เมื่อฟังคอนเซปต์ของ Lucky Bag แล้ว ก็ชวนให้สงสัยว่าทำไมคนเราถึงอยากจ่ายเงิน เพื่อของที่ไม่รู้ว่าข้างในคืออะไรด้วย
จริง ๆ แล้ว เสน่ห์ของ Lucky Bag อยู่ตรง “ความตื่นเต้นของการไม่รู้” นี่แหละ ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก
เรื่องนี้ได้ถูกอธิบายพฤติกรรมของมนุษย์ไว้ในการศึกษาของคุณ Scott Redick ที่เผยแพร่ลงใน Harvard Business Review ว่า “การเซอร์ไพรส์” เป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง
โดยคุณ Scott Redick ได้วัดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองของมนุษย์ ในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่น่าพึงพอใจ และได้ผลลัพธ์ว่า สมองตอบสนองมากที่สุด ตอนที่ได้รับตัวแปรที่คาดเดาไม่ได้
และการซื้อ Lucky Bag ยังอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกถึง “ความคุ้มค่า” เพราะบางครั้ง การซื้อสินค้าทั้งหมด โดยไม่ซื้อผ่าน Lucky Bag ก็อาจมีราคาสูงกว่า
2
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น Lucky Bag จากร้าน Apple Store ราคา 30,000 เยน ที่มักจะมีไอเทมแพง ๆ อยู่ในถุง ซึ่งบางคนโชคดีมาก ๆ อาจจะได้ Apple Watch หรือ MacBook Air ไปใช้กัน
1
หรือ Lucky Bag จากห้างสรรพสินค้า ที่มีโอกาสลุ้นรางวัล ตั้งแต่เนื้อวากิวทั้งตัว ไปจนถึงการเข้าพักในเรียวกังสุดหรู หรือแม้แต่การแสดงเกอิชาส่วนตัว