AVATAR FIRE AND ASH | 7.7/10
ในหนังไซไฟเรื่อง Avatar ของ เจมส์ คาเมรอน แพนดอรา (Pandora) เป็นชื่อดวงจันทร์ในระบบดาว อัลฟา เซนทอรี (4.3 ปีแสงจากโลก) สิ่งมีชีวิตบนโลกนั้นคือชาวนาวี ตัวสูงสามเมตร ผิวสีน้ำเงิน อยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ
ทุกอย่างดำเนินไปตามวิถีทางของมัน จนกระทั่งมนุษย์ไปปล้นทรัพยากรธรรมชาติในโลกนั้น กลายเป็นสงครามแพนดอรา
Avatar 1 เป็นผลงานของ เจมส์ คาเมรอน สดใหม่ทั้งคอนเส็ปต์ เรื่อง และเทคนิคการถ่ายทำ จุดนี้ต้องยกเครดิตให้เขา
เจมส์ คาเมรอน เป็นนักสร้างหนังที่กล้าแหวกขนบ และเก่งเรื่องการแต่งนิยายไซไฟ ตัวอย่าง เช่น The Terminator 1-2, Aliens, The Abyss ไม่ธรรมดาเลยสักเรื่อง
ปัญหาคือ Avatar 1 สมบูรณ์ในตัวมันเองแล้ว เจมส์ คาเมรอน ควรจะหยุดแค่นั้น แต่ปัญหาของฮอลลีวูดคือ เมื่อ Avatar 1 ทำเงินไป 2.9 พันล้านดอลลาร์ สตูดิโอก็เปิดไฟเขียวให้สร้างอีกสี่ภาค
แล้วจะเอาเนื้อเรื่องอะไรมาเล่า?
ไม่ยาก ภาค 2 ก็รีไซเคิลภาค 1
ภาค 3 รีไซเคิลภาค 2
วันนี้ภาค 3 เข้าโรงแล้ว ชื่อ Avatar: Fire and Ash
หนังยาวสามชั่วโมง ฉากยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง แต่ไม่มีอะไรใหม่ เราดูทุกอย่างมาแล้วสองภาค
Avatar 3 ก็คืองานรีไซเคิล เปลี่ยนฉาก เพิ่มตัวละคร
แต่เหมือนตีตั๋วไปดูภาค 2 ซ้ำอีกรอบ
จุดใหม่จุดเดียวที่ดีในภาค 3 คือ การแต่งพล็อตให้มนุษย์คนหนึ่งหายใจบนดวงจันทร์แพนดอราได้ นอกเหนือจากนั้นคือของเดิม
ผมเป็นแฟนหนังของ เจมส์ คาเมรอน อย่างเหนียวแน่น หนังของเขาตื่นเต้นเร้าใจเสมอ แต่เรื่องนี้สามารถทำให้ผมหาวได้
หนังยาวสามชั่วโมงโดยไม่จำเป็น และฉากซ้ำๆ ซากๆ โดยไม่จำเป็น เราเห็นฉากคนขี่นกบินมาเป็นร้อยเที่ยวแล้ว เราอยากเห็นเนื้อเรื่องมากกว่านี้
หนังไม่ได้เลวร้าย สนุกตื่นเต้นเป็นช่วงๆ แต่ไม่มีอะไรใหม่ที่น่าจดจำ
สรุปสั้นๆ ก็คือ หากมีเวลาว่างสามชั่วโมง หนีจากข่าวการเมืองในโลกนี้ไปโลกอื่น ก็ตีตั๋วเข้าไปดูได้ แต่หากเพื่อนชวนกินข้าว ก็ไปกับเพื่อนเถอะ เพราะคุณจะไม่พลาดอะไร
ในตำนาน Avatar แพนดอราเป็นชื่อดวงจันทร์ ในตำนานกรีก Pandora's box เป็นกล่องวิเศษที่เมื่อเปิดออกมา จะปลดปล่อยเรื่องไม่ดีต่างๆ ออกมา
ผมมีความรู้สึกว่าตอนนี้ เจมส์ คาเมรอน ติดกับอยู่ใน Pandora's box มา 16 ปีแล้ว และคงอีกหลายปี (ยังมีอีกสองภาค) สมองระดับเขาไม่ควรเสียเวลายี่สิบกว่าปีทำหนังรีไซเคิล 'more of the same' ควรจะเขียนเรื่องใหม่ เปลี่ยนทิศ เปลี่ยนแนว ปล่อยให้เด็กๆ เอา Avatar ไปทำอีกร้อยภาคก็ได้ เขาควรไปทำอะไรให้สมกับสมองของเขามากกว่า
ดูจากทิศทางของ Avatar ภาค 2-3 ก็ไม่คิดว่าในอีกสองภาค คนเขียนบทสามารถหลุดจากกรอบคิดเดิมๆ ของเรื่องนี้ นั่นคือคิดอยู่เพียงว่าจะสร้างอะไรใหม่บนดวงจันทร์แพนดอรามาขาย แต่ไม่ว่าจะประดิษฐ์อะไรออกมา มันก็หนีไม่พ้นกรอบพล็อตของมนุษย์ไปก่อสงครามกับชาวนาวี ชาวนาวีเชื่อมพลังกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนดาว มนุษย์แพ้กลับไป แล้วหวนกลับมาใหม่
ก็ภาวนาให้คาเมรอนหลุดออกจากกล่องแพนดอรานี้โดยเร็ว และไปทำอะไรที่ไม่เซมเซม และไม่ต้องเป็นอลังการงานสร้าง แต่เน้นความคิดสร้างสรรค์
เสียดายสมองของเขา อายุก็เจ็ดสิบกว่าแล้ว สมองจะสร้างสรรค์งานสดใหม่ได้อีกกี่ปี
7.7/10
ฉายในโรงภาพยนตร์
วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
(มาตรการให้คะแนนของ วินทร์ เลียววาริณ : ความคิดสร้างสรรค์ + สาระ + ศิลปะการเล่าเรื่อง)
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
