6 ชั่วโมงที่แล้ว • ปรัชญา
คำถามตามกระทู้ ได้เจตนาตั้งคำถามเพื่อมองหาแนวคิดทางธรรมะ และปรัชญา แต่ก็ปรากฎว่ายังมีผู้ที่ตอบไม่ตรงเจตนาคำถาม จะเห็นได้ว่า สิ่งนี้นับเป็นความสับสนย้อนแย้งในตัวผู้นั้นเอง โบราณใช้ว่า "เอาแต่ว่าเขา อิเหนาก็กลับเป็นเสียเอง"
7
แต่ถึงกระนั้น ก็นับว่ายังมีส่วนดีอยู่บ้าง คือสิ่งที่แสดงออกมา ผ่านการคิดและเขียน ได้ทำให้พวกเรามองเห็นตัวอย่าง "ความโกรธที่แสดงออกเยี่ยงสัตว์ป่า" เมื่อความศรัทธาหรือความเชื่อตนถูกสั่นคลอน หรือไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นอุปนิสัยของเด็ก ที่ยังขาดวุฒิภาวะ แต่หากปรากฎในวัยผู้ใหญ่ คนๆนี้ ก็อาจมีปมบางอย่างตั้งแต่วัยเด็ก หรือไม่ชีวิตก็ถูกกดขี่ข่มเหงจากคนในครอบครัว สังคม หรือแม้แต่ที่ทำงาน จึงเพียงหาพื้นที่ระบายความคับข้องใจ หรือประสงค์เพียงเรียกร้องความสนใจ เราจึงไม่ควรถือสาหาความ
2
ความโกรธ หรือโทสะที่ประสงค์ทุษร้าย ทั้งทางกาย วาจา และใจ เป็นหนึ่งในอกุศลมูล 3 คือโลภะ โทสะ และโมหะ ที่นอนเนื่องในสันดานมนุษย์ทุกคน ไม่มีเว้นเลยสักคน แม้แต่เราผู้กำลังให้ความเห็นอยู่นี้ หรือแม้แต่เจ้าของกระทู้ หรือทุกๆคนในที่นี้ ประเทศนี้ ในโลกนี้ ความโกรธไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ แต่เกิดจากเหตุปัจจัย เพราะยึด ขึง ตรึงแน่น "ว่าไม่ควรเป็นอย่างนี้ๆ ว่าต้องไม่เป็นอย่างนี้ๆ"
2
หากเราป่าวร้องไปทั่วว่า เราเป็นพุทธศาสนิกชน เป็นผู้ฝักใฝ่ในธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นคนดี ผู้มีใจสูงส่ง ชูศีลธรรม โดยไม่ได้เสแสร้งแกล้งประดิษฐ์ เราเพียงใช้สติตรึกนึก ถึงลำดับปฏิจจสมุปบาท นั่นคือ ทันทีเมื่อผัสสะได้รับการกระทบ จึงเกิดเวทนา (ความไม่พอใจ) ตัณหาเกิดขึ้นฉับพลันรวดเร็วมาก คือความไม่อยากได้สิ่งนั้น อยากให้เป็นไปดั่งใจ และในที่สุดโทสะอุปทาน ก็เกิดทันใดชั่วฟ้าแล่บ ไม่มีใครตามทันเลยสักคน แต่ถึงกระนั้นเราก็หลงคิดว่าเราตามทัน ที่จริงไม่ทัน เพราะจิตมันไวยิ่งกว่าเแสง คำถามคือ แล้วต้องยังไง?
3
เราขอยกเอาคำพูดคุณออมสิน
ในฐานะที่เป็นสหายทางธรรมด้วยกัน
คุณออมสินบอกว่า ชนะหรือแพ้ วัดกันก็ตรงนี้
ใครหยุดได้ก่อน คนนั้นชนะ หยุดเป็นตัวสำเร็จ
คุณออมสิน ยังแสดงให้เห็นผ่านการเขียน
และการสนทนากับเราในหลายๆครั้ง
....................
ดังนั้น ง่ายๆ เมื่อโกรธ รู้ว่าโกรธ
ระงับเสีย หยุดเป็นตัวเสำเร็จ
ชนะมารในใจตนให้ได้ก่อนค่ะ
สุภาพบุรุษตัวจริง ปฏิบัติจริง
ที่หาได้ยากยิ่ง ในยุคสมัยนี้เลยทีเดียว
5
โฆษณา