้รู้สึกบีบเค้นในการตอบฯลฯ
5.ไม่สร้างห่วงความผูกพันธ์ให้แน่นเหนียวมากขึ้น เช่นหลานกำลังน่ารักให้อยู่ต่อ หรือพี่น้องจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีผู้ป่วย แต่ควรสร้างความสบายใจให้ผู้ป่วยเช่นทุกคนโตแล้วมีงานทำลูกๆดูแลกันเองได้และไม่ทอดทิ้งกันเป็นต้น
6.การบอกลา การแสดงความรักความเคารพที่มีต่อผู้ป่วยเช่นการกอด การหอม การกราบเป็นต้น
7.เตรียมในสิ่งที่ผู้ป่วยรัก ชอบ และเชื่อมั่นศรัทธาทางจิตวิญญาณให้ผู้ป่วย (ต้องระวังข้อนี้ไม่ใช่สิ่งที่ญาติคิดว่าดีแล้วยัดเยียดให้ผู้ป่วย) เช่นความสงบ เสียงธรรม เสียงบทสวด เสียงเพลง เสียงดนตรีหรืออื่นๆเป็นต้น
ผู้ป่วยระยะท้ายส่วนมากที่ได้ปลดล็อค ได้เตรียมบุญกุศลและได้รับการล่ำลา จะจากไปสงบเพราะหมดห่วงกว่าคนไข้ที่ไม่ได้รับการวางแผนระยะท้าย
ถ้าเราได้กล่าวคำล่ำลาด้วยกระบวนการทั้งหมดนี้เราจะมีปิติและจะไม่รู้สึกเสียใจเลย แต่ถ้าเราไม่ได้ทำเราจะเสียดายและเสียใจภายหลังและไม่มีโอกาสย้อนเวลากลับไปได้อีกแล้ว
ผมหวังว่าครอบครัว จะได้อ่าน ได้ศึกษาและทำตามสิ่งที่ผมและทีมแนะนำ หลังจากนั้นไม่นานคนไข้ก็จากไป
🖤🖤🖤
รายที่สอง คนไข้คุ้นเคยกับผม เกิดอุบัติเหตุทำให้ลำไส้ฉีกขาด เกิดการติดเชื้ออาการคนไข้ทรุดลงจนไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพปกติได้ คนไข้ขอไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ ยอมรับการจากลาได้ แต่เนื่องจากรายนี้มาด้วยภาวะฉุกเฉิน กว่าจะเจอผมคนไข้ก็ไม่สามารถสื่อสารได้แล้วเหลือแต่ร่องรอยที่คนไข้ได้เคยแจ้งไว้กับทีมรักษา
ลูกยังยอมรับการจากลาไม่ได้ อ้อนวอนขอร้อง ให้พ่อยอมใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อยื้อชีวิต แต่พ่อปฏิเสธที่จะใส่ท่อช่วยหายใจ แล้วบอกว่าปล่อยพ่อไปเถอะ
กว่าลูกจะยอมรับการตัดสินใจของพ่อคือไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ ทีมรักษาต้องเข้าไปพูดคุยอยู่หลายรอบ
💔💔💔
เย็นวันนั้นผมได้รับรายงานว่า “ ลูกคนไข้เปลี่ยนใจขอยื้อชีวิตพ่อ ขอร้องให้คุณหมอใส่ท่อช่วยหายใจและสู้เต็มที่”
คนไข้เข้าสู่ระยะช็อค ติดเชื้อ ความดันเลือดตก หายใจไม่ไหวต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ต้องฟอกเลือด และให้ยากระตุ้นความดัน
…. ผมต้องยอมรับ เคสนี้ผมไม่ได้คุยกับคนไข้และครอบครัว เพราะเป็นเคสฉุกเฉินเพิ่งปรึกษาผม และผมเองก็ติดราชการกรุงเทพ
คนไข้ยังดูแย่ลงโดยรวม แต่ภาวะไตวายดีขึ้นหลังฟอกเลือด ค่าการติดเชื้อดีขึ้นบ้างหลังให้ยาฆ่าเชื้อ
วันนี้ผมไปดูคนไข้ รู้ในสิ่งที่คนไข้ต้องการ ผมจึงแจ้งไอซียูว่า “ขอพบครอบครัวคนไข้ ”
❤️🔥❤️🔥❤️🔥
ผมหวังว่าครอบครัวคนไข้ โดยเฉพาะลูก จะยอมรับการจากลาและเคารพในสิ่งที่คนไข้ ต้องการ ผมจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่
💔💔💔
ต้องการปรึกษาผมสามารถส่งข้อความเข้ามาในกล่องข้อความใต้รูปภาพหรือท่านใดต้องการหนังสือ “สุขสุดท้ายที่ปลายทาง” สามารถติดต่อคลินิกชีวีอภิบาล ที่ 061 563 2989 หรือ038 933 900
*******
นพ.พรศักดิ์ ผลเจริญสมบูรณ์
ที่ปรึกษาทีมดูแลผู้ป่วยระยะท้าย
โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
สามารถปรึกษาหมอแดงได้ดังนี้
1.ส่งรายละเอียดเข้ามาในกล่องข้อความของเพจหมอแดงที่ปรึกษาคนไข้ระยะท้ายเพื่อกรอกแบบฟอร์ม จนท.จะต่อสายให้สนทนากับคุณหมอ หรือโทรติดต่อแอดมินเพจ 082-424-5363
2. มาพบหมอแดงที่คลินิกชีวีอภิบาลโดยนัดหมายล่วงหน้าที่ 061 563 2989 หรือ038 933 900 ต่อคลินิกชีวีอภิบาล เพื่อทำนัดพบกับหมอแดง
3.ติดต่อผ่านเยือนเย็นหรือในคนไข้ที่ใช้บริการของเยือนเย็นสามารถขอให้หมอแดงเข้าเยี่ยมพบได้
#หมอแดงที่ปรึกษาคนไข้ระยะท้าย
#หมอแดง
#การวางแผนระยะท้าย
#การตายดี
#นิยามการตายดี
#เยือนเย็น
#ยื้อชีวิต
#สิทธิผู้ป่วย
#การใส่สายยางให้อาหาร
#โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์
#คลินิกชีวีอภิบาล
#โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย