26 ส.ค. 2019 เวลา 15:58 • ความคิดเห็น
คะบะซะวะ ชิอง กับคำถามที่ชวนให้ผมคิดหาคำตอบให้กับตัวเองซ้ำอีกที
...
เมื่อวานนี้...ผมได้ลองรื้อชั้นหนังสือของตัวเอง เพื่อตามหาหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า 'เทคนิคอ่านให้ไม่ลืม ที่จิตแพทย์อยากบอกคุณ' ซึ่งน้องสาวของผมได้ซื้อมาอ่าน และผมก็เลือกที่จะมองข้ามหนังสือเล่มนี้ไปในตอนนั้น
...
เหตุผลที่ผมมองข้ามหนังสือเล่มนี้ไปในตอนนั้น ก็เพราะว่าช่วงเวลาดังกล่าวผมไม่มีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับการจำเนื้อหาในหนังสือเท่าไร แม้จะจำรายละเอียดไม่ได้หมด เเต่ก็จำได้ว่าหนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องอะไรบ้าง มีกรณีศึกษาหรือตัวอย่างผู้เขียนยกอะไรขึ้นมาอ้างอิงบ้าง หรือพูดง่ายๆ คือ ถ้ามีใครมาชวนคุยเนื้อหาภายในหนังสือเล่มดังกล่าว ผมคุยด้วยรู้เรื่องแน่นอน
...
จนเมื่อผมก้าวเข้าสู่วัยทำงาน...ผมก็เริ่มตกลงไปสู่กับดักที่มีชื่อว่า 'เหนื่อยและไม่มีเวลา' ทุกครั้งที่ผมเลิกงาน ฝ่าการจราจรที่ติดขัด พอกลับถึงบ้านก็คิดแต่เรื่องพักผ่อน และกลายเป็นว่าผมไปยัดข้อหาตัวหนักสมองให้แก่หนังสือ และเริ่มมองมันเป็นวายร้าย แล้วหันไปหากิจกรรมนันทนาการอื่นๆ แทน เช่น การฟังเพลง, ดูหนัง และเล่นเกม และผมผ่อนคลายไปกับการทำกิจกรรมเหล่านี้เป็นหลักแทน
...
แม้จะมีบ้างที่ผมหยิบนิยายหรือหนังสือขึ้นมาอ่าน แต่เมื่อเทียบกับช่วงชีวิตในรั้วมหาลัยฯ แล้ว ผมกลับใช้เวลาในการอ่านหนังสือที่นานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเซ็งที่สุดคือ เมื่อผมอ่านจบกลับแทบจะจำเนื้อหาภายในหนังสือเล่มนั้นไม่ได้เลยเนี่ยสิ
...
นี่เลยกลายเป็นเหตุผลที่ผมต้องรีบหาหนังสือเล่มนี้มาอ่าน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
...
และผมขอออกตัวก่อนว่า ผมยังอ่านเล่มนี้ไม่จบนะครับ เพียงแต่ช่วงต้นของหนังสือเล่มนี้ กลับชี้แนะอะไรหลายๆ อย่างให้แก่ผมอย่างมากมาย จนผมอยากแชร์ออกมาให้มุมมองของผมเอง
...
เริ่มต้นมา...คะบะซะวะ ชิอง จิตแพทย์ชาวญี่ปุ่น ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ก็ตั้งคำถามว่า "คุณเคยอ่านหนังสือจบแล้ว ต่อมาคุณก็ลืมว่าคุณได้อ่านอะไรมาแล้วบ้าง?" ผมก็ตอบคำถามนี้ในใจว่า "เคยสิและประจำด้วยช่วงนี้...ไม่งั้นผมไม่หยิบหนังสือคุณขึ้นมาอ่านหรอก"
...
คะบะซะวะ "คุณรู้สึกเสียดายไหม กับการเสียเวลาไป 1 ชั่วโมงกับการอ่านหนังสือ ที่สุดท้ายคุณก็ลืมมันไปเสียหมด หรือที่คุณหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เพียงเพื่อสนองความต้องการที่อยากพัฒนาตัวเองเพียงเท่านั้น"
...
ข้อความที่ปรากฏมานี้ มีเขียนอยู่ในหนังสือจริงๆ นะครับ...และผมก็รู้สึกว่ามันแทงใจดำผมเจ็บจี๊ดดีเหลือเกิน!!!
...
ต่อมาคุณคะบะซะวะ ก็ทิ้งคำถามให้เราชวนคิดกันครับ...ซึ่งคำถามนั้นมีใจความว่า "ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ คุณคิดว่าอะไรสำคัญที่สุด เงิน, เวลา, ข้อมูลและความรู้, ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น และสุขภาพ"
...
แน่นอนคำตอบของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว...อย่างผม ความคิดแรกที่แว่บเข้ามาในหัวหลังอ่านเสร็จคือ 'เงิน' ถ้าผมมีเงิน ผมก็จะมี 'เวลา' ในการทำอย่างอื่นมากขึ้น / ถ้าผมมีเงิน ผมสามารถซื้อหนังสือ หรือออกท่องโลกเพื่อหา 'ข้อมูลและความรู้' ได้ / ถ้าผมมีเงิน การมีโอกาสไปเที่ยว 'กับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว' มากยิ่งขึ้น และถ้าผมมีเงิน เรื่องการรักษาและดูแล 'สุขภาพ' คงง่ายและดีขึ้น
...
มาถึงจุดนี้...ก่อนไปฟังมุมมองของคุณคะบะซะวะต่อคำถามข้างต้น ผมอยากรู้จังเลยครับว่าเพื่อนๆ ชาว Blockdit คิดว่าอะไรสำคัญมากที่สุดสำหรับคุณกันเอ่ย?
...
