14 ม.ค. 2019 เวลา 01:09 • ธุรกิจ
ประวัติ Jack Ma ตอนที่ 1 : Internet
เด็กชายนามว่า “หม่า หยุ่น” หรือชื่อจริงของ Jack Ma นั้นเกิดในครอบครัวยากจนในเมืองหังโจว เขาเติบโตมาพร้อมกับความอยากรู้ภาษาอังกฤษมาโดยตลอด เขามักจะออกจากบ้านไปพูดคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างสม่ำเสมอ ชื่อ Jack ของเขานั้นก็มาจากคำแนะนำของนักท่องเที่ยวคนหนึ่งนั่นเอง
Jack Ma ตอนที่ 1 : Internet
เรื่องการเรียนในวัยเด็กเรียกว่าเข้าขั้นย่ำแย่เลยสำหรับ แจ๊ค เขาสอบตกเลขจบเกือบจะไม่ได้เรียนต่อในชั้นมหาลัยด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเขาก็ได้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียน Hangzhou Teacher School จนจบการศึกษาในที่สุด
Jack Ma เกิดในครอบครัวยากจนในเมืองหังโจว
แจ๊ค นั้นไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นครูภาษาอังกฤษไปตลอดชีวิต ในปี 1992 แจ๊คกับเพื่อนได้ร่วมกันก่อตั้งสำนักแปลไห่โป๋ขึ้นมา ซึ่งเป็นก้าวแรกของเขาที่ย่างเข้าสู่วงการธุรกิจ สำนักแปลไห่โป๋ ของแจ๊ค นั้นดำเนินธุรกิจอย่างล้มลุกคลุกคลาน จนเริ่มมีกำไรในปี 1995 และกลายเป็นสำนักแปลภาษาที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหังโจวในที่สุด
1
เปิดสำนักแปลภาษาไห่โป๋ และเป็นครูสอนภาษาอังกฤษไปด้วย
และในต้นปี 1995 นั้น เมืองหังโจวเกิดดีความสัญญากับต่างประเทศขึ้นมาคดีหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนสร้างทางด่วนกับบริษัทในอเมริกา ซึ่งมีข้อพิพาทกัน ทำให้เทศบาลเมืองหังโจวต้องตัดสินใจส่งตัวแทนไปติดต่อกับฝ่ายอเมริกัน เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
jack ma ในวัยหนุ่ม ต้องเดินทางมาอเมริกา เป็นตัวแทนเทศบาลหังโจวเพื่อไกล่เกลี่ย
ซึ่งมันกลายเป็นภารกิจของแจ๊ค ที่ขณะนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาษาอังกฤษที่สุดแห่งสำนักแปลไห่โป่ ที่ต้องไปช่วยเหลือเทศบาล โดยเขาต้องเดินทางไปยังอเมริกาที่เมือง ลอสแองเจลลิส แต่มันเป็นความซวยที่มาเยือนของแจ๊ค เมื่อทางการได้สืบสวนในทางลับแล้วพบว่า บริษัทเหล่านี้เป็นพวกนักต้มตุ๋นระดับชาติ แต่มันช้าไปซะแล้ว เพราะแจ๊คเข้าถ้ำเสือเดินทางถึงอเมริกาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มีการต้อนรับแจ๊ค อยางดีจากฝั่งอเมริกา เพื่อหลอกให้แจ๊คตายใจ แต่สุดท้ายทางฝั่งอเมริกาก็เผยไต๋ในที่สุด และได้จับกุมแจ๊ค ไปขังเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งกว่าจะหลุดมาได้นั้น แจ๊ค ก็ต้องจำเป็นเล่นบทเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนของบริษัทอเมริกาเสียเอง ทำเหมือนว่าหักหลังเทศบาลที่ส่งเขามาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย จนโดนปล่อยตัวมาในที่สุด
