23 ธ.ค. เวลา 07:53 • ธุรกิจ

ยอดขายวันละ 1-2 แสน ฟินไม่ไหว สไตล์คนขี้เกียจ

กลยุทธ์ลับที่เจ้าของแบรนด์ไม่มีทางบอกคุณกลยุทธ์ที่ทำให้ Influencer Marketing มีผลกระทบรุนแรงในภาพกว้างของทุกอุตสาหกรรม
.
กลยุทธ์นั้นก็คือ กลยุทธ์ 3Win
Win ที่ 1 อินฟลูได้รับสินค้าฟรี! ประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำคอนเทนต์อยู่เรื่อยๆ สามารถสร้างตัวตนในแบบฉบับที่ตัวเองต้องการ อีกทั้งยังได้เงินจากค่ารีวิวและเงินจากค่าคอมอีกด้วย
Win ที่ 2 ลูกค้าได้มีสื่อที่ตัวเองต้องการเสพ ได้ดูรีวิวก่อน และเสพสื่อที่ไม่ได้มาจากผู้ขายโดยตรง ทำให้มั่นใจได้มากกว่า
Win ที่ 3 เจ้าของสินค้า ได้โฆษณาสินค้าที่ตัวเองต้องการ ได้เงินจากกำไรการขายสินค้า และ สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
.
แต่เชื่อไหมว่า...คนที่ทำการตลาดออนไลน์
ไม่ถึง 10% ที่จะใช้ Influencer Marketing
สถิติคนที่ผมรู้จัก 100 คนที่หาเงินใน TikTok กว่า 95% จะเป็น TikToker
อีก 5 % เป็น Seller แต่จะมีแค่ 1 คนเท่านั้นที่ทำ Influencer Marketing...
Are you one? No!! สุขัง พลัง _/\_
ขออภัยสำหรับมุกควายด้วยครับ 555+
.
มาต่อกันที่การทำ Influencer Marketing มันดีมากแต่ทำไมคนทำน้อย ทั้งๆ
ที่มันได้ผลมาก อาจจะเหนื่อยช่วงแรก(สร้างระบบ) แต่ช่วงหลังคือสบายมาก
.
เพราะคนส่วนใหญ่อยากรวยง่าย การยิงแอดหรือการดูดคลิป ก๊อปคลิป รีรัน มันง่ายกว่า การสร้างตัวตนมันง่ายกว่า
การทำการตลาดอินฟลูต้องใช้พลังมาก ในการทำช่วงแรกจึงทำให้คู่แข่งน้อย และหากเรามีสินค้าที่ดีแล้ว เราจะเป็นดาวเด่นและเป็นที่ต้องการของอินฟลู
.
การจะบอกว่าตัวเองเป็นคนดี คนเก่ง
ต้องให้คนอื่นบอก ไม่ใช่ตัวเองบอก การที่คุณทำคลิป หรือ Live สดบอกว่า
สินค้าคุณดี กับ การที่คุณให้อินฟลูบอกว่าสินค้าคุณดี ลูกค้าไม่เชื่อคุณแต่เชื่อ
อินฟลูมากกว่าแน่นอนครับ จริงๆ แล้วมันก็คือ การตลาดปากต่อปาก ที่มีมานมนานตั้งแต่ยุคที่ไม่มีออนไลน์ หรือถ้าจะเรียก Influencer Marketing ให้เข้าใจง่ายๆ
ก็สามารถเรียกได้ว่า การตลาดปากต่อปากออนไลน์ (ที่มีเงินถอนให้คนที่บอกต่อ)
.
และผมไม่ได้โจมตีคนสร้างตัวตนนะครับ ผมแค่จะชวนให้แบ่งเงินมา แบ่งเวลา มาทำ Influencer Marketing บ้าง
.
เหตุการณ์ไทยมุง ไม่ได้มีแค่ออฟไลน์ แต่เป็นอุปทานหมู่ที่มีทุกที่
แม้แต่ในโลกออนไลน์ก็เช่นกัน
ตัวอย่าง ผมเดินตลาดนัดกำลังหาของกินอร่อยๆ มีร้านข้าวหลายร้าน
แต่มีเจ้านึงคนมุงเยอะมาก
เราไม่เคยกินนะ แต่เพราะอุปทานหมู่ ทำให้เรายอมไปต่อคิวยาว รอเป็นครึ่งชม. เพราะหวังว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ ขายดีขนาดนี้
ในโลกออนไลน์ก็เช่นกัน เวลาคนจะซื้อของใน Marketplace Shopee, Lazada, Tiktok Shop
.
คนจะค้นหาสินค้าที่ตัวเองต้องการ และเลือก Top sales จากนั้นเลือกอันที่ขายดีที่สุด คนส่วนใหญ่แล้ว แทบไม่ดูอะไรเลย และกดซื้อทันที เพราะมั่นใจว่ามันต้องดี ไม่งั้นจะขายดีหรอ
.
อาจจะดูรีวิว เพื่อความมั่นใจนิดหน่อย และหากเป็นคนช่างเลือกก็จะหารีวิว
ที่เป็นคลิป ที่ผมเล่า Customer Journey ให้ฟัง ก็แค่จะบอกว่า
ถ้าเราทำให้ยอดขายอันดับ 1 ได้
.
เรากินส่วนแบ่งการตลาด ของ Product หรือ Keyword นั้น 80% เลย ส่วนอีก 20% คนไปดูรีวิวดาวและคลิป ถ้าเราดักไว้หมด ไทยมุงก็เสร็จเราครับ
.
ซึ่งผมใช้ Influencer Marketing ดักไว้ทุกช่องทาง ทั้งใน Shopee, Lazada, Tiktok Shop ก็เลยไม่แปลกที่ผมได้ยอดขาย 80% และอีก 20% คู่แข่งค่อยเอาไปแบ่งกัน
.
แม่ผมเกษียณตั้งแต่อายุ 45 มี Passive income ที่สร้างเอง
แม่ผมเลี้ยงลูก 6 คนด้วยตัวคนเดียว พ่อผมตายตั้งแต่ผมอายุ 7 ขวบ
ผมเป็นลูกคนสุดท้อง เงินที่แม่ผมสร้างตัวไม่ได้มาจากมรดก ปัจจุบัน
แกอายุจะ 70 แล้ว เดินสายบุญอย่างเดียว (ทำสิ่งที่ชอบ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน)
ไม่ทำงานเพื่อเงินมา 20 กว่าปีแล้ว
.
ที่เล่าให้ฟัง ไม่ได้จะอวด ว่าเห้ย! แม่กูเก่งนะ เว้ย! ถึงผมจะรู้สึกแบบนั้นก็เถอะ
แต่ผมอยากให้ดูเบื้องหลัง การออกจากระบบและแนวคิด ที่คนยุคเราสามารถนำส่วนไหนไปทำตามได้บ้าง??
.
อย่างแรกช่วง 10 ปีหลังพ่อผมตาย แม่ผมทำงานหนักมาก (ทำงานหนักเพื่อสร้างระบบ)
แกทำ 6-7 งาน ไม่ว่าจะเป็น
- ขายประกัน AIA
- ขายชุดชั้นใน คามิโอ
- ขายเครื่องครัว ป๊อปแวร์
- ขายเครื่องสำอางค์ มิสทีน
- ขายตรงสุพรีเดอร์ม
- ขายตรงกีฟฟารีน
- เปิดร้านขายโชว์ห่วย
- ส่งของในค่ายทหาร
.
เอาตรงๆ ตอนเด็กๆ ผมไม่เคยเห็นแม่ผมหลับเลย เพราะกว่าแกจะนอน
ก็ตี 1 ตื่นก็ตี 5 ส่วนผมนอน 4-5 ทุ่ม ตื่น 7-8 โมง
แม่ผมตั้งเป้าหมายว่า ลูกทุกคนจะต้องจบ ป.ตรี และแกฝันว่าจะเกษียณเร็ว
เพราะแกไม่อยากทำงานหนักตลอดชีวิต แล้วตายโดยไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนพ่อผม เงินแทบทุกบาทเลยถูกนำไปส่งลูกเรียนและซื้อที่ดินแทบ 100%
.
หลังจากทำงานหนัก 10 กว่าปี แกก็ซื้อที่ดินหลายที่ แล้วปล่อยให้เช่า แล้วก็เกษียณตามที่ฝันไว้และพวกเรา 6 คนพี่น้อง ก็จบอย่างน้อยป.ตรี ทุกคน
ตามที่แม่ผมตั้งเป้าไว้
.
ฟังดูมันก็เป็น พล็อตเรื่องที่ปกติ แบบนี้เราก็ทำตามแม่ผม ไปเลยได้ไหมล่ะ?
แค่ตั้งเป้าหมายแล้วก็ซื้อที่ดินไปปล่อยเช่า ผมตอบเลยว่า ยากส์ (เติมs ยากมาก) ที่ดินปัจจุบันแพงมาก รวมถึงภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างก็แพงมากเช่นกัน แพงจนคนที่มีที่ดินรกร้าง อยากจะขายที่กันหมด เพราะภาษีแพงมาก
.
