6 พ.ค. 2019 เวลา 08:56 • ไลฟ์สไตล์
ราชยาน
"...ไม่มียานพาหนะใด
ที่จะนั่งด้วย
อาการเป็นคิงแท้ๆ
เท่าราชยาน เพราะ
หาความสุขสบายมิได้เลย
(พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
~~~~~~~~~~~~~
แม้ให้ยากแสนยาก เหนื่อยแสนเหนื่อยกว่านี้ ก็ต้องรับทำ เพื่อประโยชน์สุขของทวยราษฎร์
ทรงตรัสว่า ที่นั่งกว้างพอดีกับพระที่นั่ง (คือก้นของท่าน) ที่วางพระบาทมีเฉพาะเพียงพระบาททั้งคู่วางชิดๆ กันได้ไม่ตกแต่หมิ่นเต็มที บางทีต้องไขว้ และก็ต้องไขว้ซ้ายบนบ้าง ขวาบนบ้าง เรียงคู่บ้าง สลับกันไปเช่นนี้ตลอดทาง ไม่มีทางทำอย่างอื่นได้ เพราะบางคราวทรงนึกจะไขว่ห้างก็ไม่กล้าทำเพราะเกรงจะไม่เหมาะสม สองข้างบัลลังก์ยังเป็นกระจังทำด้วยทอง บางทีแกะด้วยไม้มีกนกแหลมๆ เต็มไปหมด วางพระกรเข้าก็เจ็บ ไม่วางก็ไม่รู้จะวางที่ไหน ต้องทนขยับเขยื้อนได้ยากเต็มที เพราะที่จำกัด และลอยอยู่ด้วยพลังของคน ถ้าขยับเขยื้อนรุนแรงข้างล่างก็เดือดร้อน ดีไม่ดีพลิกคว่ำลงเป็นเสร็จ ต้องเข้าโรงพยาบาลแน่
.
แล้วรับสั่งว่า บางทีเป็นเหน็บทั้งๆ ขา ต้องขยับให้หายชา แล้วทรงกระดิกพระดัชนีให้พระโลหิตเคลื่อน พอค่อยทุเลา นั่งพิงอย่างสบายก็ไม่ได้ เสียทรง ทำให้ไม่งาม ท่านว่าทูลกระหม่อม คือ หมายถึงสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ เคยสอนไว้ว่า นั่งราชยานต้องดัดทรงเป็นละคร คือ ดันกระเบนเหน็บให้ตัวตรง แล้วคิดดูซิ ประทับอยู่บนนั้นตั้งๆ ชั่วโมง ท่านรับสั่งแล้วทรงยิ้มว่า เวลาประชาชนเขาแสดงความเคารพ ทั้งๆ ปวดเมื่อยและเป็นเหน็บก็ต้องแข็งพระราชหฤทัย ทรงยิ้ม ทรงยกพระคฑาขึ้นรับเคารพ เพราะยิ้มของพระเจ้าแผ่นดิน คือ น้ำทิพย์ชโลมใจของประชาชน
.
ท่านว่าถ้าจ้างกันละก็ วันละ ๕๐ บาท (สมัยโน้น) ท่านก็ไม่เอา ต่อให้ร้อยก็ไม่รับประทาน แต่เป็นพระราชกรณียกิจแม้ให้ยากแสนยากเหนื่อยแสนเหนื่อยกว่านี้ก็ต้องรับทำ เพื่อประโยชน์สุขของทวยราษฎร์”
.
โดย​ จมื่นมานิตย์นเรศ (เฉลิม เศวตรนันท์) ในอนุสรณ์ "ศุกรหัศน์"
โฆษณา