แต่มันเหมือนภารกิจของเขายังไม่สำเร็จ เขาเลยคิดว่าจะไปที่ไหนต่อดี และนึกขึ้นได้ว่า ตอนอยู่ประเทศจีนมีครูต่างชาติคนหนึ่งที่ชื่อพิล ซึ่งเคยเล่าเรื่องลูกเขยของเขาให้ฟัง ว่ากำลังทำอะไรบางอย่างกับ “internet” อยู่ที่เมือง ซีแอตเทิล
นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นที่แจ๊ค ได้ถือโอกาส ไปทำความรู้จักกับ internet เสียหน่อย เพราะอุตส่าห์มาตั้งไกลแล้ว จึงได้ซื้อตั๋วเครื่องบินมุ่งหน้าไปยัง ซีแอตเทิล ทันที
มุ่งหน้าสู่ ซีแอตเทิล เพื่อค้นหา internet
ซึ่งเมื่อถึงเมือง ซีแอตเทิล แจ๊คไปตามที่อยู่ที่เพื่อนให้ไว้ และไปพบกับลูกเขยของเพื่อนอย่างรวดเร็ว เขาคือแซม ที่ขณะนั้น กำลังก่อตั้งบริษัท VBN บริษัทขนาดเล็ก ซึ่งตอนนั้นกำลังให้บริการ ISP เจ้าแรกแห่ง Silicon Valley แถมยังเป็นบริษัทแรกที่ทำธุรกิจนี้ในอเมริกาอีกด้วย
และนี่เป็นครั้งแรกที่แจ๊ค ได้เห็นเจ้า internet กับตาตัวเอง ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่แจ๊คเห็นตอนนั้นคือเครื่อง PC386 ที่ทันสมัยที่สุดในโลกของยุคนั้น ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 600-700 เหรียญ
PC386 เครื่องคอมพิวเตอร์สุดแรงในสมัยนั้น
แจ๊คซึ่งตอนนั้นแทบจะไม่เคยเห็นเจ้าคอมพิวเตอร์มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึง internet ซึ่งเป็นสิ่งที่ใหม่มากในยุคนั้น และเริ่มทดลองใช้มัน โดยลองพิมพ์คำว่า “Beer” ลงใน Search Engine ของ Yahoo ซึ่งต้องบอกว่าตอนนั้น Yahoo ในยุคก่อนการเกิดของ Google นั้นถือเป็น Search Engine ที่ทันสมัยที่สุดในโลก internet เลยก็ว่าได้
เมื่อ คีย์ คำว่า “Beer” แล้วกด enter เขาก็ตาลุกวาวทันที มันเต็มไปด้วยผลการค้นหา ทั้งเบียร์อเมริกันยี่ห้อต่าง ๆ เบียร์ญี่ปุ่น เบียร์เยอรมัน เบียร์ฝรั่งเศษ ต่างพากันปรากฏขึ้นมาให้หน้าผลการค้นหา
yahoo search engine ชื่อดังก่อนยุค google ครองโลก
แต่สิ่งที่ทำให้แจ๊คสงสัยมากที่สุด คงจะเป็น ทำไมถึงไม่มีเบียร์จีนโผล่ขึ้นมาเลย แจ๊คนึกในใจว่า หรือเบียร์ฝรั่ง จะมีชื่อเสียงมากกว่าเบียร์จีน พวกฝรั่งคงรู้จักแต่เหมาไถของกุ้ยโจว แต่ไม่รู้จักเบียร์จีนกันอย่างแน่แท้
แต่เขาก็คิดอีกว่า ต่อให้ไม่พบเบียร์จีนใน internet แต่ถ้าจะหา ประเทศจีน ที่มีประชากรถึง 1 ใน 5 ของโลกและมีเนื้อที่ใหญ่โตมหาศาล คงจะหาเจอละมั๊ง
และแล้ว เขาจึงบรรจง คีย์คำว่า “China” ลงในช่อง search engine ของ yahoo อีกครั้ง ผลปรากฏว่าบนจอขึ้นคำที่เหลือมากคือ “no data” หรือไม่มีข้อมูล
เจ้า internet มันไม่รู้จักประเทศจีน มันเป็นไปได้ไง แจ๊ครู้สึกสะเทือนใจ และผิดหวังอย่างมาก และคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ และแล้ว มันก็เป็นเวลาที่เขาครุ่นคิดอย่างหนัก
