29 ธ.ค. เวลา 00:00 • หนังสือ

บรรยายฉากแบบทำก๋วยเตี๋ยวแห้ง

ผมติดนิสัยเขียนเรื่องสั้นและนวนิยายแบบไร้ไขมัน (lean) คือไม่มีส่วนเกิน ประหยัดถ้อยประหยัดคำ จนบางคนว่าห้วนไป นักเขียนคนอื่นสามารถร่ายเนื้อความเดียวกันได้เป็นหน้าๆ ผมใช้แค่สองสามบรรทัด
1
วันก่อนมาดูนวนิยาย ปีกแดง ก็พบว่าจริง! เราห้วนมาตั้งแต่ปีแรกๆ แล้ว
ฉากต่อไปนี้เขียนมา 25 ปีแล้ว ห้วน กระชับ ถ้าให้เขียนใหม่ตอนนี้ คงใส่ผงชูรสมากกว่านี้อีกหน่อย
ผู้อ่านชอบแบบก๋วยเตี๋ยวน้ำเยอะๆ หรือแบบแห้ง?
1
ชายหลายคนกำลังพูดถึงเขาอยู่ ทั้งหมดดูรูปถ่ายสองสามรูปบนโต๊ะ สีหน้าเคร่งเครียด
หลวงชาญไชยนิวัติกล่าวว่า “รูปนี้คนของผมถ่ายได้”
หลวงรณยุทธสงครามขมวดคิ้วว่า “คุณให้คนเฝ้าเขา?”
ผู้ถูกถามยิ้มกระด้าง “ผมได้รับข่าวเมื่อวันก่อนว่า พวกแต้มแดงกำลังมีความเคลื่อนไหว จริงตามข่าวนั้น คุณรุจน์ที่คุณรับรองว่ารักชาติหนักหนา ติดต่อกับพวกคอมมิวนิสต์จีนสยาม จำชายคนนี้ได้ใช่ไหม ตันเต็กเส็ง หัวหน้าพวกแต้มแดง”
“บังเอิญ...”
“เป็นไปไม่ได้ อยู่ดี ๆ ทำไมก่อนออกเดินทาง เขาถึงไปหาพวกนั้นที่ย่านคนจีน ร้านเอี๊ยะแซเป็นหน้าฉากของพวกแต้มแดง พวกคอมมิวนิสต์จีน เขารู้ เขาเป็นสายของคอมมิวนิสต์อย่างแน่นอนที่สุด”
“คุณหลวงได้ข่าวจากไหน?”
“ไม่สำคัญว่าจากไหน สำคัญว่าจริงก็แล้วกัน ผมบอกแล้วว่า ทุกอย่างเกี่ยวกับชายคนนี้เกี่ยวข้องกับพวกคอมมิวนิสต์ทั้งหมด ญาติสนิทเป็นคอมมิวนิสต์ ทำไมถึงต้องติดคุกโซเวียต ทำไมถูกปล่อยออกมา ทำไมเดินทางไปหาหลวงพิจิตรฯทำไมไปหาพวกแต้มแดงที่ราชวงศ์ มีใครตอบผมได้ไหมว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิญ”
“แต่พวกแต้มแดงไม่มีตัวตนอีกแล้ว”
“ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีบทบาท ผมเชื่อว่าป่านนี้พวกแต้มแดงคงรู้แล้วว่าพวกเราเป็นใครกันบ้าง พวกนั้นคงอยากฆ่าเราเต็มที”
พระโกศลวีรยุทธจำนนต่อหลักฐาน เอ่ยเบา ๆ “ตามรุจน์กลับมา”
“ช้าไปแล้ว เขาออกเดินทางไปแล้ว”
“เราปล่อยเสือเข้าป่า...”
“การที่รุจน์ติดต่อกับพวกแต้มแดง ทำให้ผมคิดว่าพวกนั้นน่าจะรู้แล้วว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้มาโดยตลอด”
“คุณคิดว่าพวกเขาจะกล้ามาล้างแค้นหน่วยแม่บ้าน?”
“ไม่มีอะไรที่พวกแต้มแดงไม่กล้าทำ พวกนั้นไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้ว”
“เราอาจจัดการพวกมันได้ก่อน”
ทันใดประตูห้องประชุมถูกผลักออกเบา ๆ ทั้งหมดหันไปดู เป็นหญิงรับใช้ถือถาดกาแฟ พระพิจารณ์บริบาลหน้าบึ้งเอ่ยเสียงแข็ง “ใครบอกให้เสิร์ฟกาแฟ?”
“อิฉันไม่...”
หญิงรับใช้พูดได้แค่นั้นก็ตาเหลือก พลันร่างของหล่อนก็ล้มลง เลือดไหลออกมาจากหน้าอก ถาดกาแฟกระทบพื้นดังกังวาน เผยให้เห็นด้านหลังเป็นชายคนหนึ่งสวมผ้าคลุมหน้า ใช้หล่อนเป็นที่กำบัง ปืนพกสีดำในมือ
พระโกศลวีรยุทธกับพระพิจารณ์บริบาลลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีที่รู้สึกผิดสังเกต ในเสี้ยววินาทีนั้น นิ้วมือภายใต้ถุงมือรัดกุมก็กระดิกยิงอย่างประณีต เสียงของมันแผ่วเบาเพราะติดเครื่องเก็บเสียง
ร่างพระพิจารณ์บริบาลกระเด็นหงายออกไปก่อน เลือดซึมไหลออกจากหน้าผาก ล้มโดยไม่ร้องสักคำ นายทหารร่างใหญ่สิ้นใจก่อนที่ร่างจะตกถึงพื้น พระโกศลวีรยุทธถลันร่างขึ้น แต่ก็สะดุ้งเฮือกเมื่อมือปืนลั่นไกอย่างเยือกเย็น กระสุนทะลวงแสกหน้าใส่ร่างท่านเพียงนัดเดียว ร่างของพระโกศลวีรยุทธผงะโอนเอน ในที่สุดก็หน้าคว่ำคาโต๊ะประชุม หลวงชาญไชยนิวัติชักปืนที่เอวออกมา แต่ไม่ทันพ้นซอง ร่างของเขาก็ผงะหงายไปจมเบาะเก้าอี้ยาว
หลวงรณยุทธสงครามยิงปืนออกไปได้นัดเดียวก็ถูกยิงล้มลง ปืนหลุดกระเด็นจากมือ เขาคลานไปยังจุดที่ปืนตกอยู่ มือสังหารเล็งปืนที่ร่างเขา แต่ถูกหลวงอิสรายุทธยิงสวน ชายมือปืนอุทานเป็นภาษาจีนคำหนึ่งและวิ่งหนีไป
หลวงรณยุทธสงครามร้องบอกหลวงอิสรายุทธซึ่งเป็นผู้เดียวที่ไม่ถูกยิงว่า “ไปดูหลวงชาญฯก่อน”
หลวงชาญไชยนิวัติฝืนยิ้มขณะที่เลือดไหลออกจากปาก กล่าวเสียงกระท่อนกระแท่นว่า “เห็นมั้ย... คุณรุจน์ของคุณให้แผนที่บ้านนี้กับ... พวก... แต้มแดง...” แล้วสิ้นใจ
หลวงรณยุทธสงครามเลือดขึ้นหน้า “ผมจะตามล่ามันเอง”
หลวงอิสรายุทธกล่าว “ได้เวลาเรียก 'แม่บ้าน' แล้ว”
จาก ปีกแดง
รางวัลนวนิยายดีเด่นคณะกรรมการหนังสือแห่งชาติ ปี 2546
โฆษณา