11 พ.ย. 2019 เวลา 11:47 • สุขภาพ
วันแดงเดือดของหมีฟูกับพยาธิเม็ดเลือด ตอนแรก
วันแดงเดือดของหมีฟูกับพยาธิเม็ดเลือด ตอนแรก
เสาร์ 9 พ.ย. 6 โมงกว่า หมีฟู พยุงตัวเดินอย่างเพลีย ๆ มานอนข้างบันไดหน้าบ้านที่ประจำ
“เจ็บจมูกจัง เป็นคู่ซ้อมกับแบ๊ว กับพี่ถุง ทีไร ฟูเจ็บตัวทุกที .. แต่ทำไมคราวนี้ เจ็บจมูกนานกว่าเดิมนะ แล้วก็มีน้ำมูกสีแดงไหลออกมาไม่หยุดเลย งงจัง ..เนี่ย ที่กองตรงพื้นข้างบ่อน้ำสองกองก็แห้งติดพื้นไปพักใหญ่แล้ว”
“ฟูอุตส่าห์ย้ายโลเคชั่นใหม่ มานอนข้างบันไดที่ประจำ ทำไมยังไม่หยุดไหลอีกนะ..”
“อ้าว..ตาตะโกนอะไรโวยวาย.. ‘ยาย ๆ มาดู ฟูเลือดไหลจมูก ๆ’ แล้วใคร ๆ ก็มารุมมาตุ้มเราใหญ่เลย”
“ย้ายที่หนีดีกว่า .. เห้อ.. น้ำมูกแดง ๆ นี่ก็ยังไม่หยุดซะที ฟูแน่นจมูกแล้วนะ..หายใจไม่ออก ข้างซ้ายตันแล้วเนี่ย.. ฟื้ด ..ฟื้ด.. อ๊ะ ขี้มูกออกมา เป็นลิ่ม ๆ สีแดง.. เราเป็นอะไรเนี่ย ซ้อมมวยกับพี่ ๆ หนักไปแค่นี้ ถึงกับเป็นน้ำมูกแดงออกเป็นลิ่ม ๆ เลยเหรอ....”
“ขอหนีมาหลังบ้าน อยู่เงียบ ๆ คน (ตัว) เดียวก็ไม่ได้ ต้องพากันแห่มาดูฟูอีก ชักจะรำคาญแล้วนะ
ฟูคิดว่าฟูป่วยนะยาย ขอนอนหลังบ้านเงียบ ๆ เดี๋ยวก็คงหาย .. อย่าให้พี่ๆ น้อง ๆ อีก 6 ตัวมากวนก็พอ”
“เอ้านอนหลังบ้าน ก็ยังไม่ได้ ทำไมทุกคนดูวุ่นวายจัง”
“เอ..วันนี้คงพิเศษ มีน้ำมูกสีแดง นี่เท่ากับบัตรโชคดีสินะ ได้คนอุ้มเข้าบ้านด้วยล่ะ แบ๊วคงอิจฉาฟูน่าดู หึ ๆ .. แต่ฟูขอหนี ไปนอนใต้เตียงพี่นกแล้วกันนะ..
ฟูขอหนี ไปนอนใต้เตียงพี่นกแล้วกันนะ..
สุดท้ายไม่รอด โดนอุ้มออกมาอีก.. เห้อ ตอแยซะจริง ๆ คนเนี่ย”
“โอ้ย..เย็นนนน..นน น้ำแข็ง พี่นกเอามาวางบนจมูก ..เย็นไปหมดแล้วเนี่ย”
“โอ้ย..เย็นนนน..นน น้ำแข็ง พี่นกเอามาวางบนจมูก ..เย็นไปหมดแล้วเนี่ย”
“ได้ยินแต่พูดซ้ำ ๆ ว่า ‘เลือดจะได้หยุด’ แต่ฟูรำคาญ ใครว่าเลือดอะไร ฟูว่าน้ำมูกสีแดงนี่มันเป็นตัวปัญหามากกว่า ทำให้ฟูหายใจไม่ออก แถมเข้าปากฟูเนี่ย รสชาติมันทะแม่ง ๆ นะ”
(น้องยังไม่เข้าใจสินะ ว่ามันคือเลือด!!!)
