5 พ.ย. 2019 เวลา 05:03 • สุขภาพ
ตำราฝังเข็มฉบับสมบูรณ์ (針灸學) ภาคทฤษฎี
บทที่ 5
ชี่ โลหิต จิน เยี่ย
หมวดชี่ (氣)
ชี่ (氣) เลือด (血) จิน (津) เยี่ย (液) นับว่าเป็นสารพื้นฐานที่มีความจำเป็นของร่างกาย ซึ่งก็คือสารที่ช่วยผลักดันให้อวัยวะภายในของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกตินั่นเอง
ชี่ (氣)
คำว่าชี่ (氣) คำนี้ ความจริงจะให้แปลว่าลมแบบตรง ๆ อย่างเดียวก็ยังไม่นับว่าเหมาะสมเท่าไหร่นัก เพราะคำว่าชี่ในภาษาจีนจะมีความหมายอยู่หลากหลาย เป็นต้นว่า ลม อากาศ ความโกรธ พลัง ลมปราณ กลุ่มความหมายนี้ยังนับว่าอยู่ในหมวดความหมายที่ยังมีความใกล้เคียงกัน แต่ทั้งนี้ก็ยังมีความหมายว่าบรรยากาศ ชั้นเทวโลก ทวิภาวะ ซึ่งความหมายในหมวดนี้นับว่ามีความแตกต่างกันไปอีกทางหนึ่งเลยทีเดียว แต่ในบางครั้งก็ยังมีการใช้ที่เกี่ยวโยงกัน เช่น “คุณจะต้องลดความโกรธลง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องหลงวนอยู่ในทวิภาวะ”
ในที่นี้ ทั้งความโกรธและทวิภาวะจะเป็นคำเดียวกัน นั่นก็คือคำว่า “ชี่” นั่นเอง ดังนั้นในยามที่ต้องแปลศัพท์คำว่า “ชี่” บางทีจะต้องดูบริบทโดยรวมว่ากำลังหมายถึงอะไรอยู่
เหตุที่กล่าวว่า ลม อากาศ ความโกรธ พลัง และลมปราณเป็นความหมายที่อยู่ในหมวดเดียวกันนั้น เพราะมวลที่ลอยอยู่รอบตัวเรา เราเรียกว่าอากาศ เมื่ออากาศเกิดการเคลื่อนไหว อันเป็นผลที่เกิดจากการถ่ายเทความร้อนไปมาเราเรียกว่าลม ลมที่เราสูดเข้าไปในปอดเราจะเรียกว่าลมปราณ ส่วนลมปราณที่ผสานเข้ากับโลหิตเราเรียกว่าเลือดลม และเลือดลมที่มีองค์ประกอบของออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ เมื่อได้เข้าสู่ระดับเซลล์ก็จะทำให้เซลล์เกิดเป็นพลังงาน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอากาศก็ดี ลมก็ดี ลมปราณก็ดี เลือดลมก็ดี หรือพลังงานก็ดี ทั้งหมดนี้จะใช้ศัพท์คำว่า “ชี่” เหมือนกันทั้งหมด
ส่วนพลังของร่างกายเกิดจากลมหรือชี่ได้อย่างไร ความจริงเราคงจะเคยสังเกตเห็นว่า เมื่อเราต้องการยกของหนัก เราจะต้องทำการสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จนเต็มปอด จากนั้นจะกลั้นลมแล้วระเบิดพลังของกล้ามเนื้อออกมาโดยฉับพลัน ความจริงในจุดนี้ก็มีความคล้ายคลึงกับกลไกการทำงานของเครื่องยนต์อยู่ไม่น้อย เพราะลมที่เข้าไปรวมตัวกับละอองน้ำมันในเครื่องยนต์จะทำให้เกิดการเผาไหม้จนกลายเป็นพลังการระเบิด พลังการระเบิดของละอองน้ำมันที่ผสมกับลมจะทำการขับเคลื่อนฟันเฟืองต่าง ๆ จนทำให้รถยนต์สามารถวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
อนึ่ง ในยามที่เราโกรธ ความจริงก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับลมหรือชี่อยู่เช่นกัน โดยแท้จริงนั้น อารมณ์โกรธเป็นเพียงกลไกของอารมณ์ที่ช่วยผลักดันให้ร่างกายเกิดการทำงานโดยฉับพลัน โดยสัญชาตญาณดิบของสัตว์นั้น ความโกรธเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายที่ต้องการป้องกันอันตรายจากสิ่งรุกรานที่อาจจะเป็นภัยจนถึงแก่ชีวิต เพียงแต่มนุษย์อาจจะเป็นสัตว์ที่ใช้กลไกนี้พร่ำเพรื่อมากเกินไป จนสุดท้าย แม้เพียงคำพูดธรรมดาก็ถูกเข้าใจว่าเป็นภยันตรายกับร่างกายแล้ว
ในยามที่ร่างกายประสบกับภยันตราย ทุกส่วนของร่างกายจำเป็นต้องตื่นตัวอย่างสุดขีด ในเวลานี้หัวใจจะต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดโลหิตไปตามองคาพยพเพื่อปกป้องร่างกายอย่างสุดชีวิต ในยามนั้นปอดจะหายใจเร็วขึ้น ตับจะปล่อยโลหิตที่เก็บไว้ออกมาให้มากที่สุด ในท่ามกลางกลไกการทำงานของร่างกายเหล่านี้ มนุษย์จึงมีความจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนหรือลมในการระเบิดพลังงานของร่างกายออกมา ดังนั้นในเวลานี้ เพื่อที่จะให้มีลมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากกว่าปกติ ปอดจะทำการสูดลมหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นเวลาคนโกรธ เราจะเห็นเขามีการหายใจที่ถี่และเร็วมากกว่าปกติ ด้วยเพราะเหตุนี้ คำว่าโกรธในภาษาจีนจะอ่านว่า เซิงชี่ (生氣) หากแปลตรงตัวแล้วจะมีความหมายว่า เกิดลม เกิดพลัง ซึ่งก็พอจะเห็นได้ว่า คำว่าโกรธจะมีบริบทที่มาจากกลุ่มความหมายพวก ลม พลัง ลมปราณและอากาศทั้งสิ้น โดยในภาษาจีนจะใช้อักษรเพียงคำเดียว นั่นก็คือคำว่า “ชี่” นั่นเอง
โฆษณา