17 มี.ค. 2019 เวลา 04:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
รู้จักกับ Alex Kipman ผู้ที่เชื่อว่า “คนที่มีเหตุผลชัดเจนในการดำรงชีวิต ย่อมสามารถฝ่าฟันทุกอุปสรรค”
คิปแมน เป็นใคร เรื่องราวของเขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้อย่างไร ตามไปดูกันค่ะ
อเมริกามักจะเป็นชาติที่ล้ำสมัยด้านเทคโนโลยี...แต่คนเก่ง ๆ หลายคนในนั้นกลับไม่ใช่ชนชาติอเมริกัน...อเล็กซ์ คิปแมน...ก็เป็นหนึ่งในนั้น
อเล็กซ์ คิปแมน เป็นชาวบราซิล เกิดในปี 1979 ปัจจุบันอายุ 40 ปี เขาเป็นบัณฑิตจากวิทยาลัยการคำนวณและวิทยาการสารสนเทศ ของสถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
คิปแมน หลงใหลในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก เค้าเชื่อว่า ...
“ถ้าคุณรู้วิธีวาดภาพด้วยคณิตศาสตร์ คุณจะสามารถสร้างสรรค์ทุกสิ่งขึ้นมาได้”
คิปแมนเคยเข้าฝึกงานกับองค์การนาซ่า และหลังจากนั้นเขาก็มีบทบาทในวงการนักพัฒนาเทคโนโลยีสุดซับซ้อนในซิลิคอนวัลเล่ย์...
เมื่อประมาณ 16 ปีที่แล้ว คิปแมน มาที่ไมโครซอฟต์โดยมีเป้าหมายว่า อยากหาที่ที่เขาจะสามารถเขียนโปรแกรมในสภาพแวดล้อมที่ยกให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นเหมือนงานศิลปะ
เขามีส่วนร่วมในการออกแบบ วินโดวส์ วิสต้า แต่เมื่อวินโดวส์วิสต้าไม่ประสบความสำเร็จ...เขาจึงผิดหวังเป็นอย่างมาก
เขาเดินทางกลับไปบราซิลด้วยความรู้สึกล้มเหลว และใช้เวลาในช่วงนั้นทบทวนตัวเองอีกครั้ง ด้วยความเชื่อในหลักปรัชญาที่ว่า...
“คนที่มีเหตุผลชัดเจนในการดำรงชีวิต
ย่อมสามารถฝ่าฟันทุกอุปสรรค”
เขาจึงพยายามหาเป้าหมายใหม่ในอาชีพอีกครั้ง
ด้วยความหลงใหลในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คิปแมนพยายามหามุมมองว่าเทคโนโลยีนี้ควรไปในแนวทางไหน พร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนักว่าเขาสามารถทำประโยชน์อะไรให้กับวงการคอมพิวเตอร์ได้บ้าง
ระหว่างนี้เขาเริ่มคิดว่าคอมพิวเตอร์จะติดตามเขาไปได้ทุกที่อย่างไร ทำไมเรายังต้องยึดติดอยู่กับแป้นพิมพ์และหน้าจอ คิปแมนกลับมาที่ไมโครซอฟต์ พร้อมกับเป้าหมายใหม่ในชีวิตว่า...
...เขาต้องการสร้างเครื่องมือที่ทำให้เขาใช้ชีวิตอยู่กับโลกของความจริงพร้อมกับการติดต่อกับผู้คนในโลกเสมือนได้ในเวลาเดียวกัน...
