17 ม.ค. 2019 เวลา 05:00 • ธุรกิจ
Slack สุดยอดแอพคุยงาน ฟังก์ชั่นครบเครื่อง เกื้อหนุนองค์กร
ต้องขอยอมรับเลยว่าปัจจุบันเราใช้ internet ในการทำอะไรหลาย ๆ อย่างทั้งการคุย ดูหนัง ฟังเพลง และอีกมากมาย
ซึ่งมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตแล้ว อีกทั้งยังมีแอพแชทที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้สามารถคุยอะไรกันง่ายขึ้น
อย่างพวก LINE, Facebook messenger, WhatsApp แต่บางแอพที่พูดมา ก็ไม่รองรับสำหรับการสนทนาแบบทั้งองค์กร
หรือทำงานแบบกลุ่มใหญ่ ใช้เพียงคุยส่วนตัว ทำงานกลุ่มคุยงานแค่ชั่วคราว ซึ่งมันน่าเสียดายมากที่มีข้อจำกัดแบบนั้น เผลอ ๆ
หากลบแอพทิ้ง ประวัติการคุยก็หายไปด้วย ร้องไห้ไปตาม ๆ กัน แล้วจะมีแอพอะไรที่สามารถตอบโจทย์การสนทนาแบบทั้งองค์กรได้บ้าง
อยากจะกระซิบบอกว่า Slack เป็นแอพที่ตอบโจทย์ได้อย่างเต็มเหนี่ยว และเป็นที่นิยมมากใน Startup เพราะใช้ได้ทั้งการคุยแบบทีม
ลากไฟล์ สร้างกลุ่ม ยังไม่จบนะ ถ้าอยากจะรู้ว่ามีอะไรเจ๋ง ๆ อีกบ้าง มาดูกัน!
1.แยกโปรเจกต์เป็นโปรเจกต์ ไม่ปะปน - เวลาได้รับงานมา เรามักจะเรียกมันว่าโปรเจกต์
แล้วในหนึ่งโปรเจกต์จะประกอบไปด้วยหลากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายโปรดักชั่น ฝ่ายขาย ฝ่ายผสานงาน และอีกมากมาย
การตั้งกลุ่มเพื่อคุยงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะแต่ละฝ่ายจะได้แจ้งความคืบหน้า แต่หากต้องการคุยแยกเป็นฝ่าย
ต้องตั้งกลุ่มแยกอีกหรอ ? แล้วจะไม่สับสนกับกลุ่มอื่นเหรอ ? เวลาเลื่อนหารับรองว่าหัวหมุนแน่นอน
แต่ Slack ไม่ทำให้วุ่นวายขนาดนั้นแน่นอน เพราะเราสามารถตั้งห้องที่เรียกว่า "Workspace" มันจะคล้าย ๆ กับห้องใหญ่ที่เก็บห้องแชทเล็ก ๆ ไว้ข้างใน ซึ่งเราสามารถตั้งชื่อ
เป็นชื่อโปรเจกต์ที่ทำอยู่ได้ ส่วนห้องแชทเล็ก ที่พูดถึงจะเรียกว่า Channel โดยพื้นฐานมันจะมีห้อง #general #random มาให้
ถ้าเราต้องการสร้างห้องเพิ่มเพื่อที่จะใช้คุยเฉพาะฝ่ายก็สามารถกดที่ปุ่ม + เพื่อทำการเพิ่มได้ ง่าย ๆ เพียงแค่คลิกแล้วตั้งชื่อ
โดยรวมจะสังเกตได้ว่าห้องแชทที่ตั้งมาจะอยู่ในขอบเขตของโปรเจกต์นั้น แม้เราจะมีหลายโปรเจกต์ที่ต้องรับผิดชอบ
เมื่อที่แชทเด้งมา มันก็จะปรากฏที่หัวโปรเจกต์นั้น เราก็จะรู้ทันทีว่า แจ้งเตือนที่เด้ง เป็นของโปรเจกต์ไหน
2.แผนกไหน ใครเอ่ย ? - ในกลุ่มที่เราอยู่มีคนเข้าเยอะแยะเลย แต่ดันไม่รู้ว่าเขาคือใคร ทำงานแผนกไหน เอาละสิ นี่แหละปัญหาใหญ่เลย
ที่เราต้องเสียเวลาในการสืบหาว่าใครอยู่แผนกไหนบ้าง จึงจะผสานงานต่อไปได้ หากเป็น Slack เราจะสามารถระบุได้เลยว่า อยู่แผนกไหน
ทำหน้าที่อะไร ในช่อง What i do ซึ่งมันจะช่วยให้การสื่อสารมีความง่ายขึ้นอย่างชัดเจน โดยที่ไม่ต้องมาสับสน
3.สีสันสะดุดตา มองไม่มีเบื่อ - ด้วยความที่แอพนี้มีสีสันหลายสี ทั้ง ฟ้า เขียว เหลือง แดง สลับกัน จะเห็นได้ในโลโก้ของ Slack และธีมของหน้าแชท
ซึ่งเราสามารถเลือกสีได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะสีตัวอักษร พื้นหลัง สีอาจจะมีความหมายต่อหลายคนนั้นคือ
มันสามารถบอกถึงตัวตนของโปรเจกต์นั้น เช่น โปรเจกต์โฆษณาให้ 7-11 อาจจะเลือกสี ส้ม เขียว แดง เพื่อบิ้วอารมณ์ให้เข้าถึง
เห็นมั้ยละ นอกจากจะมีสีสันที่ไม่ให้เครียดเวลาใช้งาน ยังสามารถทำให้เราเข้าถึงตัวตนของแบรนด์นั้นอีกด้วย
4.จะคุยแบบไหน เราจัดให้ - ไม่ว่าจะอยากได้ห้องคุยแบบส่วนตัว ใครที่ไม่ได้รับอนุญาตจะเข้าไม่ได้ หรือ ห้องแชทคุยเล่น
ใครจะเข้ามาดูหรือร่วมสนทนาด้วยก็ได้ Slack ก็จัดให้จ้า ด้วยฟังก์ชันที่แบ่งออกอย่างชัดเจน ถ้าหากต้องการคุยส่วนตัวแบบกลุ่ม
การสร้างห้องก็จะมี ตัวแม่กุญแจอยู่ข้างหน้า แสดงถึงว่าห้องนี้ล็อกไว้นะ ใครห้ามเข้า ห้ามดู เรียกว่า Private Groups
ส่วนอยากจะเพื่อคุยแบบปกติ ก็จะเป็นเครื่องหมาย # ที่ใครก็สามารถเข้ามาดูบทสนทนา หรือจะขอเข้าร่วมด้วยก็ได้นะ
อันสุดท้ายคือ Direct Messages ใช้สนทนาแบบ 1-1 ระหว่างคนในบริษัท ไว้สำหรับส่งงานรายบุคคลหรือคุยส่วนตัว
5. Drop ได้ everything - ปัญหาของการแชทแบบกลุ่มคือ การจะส่งไฟล์ ภาพ วิดีโอ ให้ปลายทางดู
เพราะบางแอพไม่รองรับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ รวมไปถึงจำกัดเฉพาะนามสกุลที่กำหนดไว้อีกด้วย
ปัญหาเหล่านี้เป็นข้อจำกัดที่น่าเบื่อ แต่ไม่ใช่กับ Slack เพราะตัวนี้ทำหน้าที่คล้าย Google Drive, Dropbox ที่สามารถ Drop
ได้ทุกสิ่งอย่างไม่ว่าจะขนาดไหน นามสกุลไหน แต่ทีเด็ดอีกอย่างคือ เราสามารถลากมา Drop ลงห้องสนทนาได้เลย
ไม่ต้องไปเปิดหาไฟล์ให้ยุ่งยาก ซึ่งเดิมทีฟังก์ชั่นแบบนี้มีเฉพาะใน Mac เท่านั้น แต่ Slack เห็นถึงความสะดวกในจุดนี้
จึงพัฒนาในระบบปฏิบัติการ windows สามารถทำได้เช่นกัน เจ๋งสุดเลย ๆ
6. เล่นได้ทุกที่ ไม่ต้องโหลดแอพก็ยังได้ - หมดปัญหาเรื่องจะโหลดแอพอะไรมา ความจุไม่พอ! ต้องมีลบแอพแล้วล่ะ
