รอบกองไฟ ๑. เราจะมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใด การได้มาซึ่งชีวิตนั้นจำต้องสละความยึดถือในทุกสิ่ง ซึ่งเท่ากับสละตัวเราอันก่อกำเนิดจากความยึดถือ

รอบกองไฟ ๒. คิดว่าทุกๆ คน คงเคยฟังเทศน์ฟังครูบาอาจารย์บรรยายชี้แนะ ถึงภาคปฏิบัติ อานิสงค์ของการปฏิบัติ อะไรเหล่านี้มามากมายแล้ว แต่ตราบใดที่เรารู้สึกตัวไม่ได้ต่อเนื่องกัน ตราบนั้นอานิสงค์ หรือผลของการ

รอบกองไฟ ๓. การเดินทางกลับสู่แหล่งกำเนิดนี้มีจุดเริ่มต้น ณ. ที่ตรงไหน เมื่อเราไปถึงที่หนึ่งที่ใด เดินหลงไปในป่า มันต้องถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าหลงเสียแล้ว แล้วจุดนั้นคือจุดที่เราจะย้อนกลับ ในจุดที่รู้ส

รอบกองไฟ ๔. รอยต่อระหว่างความคิด, เรื่องที่คิดกับอาการแห่งการคิดนี้คนละเรื่อง อันหนึ่งเป็นนามธรรมอีกอันหนึ่งเป็นรูปธรรม เป็นกลไกของจิต การเคลื่อนไหวของจิตขึ้นสู่การคิดนึก จะยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ ว่า

รอบกองไฟ ๕. อันที่จริงนั้นคำพูดที่ว่า การปฏิบัติเพื่อเดินทางกลับเป็นคำสมมุติเท่านั้น เมื่อผู้ปฏิบัติธรรมรู้สึกตัวต่อเนื่องกันดีแล้ว มันไม่รู้สึกว่าเดินทางไปหรือเดินทางมา มันไม่ใช่กลับมันไม่ใช่ไป แต่มั

รอบกองไฟ ๖. คนทั่วไปมักกระหายความสุขเหมือนกระหายได้กินชามข้าวสวยๆ ที่จริงชามข้าวสวยๆ เราไม่ได้กินมัน เรากินอาหารเท่านั้น ความสุขเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่สิ่งสำคัญนัก แต่การรู้แจ้งเป็นอาหารของชีวิต แส

รอบกองไฟ ๗. เราหันมาพิจารณาหลักปฏิบัติในสติปัฏฐาน ๔ ของพระพุทธเจ้ากันต่อไป แม้ว่าจะมีคำอธิบายความสัมพันธ์ของฐานแห่งการตั้งสติไว้มากมายกว้างขวางเช่นไรก็ตามแต่สิ่งนั้นเป็นเพียงคำอธิบายอยู่ เมื่อเป็นการป

รอบกองไฟ ๘. เป็นความจริงทีเดียวว่าการรู้จักธรรมนั้นคือการรู้จักตัวเอง เป็นคำพูดที่ลึกซึ้งในถ้อยคำง่ายๆ สั้นๆ คนทั่วไปในโลกนี้เมื่อได้ยินคำว่ารู้จักตัวเองมักจะคิดว่า รู้จักว่าเรามีชื่อว่าอะไรเป็นคนจังห

รอบกองไฟ ๙. ชีวิตนี้เป็นดุจกระแสลำธาร ที่ไหลต่อกันมา มันไหลเชี่ยวไปกระทบทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวา ซึ่งทำให้กระแสธารนั้นเป็นเกลียวคลื่นขึ้น เหตุการณ์ประจำวันนี้แหละอุปมาด้วยฝั่ง โขดหิน ที่กระแสธารของชีวิ