สิ่งแรกที่เขาและทีมงานช่วยกันคิดค้น คือการสร้างกล้องที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถติดตามการเคลื่อนไหว โดยการมองเห็นและเข้าใจการกระทำของมนุษย์ ซึ่งนวัตกรรมสุดล้ำของเขาในชื่อ Kinect กลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหุ่นยนต์
แต่นี่ยังเป็นเพียงแผนงานขั้นแรกของเขาเท่านั้น เป้าหมายหลักของเขาคือการผสมโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เขาต้องการให้ผู้คนที่อยู่ห่างไกลสัมผัส และพูดคุยกันได้ โดยไม่มีอะไรขวางกั้น
ความคิดของเขาฟังดูตลกและไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นจริงได้ จนเขาตั้งชื่อโครงการนี้ว่า “บาราบู” อันเป็นชื่อเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ละครสัตว์และตัวตลกตั้งอยู่
เขาพยายามหาเงินทุนสนับสนุนงานวิจัยนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจนัก จนเมื่อ สัตยา นาเดลลา ผู้นำคนปัจจุบันของไมโครซอฟต์ได้มีโอกาสสัมผัสกับเทคโนโลยีนี้
สัตยามองเห็นทันทีว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้มีศักยภาพสำหรับนำไปใช้ในห้องเรียน โรงพยาบาล โรงงาน และการสำรวจอวกาศ
เขาเปลี่ยนชื่อจาก “บาราบู” โครงการวิจัยตลก ๆ เป็นชื่อใหม่สุดหรูว่า “HoloLens”
สัตยา พยายามทำให้งานวิจัยสุดล้ำในเทคโนโลยี mixed reality กลายเป็นงานที่สร้างมูลค่าได้จริงในโลกธุรกิจ
และนาซ่าเป็นองค์กรแรกที่ให้ความสนใจ และทดลองนำอุปกรณ์รุ่นแรก ๆ ของ HoloLens ไปใช้เพื่อให้ทีมภาคพื้นดินสามารถทำงานร่วมกับนักบินอวกาศที่อยู่นอกโลก
หลายคนที่ได้เห็นเทคโนโลยีตัวนี้ ต่างเชื่อว่าอีกไม่นาน HoloLens เทคโนโลยี mixed reality นี้จะเข้ามาแทนที่แทปเล็ทและสมาทโฟนเลยทีเดียว
ซึ่งจะเป็นจริงแค่ไหนคงต้องรอดูกันไปอีกระยะหนึ่ง แต่ที่แน่ ๆ มันสร้างชื่อให้กับ อเล็กซ์ คิปแมน นักประดิษฐ์หนุ่มเชื้อสายบราซิลเป็นอย่างมาก
คิปแมนร่วมงานกับไมโครซอฟต์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 ปีในฐานะนักพัฒนาของบริษัท
นวัตกรรมจากการคิดค้นของเขามีมากกว่า 150 สิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาและเอเชีย รวมถึงอีกสองฉบับที่ได้รับสิทธิบัตรในยุโรป
ที่ผ่านมา คิปแมน ได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย เช่น
Popular Mechanics Breakthrough Award ในปี 2009
Microsoft Outstanding Technical Achievement Award ในปี 2012
รางวัลผู้ประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปีของ IPO Education Foundation ในปี 2012
นอกจากนี้เขายังได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งใน 25 “Nerds of the Year” ประจำปี 2010 จากนิตยสาร TIME ซึ่งเป็นฉายาที่เขาภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
และล่าสุดสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป (EPO) ได้เสนอชื่อ อเล็กซ์ คิปแมน เป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายสำหรับรางวัลนักประดิษฐ์แห่งยุโรปในปี 2018 อีกด้วย
คิปแมน เคยกล่าวไว้ว่า
“อันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเราส่วนใหญ่ ไม่ใช่ว่าเป้าหมายนั้นสูงเกินจนเราไปไม่ถึง แต่อยู่ที่มันต่ำเกินไปจนเราไม่ต้องเอื้อมต่างหาก”
“อย่าปล่อยให้ความกลัวรั้งคุณไว้ กลัวความล้มเหลว กลัวการถูกหัวเราะเยาะ กลัวความไม่รู้ ไม่มีใครไม่เคยล้มเหลว หรือไม่เคยถูกเย้ยหยัน”
“เป็นความรับผิดชอบของคุณในการค้นหาความหมายและแรงบันดาลใจในชีวิตของคุณ หากปราศจากความหมายแล้วชีวิตจะรู้สึกว่างเปล่า และเมื่อความว่างเปล่านั้นมาถึง อาจทำให้คุณรู้สึกหดหู่ซึมเศร้า”
เห็นไหมว่ากว่าเขาจะประสบความสำเร็จได้ เขาต้องผ่านความล้มเหลวซึ่งเป็นด่านทดสอบความแข็งแกร่งทางจิตใจมาแล้ว
เขาต้องมุ่งมั่นกับความฝันที่ใคร ๆ เห็นว่าเป็นเรื่องตลก และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ามันเป็นจริงได้ ด้วยจินตนาการและความรู้
เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกล้มเหลว ผิดหวัง ลองให้เวลากับตัวเอง ทบทวนความคิด หาเป้าหมายและแรงบันดาลใจใหม่อีกครั้งนะคะ ล้มได้ก็ลุกได้ ใช้ชีวิตให้ยืดหยุ่นค่ะ ✌✌✌
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HoloLens ได้ที่เพจ pordee จาก blockdit ตาม link นี้ได้นะคะ
References :
Hit Refresh by Satya Nadella
โฆษณา