9 มี.ค. 2019 เวลา 03:04 • สุขภาพ
ทำไมโรคติดเชื้อHIV...ถึงไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้? (ตอน2/2)
1
เชื้อไวรัสHIVนั้น แรกเริ่มเดิมทีเราเชื่อว่ามันเป็นเชื้อโรคที่ติดต่ออยู่ในประชากรลิงชิมแปนซีในทวีปแอฟริกา และต่อมาก็ได้แพร่กระจายข้ามสปีชี่ย์มาสู่มนุษย์ การติดเชื้อHIVนั้น เกือบทั้งหมดจะติดต่อผ่านทางเลือดและสารคัดหลั่งของอวัยวะสืบพันธ์ุและทวารหนัก และคนที่ติดเชื้อตัวนี้แล้ว ในปัจจุบันแทบไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้เลย
3
ต่อจากบทความที่เเล้ว ทุกๆคนคงเห็นภาพเเล้วนะครับ ว่าทำไมร่างกายเเละเม็ดเลือดขาวของเรา จึงไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อHIVได้ เพราะก่อนที่เม็ดเลือดขาวจะพร้อมต่อสู้กับเชื้อHIV เชื้อมันก็เข้าไปหลอมรวมเม็ดเลือดขาวเสียก่อนแล้วนั่นเอง
4
ทีนี้เรามาถึงคำถามที่ว่า ”ทำไมยาฆ่าเชื้อถึงไม่สามารถฆ่าเชื้อHIVให้หมดไปจากร่างกายเราได้” ใครยังไม่ได้อ่านตอนแรก ผมแนะนำให้ไปอ่านก่อนนะครับ
2
อย่างที่ได้เล่าไปในตอนที่แล้ว เชื้อHIVนั้นติดเชื้อหลอมรวมไปกับดีเอ็นเอของเม็ดเลือดขาวที่ติดเชื้อ และบังคับให้ดีเอ็นเอของเราสร้างเชื้อHIVออกมามากขึ้นอย่างมหาศาล ดังนั้นการที่จะทำลายเชื้อHIVให้หมดไป เราก็จำเป็นที่จะต้องทำลายดีเอ็นเอและเม็ดเลือดขาวของผู้ป่วยให้หมดไปด้วยเช่นกัน ซึ่งการรักษาแบบนี้ ก็ดูจะเสี่ยงต่อชีวิตของผู้ป่วยมากเกินไป
1
หลายทศวรรษที่ผ่านมา การรักษาการติดเชื้อโรคนี้ มุ่งตรงไปที่การยับยั้งไม่ให้มีการสร้างเชื้อมากขึ้น พูดง่ายๆก็คือ ปล่อยให้มันอาศัยอยู่ในดีเอ็นเอเราต่อไปแบบนั้นแหละ แต่ยับยั้งการสร้างเชื้อตัวใหม่ๆเป็นหลัก ดังนั้นการรักษาแบบนี้จะไม่หายขาด เพียงแค่กักขังมันไว้ในดีเอ็นเอของเราเท่านั้น และนี่ก็คือการทำงานของ”ยาต้านไวรัสHIV”
1
การรักษาแบบนี้ถือเป็นการรักษาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เทียบกับสมัยก่อนที่จะมีการคิดค้นยาต้านนี้ ผู้ป่วยโรคติดเชื้อHIVนั้นจะต้องเสียชีวิตจากภาวะภูมิต้านทานต่ำทั้งหมด ในขณะที่ปัจจุบันนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อHIVทั่วโลกสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป มีเม็ดเลือดขาวอยู่ในระดับปกติทั่วๆไป เพียงแต่เป็นเม็ดเลือดขาวที่มีการกักขังเชื้อHIVอยู่ไว้ภายใน
4
ข้อเเม้ที่สำคัญที่สุดสำหรับการรักษาด้วยวิธีนี้ก็คือ เพื่อที่จะกักขังเชื้อHIVไว้อย่างถาวรตลอดไป ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องกินยาทุกๆวันเท่านั้น มิเช่นนั้น เชื้อHIVก็พร้อมที่จะปลดปล่อยพันธนาการตัวเอง และเริ่มต้นการแพร่กระจายใหม่อีกรอบได้
3
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยส่วนใหญ่ การติดเชื้อHIVก็ยังเหมือนเป็นตราบาปและความอับอายที่ติดตัวไปตลอดทั้งชีวิต มีผลกระทบต่อทั้งอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว การต้องกินยาต้านไวรัสทุกๆวัน ยังเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยเก็บความลับที่ไม่อยากบอกใคร และการรักษาไปตลอดทั้งชีวิตแบบนี้ ก็ยังเป็นภาระต่อทั้งผู้ป่วยและระบบสาธารณสุขทั่วโลก
2
ดังนั้นการรักษาโรคติดเชื้อHIVให้หายขาด ก็ยังเป็นความพยายามของวงการเเพทย์ทั่วโลกอย่างเสมอมา
3
อย่างที่ได้พูดไว้ตอนต้นบทความ หลักการง่ายๆที่สุดที่จะกำจัดเชื้อHIVนี้ ก็คือการทำลายเม็ดเลือดขาวที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมันทั้งหมด สิ่งที่ผมกำลังพูดอยู่นี้ไม่ใช่การรักษาวิธีใหม่แต่อย่างใด แต่มันคือ”การปลูกถ่ายไขกระดูก”ซึ่งใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมาเป็นเวลานานแล้วนั่นเอง
4
หลักการของการปลูกถ่ายไขกระดูกนี้ ก็คือการที่เราให้ยาเคมีบำบัด เข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวทั้งหมดที่อยู่ในกระเเสเลือดและไขกระดูก(เผื่อใครไม่รู้ ไขกระดูกคือแหล่งกำเนิดของเม็ดเลือดทั้งหมด) หลังจากที่เม็ดเลือดขาวหมดไปจากร่างกายผู้ป่วยเเล้ว เราก็จะใส่”เม็ดเลือดขาวตัวใหม่”ที่ปกติและมีพันธุกรรมใกล้เคียงกันเช่นจากพี่น้องเข้าไปแทน และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผู้ป่วยก็จะหายจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวอย่างถาวร
9
ดังนั้นการรักษาแบบนี้ก็น่าจะใช้ได้กับโรคติดเชื้อในเม็ดเลือดขาวอย่างเชื้อHIV และการรักษานี้ก็เคยประสบผลสำเร็จมาแล้ว เพราะมนุษย์ 2 คนแรกโลกที่สามารถหายขาดได้จากโรคติดเชื้อHIVนี้ ก็ได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ แล้วทีนี้ก็มาถึงคำถามว่า”แล้วทำไมถึงมีมนุษย์เพียงแค่ 2 คนในรอบ 10 กว่าปีนี้ ที่รักษาได้สำเร็จ?”