อันนั้นเป็นเกมส์ธุรกิจของคนยุคก่อน ที่ทำกันได้ง่ายกว่ายุคเรา แล้วยุคเราล่ะ
ทำอะไรได้บ้าง? ตัวผมเองเกิดมาในยุค ที่โลกออนไลน์กำลังเติบโต ซึ่งเราต้องชิงที่ดิน บนโลกออนไลน์เป็นหลัก แล้วที่ดินบนโลกออนไลน์หลัก ๆ
.
มีอะไรบ้าง??
- Google
- Youtube
- Facebook
- Instagram
- Tiktok
- Twitter
- Shopee
- Lazada
- Pantip
- Pinterest
- LinkedIn
- Line@
.
และยังมีที่ดินอื่นๆ เฉพาะธุรกิจ อย่างเช่นผมขายอาหาร ก็จะมี
.
- Cookpad
- Wongnai
- Grab Food
- Food Panda
อีกด้วย
.
ผมยึดที่ดินบนโลกออนไลน์ ในหมวดสินค้าของผม ได้เกือบครึ่งที่กล่าวไปแล้ว
ถ้าคุณอยากเกษียณเร็ว อยากใช้ชีวิตที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
คุณมีที่ดินบนโลกออนไลน์ ที่คุณยึดได้สักอันหรือยังครับ ถ้ายัง...รีบเลยนะครับ !!!
ผมอุตสาห์เล่าเคล็ดลับ ของแม่ผมให้ฟังเลยนะเนี่ย ถ้ายังไม่รีบชิงที่ดิน บนโลกออนไลน์อีก ในอนาคตคุณจะไม่เหลือ ที่ให้ยืนแล้วนะ
.
สูตร 9 ข้อการทำ Influencer Marketing พื้นฐาน ในการทำยอดขายวันละ 1-2 แสน แบบไม่ต้องทำคลิป, ไม่ต้อง Live สด
1.ตั้งค่าคอม
2.ตั้งตัวอย่างสินค้าเพื่อแจกให้อินฟลู
3.ทักหาอินฟลูทุกวันอย่างน้อยวันละ 5-10 คน
4.ช่วยอินฟลูตรวจคลิป
5.ช่วยอินฟลูคิดแคปชั่นและ#hashtag
6.ตั้งราคาสินค้าให้มีกำไร
7.มีวินัยในการทำ Influencer Marketing
8.ไม่แย่งอินฟลูขายและไม่ลดค่าคอมอินฟลู
9.นำคลิปที่ขายได้มายิง Ads Gen code หรือ GMv Max และสัญญากับตัวเองไม่สำเร็จ ไม่ล้มเลิก
.
ในข้อที่ 4 ผมบอกว่า ทักหาอินฟลูทุกวัน วันละ 10 คน แต่หลายคนบอกว่า
ทำไมทำไม่ได้...
ถ้าคุณทักหาอินฟลูทุกวัน แล้วทักทิ้ง เช่น ทัก 10 คน มีคนช่วยรีวิวสินค้าคุณ 1 คน แล้วคุณก็ทักแบบนี้ไปเรื่อยๆ แบบนี้เรียก "ทักทิ้ง" เพราะอีก 9 คนที่ปฏิเสธคุณ
คุณไม่ได้สานสัมพันธ์อะไรกับเค้าต่อเลย
.
ลองเปลี่ยนวิธีการหาอินฟลูเอนเซอร์กันดูนะครับ!💡 นำอีก 9 คนที่ปฎิเสธคุณ
มาจัดแคมเปญ ชวนมาเป็นเมมเบอร์ หรือ ขอเรทการ์ดของอินฟลูมาวิเคราะห์ต่อ
คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปตลอดชีวิต
.
14 คำเตือนและคำแนะนำจากผมที่เคยเจ๊งจากการทำ Influencer Marketing
แล้วกว่า 1 ล้านบาท โดยที่แทบไม่ได้ยอดขายเลย
.
1.อย่าประกาศรับสมัครอินฟลูตามกลุ่มต่างๆ ใน facebook ส่วนใหญ่ไม่ตรงกลุ่ม
2.อย่าปล่อยให้เอเจนซี่จัดการอินฟลูทั้งหมดให้ ถ้าเค้าไม่ใช่เอเจนซี่เฉพาะทางจริงๆ และหากเป็นเอเจนซี่เฉพาะทางก็จะแพงมากๆ ต้องคิดถึงความคุ้มค่า และผลกำไรของบริษัทด้วย
3.อย่าจ้างอินฟลูที่กำลังเป็นกระแสโดยไม่มีการคำนวณและวิเคราะห์
4.อย่าทำสคริปส่งให้อินฟลูทำตามทั้งหมด เพราะคลิปและ Live ของทุกอินฟลู
จะเหมือนกันหมด
5.อย่าก๊อปคลิปอินฟลูมาลงช่องตัวเอง เพราะมันจะซ้ำผิดนโยบาย Fresh Content
.
