16 ส.ค. 2019 เวลา 15:00 • ธุรกิจ
"วิกฤต" จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ? / โดย คลินิกการลงทุน
"วิกฤต" จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ?
ช่วงที่ผ่านมา มีเหตุการณ์หลายๆเรื่อง ที่เป็น "สัญญาณ" จุดเริ่มต้นของ "วิกฤตเศรษฐกิจ" ออกมามากมาย หลายฝ่ายต่างก็พากันเตรียมตัวรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้น
https://www.stuff.co.nz/business/103132114/how-to-prepare-your-finances-for-the-next-global-financial-crisis
แล้ว "สัญญาณ" ที่บ่งชี้ "วิกฤติ" ที่ได้เกิดขึ้แล้วมีอะไรบ้าง ไปดูกัน ...
.
1)สงครามการค้า
ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องสงครามการค้า ที่มีการตอบโต้กันไปมาระหว่างสหรัฐฯ และจีน ล่าสุดจีนก็เพิ่งจะประกาศตอบโต้สหรัฐฯ ไป ซึ่งสร้างความกังวลขึ้นมาอีกรอบ
https://www.forbes.com/sites/investor/2019/08/12/why-us-will-win-china-trade-war/
ความขัดแย้งของสองประเทศมหาอำนาจนี้ สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก และหลายฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่า สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ จะเป็นสาเหตุของการถดถอยทางเศรษฐกิจในรอบนี้
https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-08-15/another-bank-turns-gloomy-on-trade-war-battered-global-economy
จากผลสำรวจ CFO ของมหาวิทยาลัยทั่วโลก ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า มีโอกาสถึง 70% ที่จะเกิดวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ใน ไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจากสงครามการค้า
https://qz.com/1684207/mexico-canada-and-australia-are-winning-the-us-china-trade-war/
ทางด้านนักวิเคราะห์จาก Bank of America ได้เพิ่มโอกาสเกิดวิกฤติในปีหน้าขึ้นเป็น 33% จากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ค่าย Morgan Stanley เห็นว่า สงครามการค้า และความไม่แน่นอนทางการเมืองทั่วโลก จะทำให้เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
ส่วน Goldman Sachs มองว่า หากสงครามการค้ายืดเยื้อ วิกฤติเศรษฐกิจอาจเกิดขึ้นในปี 2020
https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-08-13/why-a-tariff-delay-won-t-fix-the-trade-war-problem-chart
เห็นได้ชัดเจนว่าหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าสาเหตุมาจาก "สงครามการค้า" งานนี้คงต้องติดตามท่าทีของทั้งสองผู้นำมหาอำนาจว่าจะทำยังไงต่อไป ...
.
fnlondon
2)Inverted Yield Curve
อันนี้หลายคนอาจงง ขออธิบายง่ายๆคือ โดยปกติพันธบัตรอายุยาวจะต้องมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าระยะสั้น
https://www.marketwatch.com/story/5-things-investors-need-to-know-about-an-inverted-yield-curve-2019-08-14
จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 1978 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะลงมาต่ำกว่าระยะสั้น เรียกว่า "Inverted Yield Curve" โดยเกิดภาวะแบบนี้ถึง 5 ครั้ง และมักจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยจริงหลังจากนั้น 22 เดือน (ประมาณ 1.5-2 ปี)
ล่าสุดความกลัวและความกังวลของนักลงทุนก็ได้สะท้อนลงไปในผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จนผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งทะลุ 2% ทำสถิติต่ำสุดในประวัติศาสตร์ไปเรียบร้อย
https://www.cnbc.com/2019/08/14/the-inverted-yield-curve-explained-and-what-it-means-for-your-money.html
แสดงให้เห็นว่า คนไม่กล้าถือพันธบัตรอายุยาว เพราะกลัวความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยนั่นเอง
โดยจากสถิติที่ผ่านมาก่อนจะเกิดวิกฤติ แล้วมีสัญญานจาก inverted yield curve ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง 22%
1
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1982 และ 1998 ก็เกิดภาวะ "Inverted Yield Curve" เช่นกัน แต่สุดท้ายก็ไม่เกิด "วิกฤติเศรษฐกิจ" แต่อย่างไร
.
https://m.economictimes.com/markets/stocks/news/countdown-to-recession-what-an-inverted-yield-curve-means/recession-shudders/slideshow/70686334.cms
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา "วิกฤต" มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้คนกำลัง "หลงระเริง" และ "ประมาท" โดยมันจะเกิดโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว และมักจะไม่มี "สัญญาณ" บ่งชี้ล่วงหน้า จะมีก็แต่คนส่วนน้อยที่ทราบว่าจะต้องเกิดวิกฤต
1
https://www.ft.com/content/687c0184-aaa6-11e8-94bd-cba20d67390c
มาในครั้งนี้ที่ "สัญญาณ" ของวิกฤตต่างๆ เริ่มชัดเจน ผู้คนต่างพากันเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตที่จะเกิดขึ้น เรียกได้ว่าตอนนี้คนจำนวนมากกำลัง "กลัว" และ "ไม่ประมาท" ซึ่งตรงข้ามกับช่วงก่อนจะเกิดวิกฤตในอดีตที่ผ่านมา ...
"วิกฤต" จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่? คงไม่มีใครตอบได้ แม้แต่นักวิเคราะห์ระดับโลกก็มีโอกาสผิดได้ เพราะไม่มีใครทราบอนาคตจริงๆ ทำได้มาสุดก็แค่ "ทำนาย" ว่าอาจจะเกิดหรือไม่เกิด?
https://www.telesurenglish.net/opinion/Argentina-and-the-Next-Global-Financial-Crisis-20190813-0030.html
ขอแนะนำว่า "อย่าตื่นตระหนก" มากเกินไป เพราะจะทำให้เราขาด "เหตุผล" และอาจทำอะไรที่ขาดสติ จนสร้างความเสียหายตามมาได้
สิ่งที่เราทำได้ ณ ตอนนี้ คือ "ตั้งสติ" และ "วางแผนเตรียมพร้อมรับมือ" กับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ ...
จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาหลังเกิดวิกฤติ ผู้ที่มีความรู้พร้อม และสามารถหา "โอกาส" ใน "วิกฤต" ได้ ก็มักจะเกิดเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ขึ้นมา
http://thoughtfulcampaigner.org/how-campaigners-can-help-ensure-crisis-equals-opportunity/
ส่วน "วิกฤต" จะเกิดหรือไม่? เวลาเท่านั้นจะเป็นตัวพิสูจน์ ...
สุดท้ายนี้ ขอฝากวาทะเด็ดของปู่ Warren Buffett นักลงทุน VI ระดับโลกที่ได้กล่าวไว้ว่า ...
Warren Buffett นักลงทุน VI ระดับโลก
"เรามีความเต็มใจที่จะกลัวเมื่อคนกำลังโลภ และเราจะโลภในขณะที่คนอื่นกลัว"
— Warren Buffett
ขอให้ทุกท่านปลอดภัย โชคดีและมีความสุขกับการลงทุนครับ 😁✌️
— คลินิกการลงทุน
Crisis ?
อ่าน "คลินิกการลงทุน" สนุกขึ้นในแอปฯ "Blockdit"
ดาวน์โหลดได้ที่: http://www.blockdit.com/app
ช่องทางติดตาม "คลินิกการลงทุน"
#คลินิกการลงทุน
โฆษณา