“เห้อ..พี่นก เปลี่ยนน้ำแข็งหลายรอบแล้ว แถมฟูเพ้นส์สีจุด ๆ สีแดง กระจายทั่วไปหมด น้ำแดง ๆ ก็ยังไม่หยุดไหลออกจมูกเลย และฟูเริ่มเพลียแล้วด้วยนะ...” (ตาปรือ)
“จะยังไงก็ได้ ช่วยฟูด้วยแล้วกัน ให้หายเจ็บจมูก กับให้น้ำแดง ๆ นี่หยุดออกเสียที เป็นก้อน ๆ แบบนี้ 'ฟูไม่โอเค' !!!”
หันไปข้าง ๆ แบ๊ว บิวตี้ ไวท์ มุด มายืนมองหน้าประตูกันเป็นแถว
แบ๊ว บิวตี้ ไวท์ มุด มายืนมองหน้าประตูกันเป็นแถว
“ทำไมทุกคน (ตัว) ต้องทำท่าตระหนกอย่างนั้นล่ะ นี่ฟูเป็นอะไรมากใช่ไหมเนี่ย”
“อย่านะ..ใจเสียแล้ว.. ใจสั่น เต้นแรง เหนื่อยแล้วด้วย”
พี่นกยกขาขึ้นมาดู ..บอกว่า จุด ๆ จ้ำ ๆ ม่วง ๆ ขึ้นแถวพุงเต็มเลย แสดงว่าเลือดตกใน ออกมาจากหลอดเลือดสินะ ..เหมือนคนเป็นไข้เลือดออก ..เขาว่าอย่างนั้น
จุด ๆ จ้ำ ๆ ม่วง ๆ ขึ้นแถวพุงเต็มเลย แสดงว่าเลือดตกใน ออกมาจากหลอดเลือดสินะ ..เหมือนคนเป็นไข้เลือดออก
“หึ้ย ย ย .. ถ้าขนาดนั้น ฟูจะเป็นลม..ฟูขอหมอหมา ละกันพี่นก..”
แล้วทุกคนก็พาฟูมาถึงคลินิคหมอ..
“ที่นี่ ฟูจำได้ ล่าสุดที่มาหลายเดือนแล้ว ตอนนั้นตัวหนักแค่ 12 โล หมอว่าเป็นลำไส้อักเสบกันทั้งครอก 8 ตัว”
(จริง ๆ มีเก้า แต่พี่หลังอานมีเพื่อนคุณพ่อมารับเลี้ยง)
หมอบอกเกือบไส้เน่า มีพยาธิไส้เดือนด้วย หมอว่ามีเปอร์เซ็นต์สูงที่มาจากการดูดนมแม่ที่มีพยาธินี้อยู่
(นี่ถ้าคุณแม่กับพี่นกไม่ไปเอามาจากพงหญ้า อาจตายกันหมดครอกไปเป็นปีแล้วสินะ)
“แต่รอบนี้ ฟูไม่เหมือนเดิมนะหมอ ..คราวนี้ฟูกินได้ปกติ แค่มีน้ำมูกสีแดง กับเจ็บจมูก ..แล้วก็เพลียหน่อย ๆ”
พี่นกเดาว่าเลือดที่ออกพอ ๆ ๆ กับ นมตราหมีกระป๋องโลหะสักครึ่งกระป๋องได้
วันนี้ชั่งน้ำหนักหลังชก (กับพี่ถุงและแบ๊ว) ได้ 17.0 กก. นับว่าฟูอ้วนท้วนสมบูรณ์สุดในพี่น้อง 7 ตัว รวมทั้งน้าเรือง (รุ่นน้าของฟูที่เป็นขี้เรื้อนไม่มีที่ไป)
(พี่รถถังตายไปเมษาที่ผ่านมา หมอตรวจเจอสาเหตุทีหลังว่าเป็นไตวายรุนแรง อยู่ดี ๆ ก็ตาเหลือง 2-3 วัน ไม่กินอาหาร หลังจากนั้น เส้นประสาทเกร็ง ยืนเดินไม่ได้ และเสียชีวิตในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา)
(หมีฟูคิดต่อ)
“ฟูแข็งแรงนะฮะหมอ แค่เจ็บจมูกกับมีน้ำมูกสีแดงไหล หมอช่วยให้น้ำแดง ๆ หยุดไหลหน่อย แค่นั้นเอง ..ฟูอยากกลับบ้านแล้ว ไม่ชอบอยู่คลินิค”
“พี่ป๋อง (จนท.ที่คุ้นเคย) จิ้มเข็มเอาเลือดฟูไปแล้วสองหลอด ฟูยังพอทำใจ”
“แต่ ..นี่หมอจะจิ้มเข็มอะไรอีก!!”