เพราะว่า Slack สามารถใช้ได้เกือบทุกระบบปฎิบัติการ ไม่ว่าจะใน PC เบราเซอร์, Google chrome, Safari ในมือถือและคอมพิวเตอร์
ก็สามารถเล่นแบบไม่มีติดขัด หรือหากใครสะดวกก็โหลดแอพได้ ข้อดีของ Slack คือจะสามารถติดตั้งได้ทั้งในมือถือและคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน ไม่มีข้อจำกัดที่สำหรับการใช้งาน Slack อยู่แล้ว
7. อารมณ์ไหนให้ emo ช่วย - ใน Slack ก็มี emoticon ให้เลือกเหมือนแอพแชทอื่น ๆ ทั้งอารมณ์เศร้า ดีใจ เสียใจ
หากนึกไม่ออกให้มองหาอีโมใน Facebook messenger คล้าย ๆ กันเลย แต่จุดที่ทำให้แอพนี้น่าสนใจคือ
การที่เราสามารถครีเอท emoticon ของตัวเองแล้วเอาใช้ในการแชทได้ เป็นไงล่ะ คลูสุด ๆ
8. โค้ดคำสั่ง ทำตามใจ - นอกจากจะใช้คุยงาน Drop ไฟล์ ใส่อิโมจิแสดงอารมณ์ ความ special ของแอพนี้คือ
เราสามารถเขียนโค้ดคำสั่งต่าง ๆ ในช่องคำพูดเช่น @channel เพื่อเรียกทุกคนในกลุ่มอ่านข้อความของเรา @username
คือการใช้เรียกคนที่เราพิมพ์ชื่อเข้าไป เป็นต้น ยังไม่หมดจ้า ยังมีชุดคำสั่งพื้นฐานที่ควรรู้อย่างเช่น /poll อันนี้จะได้รับความนิยมมาก
เพราะใช้ในการโหวตเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องการให้คนในกลุ่มมาตอบ ซึ่งคำสั่งเหล่านี้ก็มาจากเหล่าแอพเสริมที่มาร่วมกับ Slack ให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น
ในโลกยุคดิจิทัล การพัฒนาแอพได้เป็นเรื่องธรรมดาที่อิทธิพลในปัจจุบันมากขึ้น ทั้งต้องการตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่มีมาไม่หยุด และยังคงมีเพิ่มเรื่อย ๆ อย่างแอพที่พูดถึงคือ Slack เป็นการรวมฟีเจอร์ของแอพแชท และฟีเจอร์สุดเจ๋งอย่างอื่นอีกมากมาย มาไว้ในที่เดียวกัน แล้วเน้นใช้เพื่อทำงานไม่ใช่เพื่อคุยเล่น ซึ่งตอบโจทย์ Startup ที่ต้องการสื่อสารกันภายในองค์กร ด้วยฟังก์ชั่นมากมายตามที่กล่าวมาทำให้ Slack เป็นแอพที่น่าสนใจ และมีความเหนือกว่าแอพแชททั่วไป ที่เอาไว้เพียงการแชทเม้าท์มอย คุยเล่น เท่านั้น
Artisan Digital เป็น ดิจิทัล เอเจนซีที่เชี่ยวชาญงานด้านการพัฒนาซอฟแวร์ เว็บไซต์ แอพพลิเคชัน รวมถึงงานครีเอทีฟและดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับ corporate และ startups ทั้งในไทยและต่างประเทศ
.
ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาได้ฟรี: โทร. 0882667812
.
#software #website #mobileapp #iOS #Android #webdesign #UI #UX #digitalmarketing
โฆษณา