ถอดสรุปจากท่านว. วชิรเมธี
สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้น...ดีเสมอ
โลกปัจจุบันมักสอนให้คนมองบวก
การมองบวกมี 2 แบบ คือ
การมองแบบคนโง่
และการมองแบบคนมีปัญญา
1) มองแบบคนโง่
คือ ไม่เป็นไรหรอก
มันมีปัญหากับทุกคนแหละ
แล้วไม่ยอมแก้ไขให้ดีขึ้น
นี่คือ สิ่งที่คนโง่มอง
2) มองแบบคนฉลาด หรือมีปัญญา
สมมติถ้ามีปัญหา เขาจะคิดว่า...
ปัญหาเกิดขึ้นมาเพื่อมอบปัญญาให้กับเรา
นี่คือ สิ่งที่คนฉลาดมอง
การมองแบบคนโง่ ไม่คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้น
เป็นการปลงโดยไม่มีปัญญามากำกับ
เป็นการปล่อยแทน ไม่ใช่ปลง!
ฉะนั้น การมองบวกมีอยู่ 2 ขั้นตอน
1)ยอมรับความจริง คือ ไม่หนีความจริง
ว่าได้เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว
2)รับมือกับความจริง ด้วยทัศนคติเชิงบวก
ในเมื่อมันหนีไม่พ้น
เช่น คุณป่วย คุณอย่ามาหลอกตัวเอง
ว่าฉันไม่ได้ป่วยสักหน่อย
คนมองบวก คือ ป่วยก็ป่วย เอาล่ะ ยอมรับ
แต่ทางแก้คือ ป่วยเป็นโอกาส
ตอนท่านอาจารย์พุทธทาสป่วย
วันหนึ่งหมอสั่งต่อเติม
ห้องป้องกันการติดเชื้อให้ท่าน
และสั่งนักสั่งหนา ว่าห้องนี้มันจะมีฝุ่นไม่ได้
สักพักหนึ่งมีหมอมาตรวจที่มุมห้องมีใยแมงมุม
หมอใหญ่โกรธมาก
“หลวงพ่อ! ใยแมงมุมมาอยู่ในห้องได้ไง
นี่มันห้องปลอดเชื้อนะ”
หลวงพ่อบอก
“หมอ แกด่าใคร อาตมาเนี่ยสั่งเอง”
“สั่งยังไง”หมอใหญ่ถาม
“ก็แมงมุมมันมาชักใยน่ะ อาตมาอยากรู้ว่ามันไม่ได้จบสถาปัตย์มันสร้างบ้านยังไง”
เห็นไหม นี่คือสุดยอดคนป่วย
เอาปัญญาแม้กระทั่งจากแมงมุม
🌿เวลาที่คนด่าเรา
ถือเป็นเครื่องวัดความดังของเรา
ถ้าไม่ดัง ไม่โดน
ใครจะมาเสียเวลากับคนกระจอก
🌿ไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
หมาที่ตายแล้ว ใครเขาจะเอาเท้าไปเขี่ย
แต่ถ้ามีคนเขี่ยคุณทุกวัน
แปลว่าคุณไม่ธรรมดา
🌿การที่เขามาด่าเรา การที่เขามาวิจารณ์เรา
เหมือนเขามาขีดเส้นตายให้เรา
ว่าเราเนี่ยสำคัญ
การที่เราทำอะไรก็ตาม
แล้วมีคนสนใจอยู่ตลอดเวลา
แปลว่าเราเป็นคนมีค่าของสังคม
🌿สนุกทุกงาน สำราญทุกคน
เวลาใครโยนงานยากๆให้เรา
ให้รับมา และทำไปเลย
ถ้ามันดี เราก็ต่อยอด
แต่ถ้ามันไม่ดี เราก็เก็บไว้เป็นบทเรียนไป
🌿อยู่กับคนต้องให้เกียรติคน
อยากให้เขารักต้องให้เกียรติเขาก่อน
และเคารพเขาก่อน
อย่ารอให้ใครมาเคารพเราก่อน
🌿เอาใจเขามาใส่ใจเรา
สิ่งไหนที่เราไม่ชอบ
อย่าไปทำสิ่งนั้นกับคนอื่น
🌿ให้มองทุกๆปัญหา เป็นความท้าทาย
ให้มองว่าผู้ใหญ่เอ็นดูเรา
จึงมอบหมายงานนี้ให้เรา
แทนที่จะเป็นคนอื่น
🌿ถ้ากลัวอะไร แล้วไม่สู้
จะต้องกลัวไปตลอดชีวิต
แต่ถ้ากลัว แล้วสู้ซะ
จากนั้นจะไม่มีอะไรให้กลัวอีกแล้ว
🌿ให้มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความท้าทาย
อย่าไปกลัว อย่าไปโทษเวร โทษกรรม
🌿เวลาทำงานทำด้วยความสนุกสนาน
อย่าทำไปบ่นไป
ให้คิดว่าเมื่อไหร่จะเช้านะ
อยากไปทำงาน
เหมือนสตีฟจ๊อบ
เขาตื่นตี 3 มารอพระอาทิตย์ขึ้น
เพราะอยากไปทำงาน
🌿คนที่เป็นนักจับผิด จิตไม่ดีทุกวัน
เห็นแต่เรื่องเน่าๆของคนอื่น
สุดท้ายตัวเองก็จะคายแต่สิ่งเน่าๆออกมา
กินขยะเข้าไป คายขยะออกมา
กินดอกไม้เข้าไป คายดอกไม้ออกมา
กินสิ่งใดเข้าไป ย่อมคายสิ่งนั้นออกมา
🌿คนพูดไม่ดี ข้างในก็ไม่ดีหรอก
อยากรู้ข้างในให้ชวนเขาพูด หรือฟังเขาพูด
อีกวิธีไปส่องเฟซเขาก็รู้
ดูคำพูดคำจาแต่ละอย่างที่เขาโพสต์ไว้
แค่นั้นก็รู้จนหมดไส้หมดพุงแล้ว
🌿คนที่คิดลบจะพูดลบ ทำลบ
พูดถึงแต่สิ่งไม่ดีของคนอื่น
คนพวกนี้เหมือนหนอนอยู่ในส้วม
คือกินของเน่า!
