2 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าว

Silver แรงแซงทอง ไม่ใช่เพราะฟองสบู่…แต่เพราะโลกกำลัง “ต้องใช้มัน” มากกว่าที่เคย

ในปีที่นักลงทุนทั้งโลกยังจับตาทองคำอย่างไม่กะพริบ
มีสินทรัพย์หนึ่งที่ค่อย ๆ วิ่งแซงขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ
นั่นคือ Silver —โลหะเงิน
จากบทสัมภาษณ์ในรายการ Business Tomorrow
กับ คุณสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด บทสนทนาครั้งนี้ไม่ได้ชวนคาดเดาราคา แต่ชวนมอง “โครงสร้างโลก” ที่กำลังเปลี่ยน และทำให้ Silver กลับมาอยู่กลางเวทีการลงทุนอีกครั้ง
📍 จุดเริ่มต้นของคำถาม: ทำไม Silver ถึงขึ้นแรงกว่าทอง
คุณสุวัฒน์เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานที่หลายคนมองข้าม
แม้ทองคำและโลหะเงินจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มโลหะมีค่าเหมือนกัน
แต่เหตุผลที่ราคาขึ้นนั้น ไม่เหมือนกันเลย
ทองคำปรับตัวขึ้นเพราะความต้องการของธนาคารกลางเป็นหลัก
เป็นสินทรัพย์ที่ใช้ป้องกันความเสี่ยง ระบบการเงิน และเงินเฟ้อ
ขณะที่ Silver กลับขับเคลื่อนด้วย “การใช้งานจริง” มากกว่า
กว่า ครึ่งหนึ่งของความต้องการ Silver มาจากภาคอุตสาหกรรม
ต่างจากทองคำที่ใช้ในอุตสาหกรรมเพียงสัดส่วนเล็กน้อย
ตรงนี้เองที่ทำให้ Silver ไม่ได้เป็นแค่สินทรัพย์เก็บมูลค่า
แต่เป็นวัตถุดิบสำคัญของโลกยุคใหม่
📍 โลกเทคโนโลยีกำลังดึง Silver เข้าสู่ศูนย์กลาง
เมื่อคุณสุวัฒน์พูดถึงฝั่งดีมานด์ ภาพเริ่มชัดขึ้นทันที
Silver ถูกใช้หนักในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตเร็วที่สุดในโลก
ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึง AI และ Data Center
รวมถึงพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์
เหตุผลไม่ซับซ้อน
เพราะ Silver คือโลหะที่นำไฟฟ้าได้ดีที่สุดในโลก
และในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยพลังงานและข้อมูล
ประสิทธิภาพคือสิ่งที่ถูกเลือกก่อนต้นทุน
คุณสุวัฒน์ย้ำชัดว่า
คนจำนวนมากเข้าใจ Silver ผิด คิดว่าเป็นแค่โลหะเก็บมูลค่า
แต่ในความเป็นจริง สองในสามของ Silver ถูกใช้เพื่อ “ส่งไฟฟ้า” ไม่ใช่ “เก็บค่า”
📍 ปัญหาที่ซ่อนอยู่: ซัพพลายไม่ทันโลก
เมื่อดีมานด์เร่งขึ้น สิ่งที่ควรเกิดคือซัพพลายต้องเพิ่มตาม
แต่ Silver กลับเป็นโลหะที่เพิ่มกำลังผลิตได้ยากกว่าที่คิด
คุณสุวัฒน์ตั้งคำถามง่าย ๆ แต่สะดุดใจ
“เราเคยได้ยินเหมืองทอง เหมืองทองแดง เหมืองถ่านหิน
แต่เคยได้ยินคำว่า ‘เหมืองเงิน’ ไหม?”
คำตอบคือแทบไม่มี
เพราะ Silver ส่วนใหญ่มักเป็นผลพลอยได้จากเหมืองโลหะชนิดอื่น
ไม่ได้ขุดขึ้นมาเป็นแหล่งใหญ่โดยตรง
ผลคือ ซัพพลาย Silver ขาดดุลต่อเนื่องมาหลายปี
แต่ก่อนหน้านี้ดีมานด์ยังไม่แรงพอจะทำให้ราคาขยับ
จนกระทั่ง AI และเทคโนโลยีระเบิดตัวจริงในช่วงหลังปี 2023
แรงกดดันที่สะสมไว้ จึงเริ่ม “ปลดปล่อย” ออกมาในรูปของราคา
📍 แล้วปี 2026 ล่ะ? Silver หรือ Gold ใครน่าสนใจกว่า
ในมุมมองของคุณสุวัฒน์ ปี 2026 คือปีของ Silver Lining
ไม่ใช่เพราะ Silver ปลอดภัยกว่า
แต่เพราะในเชิง “เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทน”
Silver ยังมีพื้นที่ให้เติบโตมากกว่าทองคำ
ทองคำปรับขึ้นมาแล้วมากในรอบหลายปี
การจะขึ้นต่ออีกในอัตราเดิมย่อมทำได้ยาก
ขณะที่ Silver ยังอยู่ในตลาดที่เล็กกว่า
และตอบสนองต่อดีมานด์ใหม่ได้แรงกว่า
อย่างไรก็ตาม คุณสุวัฒน์เตือนชัด
ตลาด Silver มีสภาพคล่องน้อยกว่าทอง
ขึ้นเร็วได้ ก็ลงแรงได้เช่นกัน
ใครที่คิดจะลงทุน ต้องเข้าใจความผันผวนเป็นอันดับแรก
📍 บทสรุปการลงทุน: เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับตัวเอง
คุณสุวัฒน์ไม่ได้ชี้นำให้ “ซื้อ” หรือ “ขาย”
แต่เน้นให้เลือกเครื่องมือให้ตรงกับความเสี่ยงที่รับได้
กองทุนเหมาะกับคนที่อยากลงทุนตามเทรนด์ระยะยาว
TFEX เหมาะกับคนที่รับความผันผวนและความเร็วของตลาดได้
ส่วน Silver แท่ง แม้จะดูจับต้องได้ แต่ในทางปฏิบัติไม่สะดวกนัก
หัวใจสำคัญไม่ใช่ว่า Silver จะไปกี่เหรียญ
แต่คือ คุณเข้าใจเกมที่กำลังเล่นอยู่หรือไม่
สิ่งที่ต้องติดตามต่อ
▪️ความเร็วการขยายตัวของ AI และ Data Center
▪️ความพยายามหาวัสดุทดแทน Silver
▪️วัฏจักรเศรษฐกิจโลกว่าจะเร่งหรือชะลอการใช้เทคโนโลยี
เพราะในโลกการลงทุน
บางครั้งสินทรัพย์ที่น่าจับตาที่สุด
ไม่ใช่สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
แต่คือสิ่งที่โลก “กำลังต้องใช้” โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
#BusinessTomorrow #Silver #SilverVsGold #การลงทุน #AI #DataCenter #MegaTrend
โดย : BusinessTomorrow
โฆษณา