“การหล่อเลี้ยงความตั้งใจ” ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาบทความของวันนี้ ผมขอเริ่มจากการแนะนำบทความในชุดใหม่นี้ครับ โดยมาในชื่อ “บันทึกชีวิต By นักจิตฯ” ซึ่งบทความในชุดนี้ เหมือนเป็นบันทึกประจำวันเล่มหนึ่ง ที

“ยึดติดกับการให้และชัยชนะ” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นการค้นพบในระหว่างการเดินทางก็ได้ครับ เรื่องก็คือ ผมขับรถกลับบ้านจากออฟฟิศตามปกติ แต่ด้วยอากาศของเชียงใหม่ที่ค่อนข้างร้อน (ร้อนโ

“การเติบโต” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้ ผมได้มาจากหนังสือที่ชื่อ “ดอกไม้ไม่จำนรรจ์” ซึ่งผู้เขียนคือ เซนไค ชิบายามะ และแปลโดย พจนา จันทรสันติ เมื่อผมได้อ่านประโยคดังกล่าว มันทำให้ผมได้เห็นภาพของต้นไม้ ท

“ธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลง” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้ ผมได้มาจากหนังสือที่ชื่อ “โศลกเซนปริศนาธรรม” ซึ่งผู้เขียนคือ พระเถระซิงหวิน แปลโดย อุษา โลหะจรูญ เมื่อผมได้อ่านประโยคนี้ มันก็ชวนให้นึกถึงภาพของ

“การทำบางสิ่งไม่ถนัด ไม่ได้แปลว่าเราไร้ประโยชน์” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้ ผมได้มาจากหนังสือที่ชื่อ “เต๋าแบบหมีพูห์” ซึ่งผู้เขียนคือ เบนจามิน ฮอฟฟ์ และแปลโดย มนต์สวรรค์ จินดาแสง เมื่อผมได้อ่านประโยคด

“การครอบครองโดยไม่ยึดติด” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้ ผมได้มาจากหนังสือที่ชื่อ “ฮัมเพลงบรรเลงธรรมชาติ” ซึ่งผู้เขียนคือ โสรีช์ โพธิแก้ว (ท่านเป็นอาจารย์ของผมเองครับ ^^) เมื่อผมได้อ่านประโยคดังกล่าว ก็ทำ

“การไม่มีเงื่อนไข” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้ ผมได้มาจากหนังสือที่ชื่อ “มีเธอจึงมีฉัน” ซึ่งผู้เขียนคือ สาทิศ กุมาร และแปลโดย ทาคินี เมื่อผมได้อ่านประโยคดังกล่าว ก็เหมือนถูกเชื้อเชิญให้ได้เรียนรู้ ถึงบ

“ความรักท่ามกลางความสูญเสีย” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้ ผมได้มาจากหนังสือที่ชื่อ “คู่มือหัวใจสลาย” ซึ่งผู้เขียนคือ จูเลีย ซามูเอล และแปลโดย วรรธนา วงษ์ฉัตร เมื่อผมได้อ่านประโยคดังกล่าว ก็ทำให้นึกถึงเร

“การไม่กักขังตัวเองไว้ในความรุนแรง” ประโยคในภาพประกอบบทความนี้ ผมได้มาจากหนังสือที่ชื่อ “สุดทางทุกข์” ซึ่งผู้เขียนคือ คล้อด อันชิน ธอมัส และแปลโดย อมร แสงมณี, อัฐพงศ์ เพลินพฤกษา เมื่อผมได้อ่านประโยคดั