แต่กลับยังคิดว่ายังได้กินของดี
🌿ถ้าคุณจับผิดเขา
= คุณสะท้อนความเน่าของคุณออกมา
อย่าริษยา เหมือนการจุดไฟเผาตัวเองทุกคืนทุกวันไม่มีความสุข
คนอื่นเผาเรา เราพอรับได้
แต่เราเผาตัวเองนี่คือ โง่เลย
🌿ริษยา 1 คนเหมือนมะเร็งที่ลุกลาม
ริษยา 100 คน มะเร็งในร่างเรา
ยิ่งลุกลามเข้าไปใหญ่
จิตใจเรายิ่งต่ำลงๆ
เราจะทำสิ่งนั้นไปเพื่ออะไร
🌿อย่าเสียเวลากับความหลัง
ความหลังเหมือนสิ่งที่แบกอยู่
บนหลังเรา ดั่งเป้ใส่ของ
ชีวิตเหมือนการเดินขึ้นเขา
เราเดินขึ้นไป เพื่อทำคุณงามความดี
แต่มีเป้หนักๆบนหลังมัน
จะเดินสะดวกไหม?
🌿 อยากเดินไปที่สูงต้องทำตัวเบา
ปลดเป้ที่หลังออก จะได้เดินสบายๆ
อะไรที่จบไปแล้ว ให้มันจบ
อย่าไปดึงไว้ อย่าไปรั้งไว้
แค่ปล่อยก็ลอยตัวแล้ว
อย่าไปยึดติดกับความหลัง
อย่าให้อดีตมากรีดปัจจุบัน
อะไรที่จบแล้วให้มันจบไป
อย่าไปย้ำคิดย้ำทำ
🌿อย่าทำเพราะไม่รู้จักพอ
ทำอะไรให้รู้จักพอเหมาะพอดีกับตัวเอง
พอดี แล้วมันดี ถ้าไม่พอ ทำให้เกิดทุกข์
เหมือนเราเคยยกน้ำหนัก 100 ปอนด์
แล้วเราดันดัดจริตไปยก 150
หลังหักได้นะ
อะไรที่เกินพอดี ถ้าคุณไปยก คุณจะไม่ไหว
หลังมันจะหัก จิตใจมันจะหัก
🌿มีคนจำนวนมากที่ทำอะไรไม่พอเหมาะ
ไม่พอดี ไม่ดูกำลังตัวเอง
กินข้าวไม่ดูท้อวตัวเอง ก็ท้องอืด
ใช้จ่ายไม่ดูกระเป๋าตัวเอง ก็ทุกข์เพราะเงินทอง
ประดับประดาเนื้อตัวตัวเอง
ไม่ดูว่าควรจะแต่งแค่ไหน
รายได้ต่ำ แต่รสนิยมสูง
ทุกอย่างควรอยู่บนความพอเหมาะพอดี
🌿ตัวอย่างของความพอดี
คือ น้ำในลูกมะพร้าว
ลองเอามะพร้าวมาลูกหนึ่งและเฉาะออกมา
น้ำในลูกมะพร้าว ไม่พร่องและไม่ล้น
เคยเห็นไหม จู่ๆ มองต้นมะพร้าว
แล้วน้ำมันไหลลงมามีไหม?
น้ำมะพร้าวไม่เคยล้นจากกะลา
และไม่เคยพร่อง พอดีเสมอ
🌿สายบัวเหมือนกัน อยากรู้ความลึกของสระ
ให้ดึงสายบัวขึ้นมา น้ำแค่ไหนสายบัวแค่นั้น
ก้านบัวบอกลึกตื้นชลธาร
คือ ดึงบัวขึ้นมา มันก็เท่ากันพอดี
เรียบเรียงโดย : Neemmy BK
สามารถกดฟังคลิปเต็มได้ที่นี้ค่ะ
สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ ❤
ถ้าชอบบทความนี้
อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์
และกดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจให้นีม
กันด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ 🙏
👑บทความใหม่ล่าสุด👑
❤บริจาคกระดูกและเนื้อเยื่อ ร่างกาย อวัยวะ และดวงตา
❤เคล็ดลับของเหล่า CEO https://www.blockdit.com/articles/5cc094fe7693c321a87b2c50
❤คนประสบความสำเร็จ มักใช้กัน...วิธีดึงดูดคนที่ใช่! ให้เข้ามาในชีวิตคุณ
-Neemmy BK-
- 57
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