6.อย่าคิดว่าการจ้างอินฟลูคือทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าสินค้าดี บริการดี ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับสินค้าที่เกินราคาที่ลูกค้าเค้าจ่าย สินค้าของเราก็จะขายดีไปด้วย ถ้าสินค้าและบริการไม่ดี ยิ่งทวีความไม่ดีออกไป ต่อให้เทวดามาโปรโมทให้ ก็ขายดีแบบยั่งยืนไม่ได้
7.หามูลค่าที่แท้จริงของอินฟลูให้ได้ ต้องเตือนตัวเอง ราคา Rate Card ที่อินฟลูส่งให้ ไม่ใช่มูลค่าที่แท้จริง
.
8.การจ้างอินฟลูต้องอยู่ในพื้นฐานการวิเคราะห์ การคำนวณที่มีส่วนเผื่อความปลอดภัยเสมอ อย่างน้อยต้องเท่าทุน หรือ หากเจ็บตัวต้องไม่เจ็บตัวมาก ห้ามเสี่ยงจนขาดเลือดตายเด็ดขาด
9.แยกตัวออกจาก "อารมณ์ของตลาด" ให้ได้ อย่าให้อินฟลูที่เป็นกระแสมาดึงเราไปในทางที่ไม่ใช่ วิเคราะห์อินฟลูของเราด้วยตัวเราเอง เชื่อมั่นในตัวเราเอง บอกกับตัวเองว่า ไม่มีใครรู้จักสินค้าเรา ดีเท่าตัวเราเอง
.
10.ความคิดสร้างสรรค์จะถูกปิดกั้น เพราะลูกน้องเราพนักงาน จะต้องพูดตามสคริป หรือ ขอคำปรึกษาเราในการทำคอนเทนต์ ถ้าให้อินฟลูทำ เค้าจะมีสไตล์เป็นของเค้าเอง เค้าจะถูกผลักดันให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์สูงสุด
11.เวลาทำคลิปหรือไลฟ์สด ถ้าอินฟลูทำผิดกฎ ช่องอินฟลูโดนแบน ร้านเราขายดีเหมือนเดิม
12.ยิ่งขายมันจะขายไม่ได้ ยิ่งไม่ขายมันจะขายได้
ช่องเรามีแต่คอนเทนต์ขาย ขาย ขาย ใครจะอยากดู เค้าเล่น tiktok เพื่อความสนุกของเขา ไม่ได้ให้เราไปโฆษณาเค้า
.
13.พนักงานคนเก่ง ป่วย ไลฟ์ไม่ได้ ทำคลิปไม่ได้ หรือ หนักถึงขนาดลาออกไปทำเองยอดขายตกแน่นอน แต่หากให้อินฟลูทำให้ เราสามารถเพิ่มอินฟลูได้เรื่อยๆ
เค้าเรียกการกระจายความเสี่ยง กระจายอำนาจ
14.บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 729 บริษัท ทำ Personal Brand ไม่ถึง 10 บริษัท และเน้นไปที่การยิง Ads และ Live สด ไม่ถึง 30 บริษัท แต่กว่า 500 บริษัท ทำ SEO และใช้ Influencer Marketing
.
เผื่อมีคนถาม...มึงเก่งหนักรึ? กระแดะมาสอนคนอื่น ตัวมึงทำได้หรือยัง?
.
ซึ่งผมไม่ได้อยากจะขิงขนาดนั้น แต่ถ้าอย่างน้อยตัวผมสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครสักคนได้ ว่าเส้นทางนี้มันทำได้จริงๆ
ผมก็ถือว่าได้ทำตัวเป็นประโยชน์แล้วครับ
.
ถึงแม้ว่าเส้นทางนี้มันจะยาก แต่หากมีศรัทธาแล้วลงมือทำมัน มันทำได้จริง และนักเรียนที่ทำได้เยอะกว่าผมมีมากกว่า เป็นร้อยคนแล้วครับ แต่คนพวกนี้
ไม่ชอบบอกต่อ ไม่ชอบขิงยอด เค้าแค่อยากรวยเงียบๆ ของเค้าครับ
.
หากคุณเห็นว่าโพสนี้เป็นประโยชน์ ฝากแชร์และคอมเมนต์ "ขอบคุณ"
เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมในการเขียนโพสครั้งถัดไป
.
ขอบคุณมากครับ
9K
โฆษณา