..แง่ม ม ม (หันขวับ) ..หมอชักมือกลับ ใจหายเลย .. เอาผ้ามาปิดตาหน่อย ๆ ..ได้ยินเสียงปลอบ ..
รูปนี้ถ่ายที่บ้านตั้งแต่เช้าเสาร์ ก่อนที่จะเลือดไหลออกมาอีกเยอะค่ะ
“ฟูค่อยสบายใจ..ไม่เห็นเข็ม ..กัดไม่ถูก เดี๋ยวโดนยายกับพี่นก.. เอ๊า ถือว่ายอมให้หมอสักครั้ง จิ้มเข็มเดียวนะฮะ..”
สักพักสายอะไรโยงยางที่ขาหน้าน้อง ..อ๋อ น้ำเกลือ น้องเสียเลือดมาก เดี๋ยวไตวาย
หมอบอกว่า เบื้องต้นเจาะเลือดไปเพื่อตรวจหาเชื้อ รอผลจะรู้ตอนห้าโมง
นอกจากประคบน้ำแข็งที่ทำมาตลอด 2 ชั่วโมง (ตั้งแต่ 7-9 น. และยาวต่อจนถึง บ่าย 2) แล้ว หมอก็ให้ยาฉีดหยุดเลือด transamin ij กับยาฆ่าเชื้อ Oxytetracycline ด้วย
สักพักหมอเอา ยา ephredine drop ใส่ไซริ้งค์มาฉีดใส่จมูกซ้ายฟู ให้เส้นเลือดหดตัว..
“ฟูอยากให้น้ำมูกแดง ๆ นี่มันหยุดเร็ว ๆ จังหมอ..”
เหลือบดูนาฬิกา นี่จะ 11.30 น. แล้ว ทำไมเลือดยังไหลขนาดนี้ หมดแพมเพิร์สหมอไปหลายผืนแล้ว
หมีฟูได้ยินเสียงหมา ๆ แมว ๆ มาคลินิคอีกเพียบ สงสัยว่าใครกันที่พกนางกวัก เรียกลูกค้าให้หมอ
แต่หมอก็ยังใจดี บอกเคสอื่น ๆ ว่า มีเคสฉุกเฉินเลือดไหลไม่ยอมหยุด รอสักครู่นะครับ ..
“ไหนฮะไหน ใครฉุกเฉินกัน”
(แหมน้อง ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเอง)
“ไหนฮะไหน ใครฉุกเฉินกัน” (แหมน้อง ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเอง)
ฟูเห็นแต่ยายกับพี่นก ตอนแรกดูยิ้ม ๆ แบบใจดีสู้เสือ ตอนนี้หน้าเริ่มเจื่อน ๆ เหนื่อย ๆ ประคบน้ำแข็ง ให้กินน้ำที่แช่ในถ้วยน้ำแข็งก้อนใหญ่ ก็ยังไม่หยุด ไหลอยู่อย่างนั้น
ระหว่างนอนหมอบบนเตียงสี่เหลี่ยมแข็ง ๆ ของหมอ ยังเห็นเห็บหมัดจิ๋ว ๆ เดินออกมาทุกทิศทางเลย
ขนาดอาทิตย์ที่แล้ว ใส่เข็มขัดไล่เห็บหมัดแล้วนะ.. ทำไมน้องเห็บหมัดจิ๋ว ๆ มากมาย ถึงยังมาอยู่กับฟูอ่ะ ..
แถมอาทิตย์ก่อน ๆ นั้น ก็กินยากำจัดเห็บหมัดแล้วด้วย..
แว่ว ๆ หมอบอกว่า ถึงกำจัดเห็บหมัดแล้ว แต่ถ้าถูกกัดก็ได้รับพยาธิเม็ดเลือดจากน้อง ๆ ที่เป็นพาหะมีเชื้อพยาธิเม็ดเลือดได้อีก..