6
ก่อนอื่นต้องบอกว่าถึงแม้การรักษาจะเริ่มต้นด้วยการทำลายเม็ดเลือดขาวทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำลายเชื้อHIVได้ทั้งหมด เมื่อเม็ดเลือดขาวถูกทำลาย มันก็เหมือนเป็นการปลดปล่อยเชื้อไวรัสให้ออกมาอยู่ในกระเเสเลือดเเทน นี่ยังไม่รวมถึงว่าการรักษาวิธีนี้ก็ไม่ได้การันตีว่าจะทำลายเม็ดเลือดขาวได้ทั้งหมดครบทุกตัว การเหลือเชื้อHIVเพียงแค่ตัวเดียว ก็สามารถทำให้กลับมาติดเชื้อใหม่ได้เหมือนเดิม
7
ดังนั้น”เม็ดเลือดขาวตัวใหม่”ที่เราจะต้องใส่เข้าไปในผู้ป่วยหลังจากที่ทำลายเม็ดเลือดขาวตัวเก่านั้น จะต้องเป็นเม็ดเลือดขาว”ชนิดที่เชื้อHIVไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้”!
4
แล้วเรามีเม็ดเลือดขาวแบบนั้นด้วยอย่างนั้นเหรอ คำตอบคือมีครับ บนโลกนี้มีประชากลุ่มหนึ่งที่จะมีเม็ดเลือดขาวชนิดนี้ แต่ประชากรกลุ่มนั้น ถือเป็นประชากรที่น้อยมากที่จะหาพบ
1
นอกจากนี้การใส่เม็ดเลือดขาวเข้าไปใหม่ ยังต้องเป็นเม็ดเลือดขาวที่มีพันธุกรรมใกล้เคียงกัน ซึ่งแค่ข้อจำกัดนี้ ก็หาผู้บริจาคเม็ดเลือดขาวได้ยากแล้ว แล้วยังต้องมีข้อจำกัดว่าต้องหาผู้บริจาคที่มีเม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษอีก ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ และยังไม่ได้พูดถึงผลข้างเคียงรุนแรงอีกมากมายที่เกิดจากการรักษาด้วยวิธีปลูกถ่ายไขกระดูกที่ส่วนใหญ่เกิดจากรหัสพันธุกรรมที่ไม่ตรงกัน ทำให้การรักษาด้วยวิธีนี้ยังคงจำกัดไว้รักษาเฉพาะในโรคมะเร็งเม็ดเลือดเท่านั้น และมนุษย์ 2 คนแรกที่พูดถึงนั้น พวกเขาก็เป็นมะเร็งมะเลือดขาวด้วยเช่นกัน จึงได้สามารถทดลองรักษาด้วยวิธีนี้ได้
7
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีมานี้ มีแนวคิดการรักษาวิธีอื่นๆเกิดขึ้นมาอีกมากมาย เพื่อที่จะรักษาโรคติดเชื้อHIVนี้ให้หายขาด และตอนนี้วงการแพทย์ทั่วโลกต่างมองเห็นเเล้วว่าโรคติดเชื้อHIV จะเป็นโรคที่”สามารถรักษาให้หายขาด”ได้อย่างแน่นอน
4
เอาล่ะ นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของการติดเชื้อHIVที่ผมอยากจะเล่าให้ฟัง บทความ 2 ตอนนี้ เป็นการสรุปอย่างง่าย ตัดรายละเอียดยากๆบางส่วนไป เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายขึ้น
5
บทความนี้ผมแอบคิดว่ายาวไปหน่อย แต่ก็ไม่รู้จะย่อให้สั้นลงกว่านี้ยังไง555 ก็หวังว่าทุกๆคนจะได้มุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ
3
#Healthstory
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ^^
1
UpToDate(แหล่งรวมข้อมูลทางการแพทย์โดยเน้นหลักฐานที่ทันสมัย)
- Acute and early HIV infection: Pathogenesis and epidemiology
- Washingtonpost : A decade after the first person was cured of HIV, a second patient is in long-term remission
1
โฆษณา