ตอนนี้ผมขอข้ามมุมมองของคุณคะบะซะวะไปก่อน...ต่อมานี่สิจัดว่าเป็นการเปิดมุมมองให้กับตัวผม และผมคิดว่ามันมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ชาว Blockdit ด้วยเช่นกัน เมื่อคุณคะบะซะวะได้แชร์เรื่องการอ่านหนังสือกับการเขียนบล๊อกครับ
...
คุณคะบะซะวะบอกว่าตัวเขานั้น อ่านหนังสือเฉลี่ยเดือนละ 30 เล่ม เขียนหนังสือปีละ 3 เล่ม และโพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊คและลงคลิปวิดีโอใหม่ในยูทูปทุกวัน...อ่านมาถึงตรงนี้ผมได้แต่คิดในใจว่า 'ท่านจะยอดมนุษย์เกินไปไหมเนี่ย?'
...
คุณคะบะซะวะบอกว่าสิ่งที่ทำให้เขาสามารถเขียนข้อความลงสื่อโซเชียลได้ทุกวันนี้ ก็เพราะเกิดจากการที่เขารักการอ่านนี้แหละครับ...การจะเป็นนักเขียน สิ่งที่พวกเราต้องมีเลยคือ 'ข้อมูล' และ 'ความรู้' โดยคุณคะบะซะวะได้นิยาม 2 คำนี้ไว้ดังนี้ครับ
...
'ข้อมูล' คือ ข้อเท็จจริง ผลลัพธ์ และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะล้าสมัยเมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เช่น ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และข่าวที่ปรากฏในโลกโซเชียล
'ความรู้' คือ สาระสำคัญที่ได้รับการกลั่นกรองมาแล้ว จากข้อเท็จจริง ผลลัพธ์ และปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น มันจะไม่ล้าสมัยแม้จะผ่านไปนานกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม เช่น หนังสือ
...
ข้อมูลและความรู้จึงจัดเป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับเหล่านักเขียนมากๆ ซึ่งคุณคะบะซะวะได้ยกคำพูดจากหนังสือ Ow Writing ของ สตีเฟ่น คิง นักเขียนนิยายชื่อหนังชาวอเมริกา ที่ได้เปิดเผยเทคนิคการเป็นนักเขียนของเขา และเทคนิคที่เป็นหัวใจสำคัญเลยก็คือ 'อ่านให้มากและเขียนให้มาก และมันไม่มีทางลัด' (ซึ่งหนังสือคู่มือนักเขียน ของคุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักวิจารณ์งานวรรณกรรม และยังเป็นผู้เขียนบทแอนิเมชันอย่างก้านกล้วย และก้านกล้วย 2 ก็ให้คำแนะนำที่หนักแน่นแก่นักเขียนหน้าใหม่ทุกคนว่า ควรอ่านให้เยอะและเขียนให้แยะเช่นกันครับ)
...
ซึ่งคุณคะบะซะวะ บอกว่าเขาได้นำเคล็ดลับอ่านให้มากและเขียนให้มากนี้ มาใช้เพื่อพัฒนางานเขียนของตัวเองตลอดมาครับ
...
ย้อนกลับไปคำถามที่ว่า"ในบรรดาสิ่งเหล่านี้ คุณคิดว่าอะไรสำคัญที่สุด เงิน, เวลา, ข้อมูลและความรู้, ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น และสุขภาพ"
...
คุณคะบะซะวะให้คำตอบในมุมมองของเขาว่า 'เวลา' คือสิ่งสำคัญที่สุด ลำพังแค่คุณบอกว่า "ไม่มีเวลา" คุณก็ไม่มีทางทำตัวเลือกที่เหลือได้อีกแล้ว
- "ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ" คุณก็ไม่มีข้อมูลและความรู้ในการเขียนบล๊อก
- "ไม่มีเวลาไปหาเพื่อน หรือไม่มีเวลาให้ครอบครัว" คุณจะได้ความสัมพันธ์ที่ดีจากพวกเขาได้อย่างไร
- "ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่มีเวลานอน" คุณไม่มีทางได้สุขภาพที่ดีกลับมาได้แน่นอน
- "ไม่มีเวลาทำงาน" คุณก็จะไม่มีเงิน
...
สิ่งที่ผมได้จากช่วงต้นของหนังสือเล่มนี้คือ 'การบริหารเวลาที่ดี' จากคุณคะบะซะวะ เพราะถ้าเขาบริหารเวลาได้ไม่ดี เขาคงอ่านหนังสือเฉลี่ยเดือนละ 30 เล่ม จนมีวัตถุดิบมากมายมาเขียนหนังสือปีละ 3 เล่ม โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊คและลงคลิปวิดีโอใหม่ในยูทูปทุกวัน และกลายเป็นนักเขียนที่ดีแบบนี้ไม่ได้แน่นอน
...
มันทำให้ผมกลับมาคิดได้ว่า "ที่ผ่านมาผมบริหารเวลาได้ไม่ดีเอาเสียเลย เพราะมักอ้างแต่ว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือ" ซึ่งทำให้ผมไม่มีวัตถุดิบเอามาใช้ในเขียนบล๊อก (แถมพออ่านแล้ว ดันมาลืมอีกต่างหาก T^T)
...
ในช่วงแรกนี้ผมคงต้องหันมาบริหารจัดการเวลาของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น...และจะอ่านให้มากและเขียนให้มาก เพื่อเส้นทางการเป็นนักเขียนที่ฝันเอาไว้ (ต้องปลุกความเป็นหนอนหนังสือในช่วงมหาลัยฯ กลับมาให้ได้)
...
ขอให้ข้อมูลและความรู้จงสถิตอยู่กับท่าน และขอเป็นกำลังใจให้นักเขียนชาว Blockdit ทุกท่านครับผม
โฆษณา