12 น. กว่า ๆ
เวลาผ่านไป เลยเที่ยงแล้ว คนประคบน้ำแข็ง ยืนจนจะเป็นเส้นเลือดขอด ยายกับพี่นกก็คอยสลับเป็นพยาบาลจำเป็น ป้อนน้ำเย็นเจี๊ยบ ๆ ซับกำเดาแดง ๆ และลิ่มเลือดที่เต็มจมูกเต็มปาก ออกให้ ..
 
ฟูค่อยสบายใจ.. อย่างน้อยก็มีคนที่ฟูว่า ไว้ใจได้ อยู่ใกล้ ๆ ตาก็ยังนั่งคอยในรถ ไม่มีใครทิ้งฟู...
หมอเดินเข้ามาดูหลายรอบ คราวนี้ หมอให้ยาทางจมูกตัวเดิมเพิ่มอีก เพื่อให้หลอดเลือดหดมากขึ้น บอกเบา ๆ ไม่รู้จะให้ยาอะไรแล้ว ให้หมดแล้ว หมีฟู รูปหล่อของหมอ.....
“หมอชมว่ารูปหล่อ ฟูโอเค เลิฟ ๆ แต่อย่าพูดว่าไม่มียาจะให้แล้วสิฮะ ..ฟูใจเสียหมด...”
ประคบน้ำแข็งกันต่อไป ควบคู่กับให้น้ำเกลือ
ฟูเห็นหมอเดินเอาตำรามาโชว์ ให้ยายกับพี่นกดู
สรุปย่อ ๆ ว่า เห็บทำให้เป็นพยาธิเม็ดเลือด มีตั้งสามแบบ
แบบที่เจอบ่อย ๆ คือ Ehrlichia canis
(หมอเรียกสั้น ๆ ว่าเชื้อเออร์ลิเชีย ส่วนคำว่า canis หมายถึง สปีชีส์ที่ทำให้ติดเชื้อในสุนัข) หรือจำง่าย ๆ สุด ๆ ว่า เชื้อ “E” ทำลายเม็ดเลือดขาว ทำให้เลือดไหลจมูก และที่มีจ้ำตามตัวก็มาจากเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้เลือดออกมาก ไม่หยุดง่าย ๆ อย่างที่ฟูเป็น สังเกตใต้พุงน้อง เป็นจ้ำ ๆ ม่วง ๆ เหมือนคนเป็นโรคไข้เลือดออกนั่นแหล่ะ ..
หมอเลยให้ยาฉีด Oxytetracycline ตั้งแต่ต้น เพื่อไปจัดการเชื้อนี้ พร้อม ๆ กับ ยาฉีดห้ามเลือด Transmin
ส่วนเชื้อที่สอง ขึ้นต้นตัว “B” บาบิเซีย (Babesia) ตัวนี้ หมอก็ว่าร้าย มันไปทำลายเม็ดเลือดแดง ทำให้มีอาการดีซ่าน ตาเหลือง ตับอักเสบ มีโอกาสเจอน้อยกว่า แต่ถ้าเป็นก็รุนแรง และต้องให้ยาคนละตัว ซึ่งก็ว่าน่าจะแพงขึ้นอีก
และเชื้อที่สาม หน้าตาเหมือนแคปซูลซ่อนตัวอยู่ในเม็ดเลือดขาว ชื่อจำง่าย ๆ คล้าย ๆ คำว่าแคปซูล คือ เฮปปาโตซูน (Hepatozoon) เป็นอีกเชื้อที่น่ากลัว
สรุปว่าฟูเป็นเชื้อไหนฮะหมอ.. ฟูเงยหน้ามอง..
ต้องรอผลตรวจห้าโมงนะ
ระหว่างนี้ หมอให้น้ำเกลือขวดที่สองไปก่อน ….
งั้นฟูให้ตา ยาย พี่นก ไปกินข้าวก่อน แล้วฟูนอนรอที่ คลินิคหมอนะฮะ..
ข้าวเช้าพวกเราก็ประมาณบ่ายครึ่ง ก่อนจะซื้อไข่เจียวหมูสับไปฝากฟู และยังมีแซนวิส กลับไปฝากเจ้าหน้าที่ ที่คลินิค
บ่าย 2 โมงกว่า
ฟูเลือดหยุดไหลแล้วรึยัง?? ลูกค้ารายอื่น เค้ากลับกันหมดแล้วนา...
รออ่านต่อตอนจบสักครู่นะคะ
#สโนไวท์กับพี่น้องทั้ง7
นกไดโนสคูล🐦
โฆษณา