หลังผ่านไปราวหนึ่งนาที แจ๊ค ก็ได้ถามแซมว่า “ผมตั้งสำนักแปลภาษาอยู่ที่หังโจว จะเอามันเข้าไปอยู่ในโลก internet ได้ไหม” ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องเพียงแค่นี้ มันไม่ได้เป็นปัญหาของแซมอยู่แล้ว
และเวลานั้นเอง แจ๊ค ผู้แสนฉลาดได้เริ่มคิดการณ์ใหญ่ขึ้นมาแล้ว เขาได้ปิ๊งไอเดียที่เขาจะทำการขยายธุรกิจของสำนักแปลไห่โป๋ได้แล้ว ทีมงานของแซม ก็เริ่มทำตามความต้องการของแจ๊ค โดยสร้างเว๊บเพจสำนักแปลไห่โป๋เสร็จ และอัพโหลดขึ้น internet ทันที
มันเป็นหน้าเว๊บที่เรียบง่าย จนเข้าขั้นน่าเกลียดเลยด้วยซ้ำ ไม่มีภาพ ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีโฆษณา Flash มีแต่คำอธิบายเป็นตัวอักษรไม่กี่ตัวอักษร คือ เป็นการแนะนำสำนักแปลไห่โป๋ บวกกับรายการค่าจ้างแปล เช่น 1,000 ตัวอักษร คิด xx หยวน เป็นต้น พร้อมกับ email ในการติดต่อ
เสร็จงานหลังจากวันนั้น แซม ก็ได้พาแจ๊คออกไปเที่ยว ทั้งเช้า และ เย็น จนแจ๊คนั้นแทบไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ  และเมื่อเขากลับถึงที่พักเพื่อที่จะพักผ่อน ทว่าเขาเพิ่งจะเอนตัวลงไปกำลังจะนอนเท่านั้น
เสียงกริ่งโทรศัพท์ข้างเตียงก็ดังขึ้น แจ๊คตกใจ น้ำเสียงปลายสายเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “แจ๊ค รีบมาดู มีอีเมล์ถึงคุณห้าฉบับ”
เป็นเสียงแซม นั่นเองที่โทรมาจากบริษัท VBN แจ๊ค จึงรีบวิ่งตรงไปยังบริษัท ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักนัก เมื่อเปิด email ของตนเอง ก็ตกใจมาก มี mail ส่งถึงแจ๊ค ทั้งจาก อเมริกา ญี่ปุ่น และ ยุโรป มีทั้งหน่วยงานรัฐ รวมถึงบริษัทเอกชนด้วย
ในจำนวนหนึ่งของ email เหล่านี้เขียนไว้ว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบเว๊บของบริษัทประเทศจีน คุณอยู่ที่ไหน เราอยากทำธุรกิจกับคุณ”
แจ๊ค แทบจะไม่เชื่อสายตากับสิ่งที่ได้เห็น คราวนี้เขาเริ่มเชื่อถึงพลังมหัศจรรย์ของ internet อย่างหมดหัวใจแล้ว เขาเริ่มตื่นเต้น และดีใจจนเนื้อเต้น
ตอนนั้น ได้เกิดความคิดวาบขึ้นในสมองของแจ๊คทันที : เขาจะกลับประเทศไปสร้างธุรกิจทำ internet เขาจึงบอกกับแซมและทีมในบริษัท VBN ทันที “พวกเรามาร่วมมือกัน พวกคุณ (บริษัท VBN) รับผิดชอบด้านเทคนิคที่นี่ ผมจะกลับไปทำธุรกิจ บุกเบิกลูกค้า ขยายกิจการ ที่ประเทศของผม”
และมันเหมือนโชคชะตา ฟ้าลิขิต ที่นำพา แจ๊ค หม่า ให้มาได้พบเจอกับ internet โลกใบใหม่ ที่เขาแทบไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต การเดินทางมายังอเมริกาครั้งนี้ ได้เปลี่ยนความคิดของชายคนนี้ไปตลอดกาล ด้วยหัวทางธุรกิจที่เขามีอยู่แล้วเป็นทุนเดิมนั้น  เมื่อกลับไปถึงเมืองจีน แจ๊ค จะทำอย่างไรกับ เจ้า internet สิ่งมหัศจรรย์ สิ่งนี้ โปรดติดตามในตอนต่อไป
อ่านตอนที่ 2 : ChinaPages
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา