จากเหตุการณ์ที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง นักเตะของทีมเเมนเชสเตอร์ ชิตี้ ได้พยายามเข้าไปชวนทะเลาะกับ โจ โกเมซ นักเตะของทีมลิเวอร์พูลในเเคมป์ทีมชาติอังกฤษ ด้วยการพยายามที่จะบีบคอเเละพูดจายั่วยุใส่โกเมซว่า "นายคิดว่าตัวเองเเน่หรอ"
เเต่ โกเมซ เข้าใจดีว่าตอนนี้ “ในใจของ สเตอร์ลิ่ง นั้นเต็มไปด้วยความทุกข์” เนื่องจากทีมของเขาเพิ่งจะเเพ้ให้กับทีมของ โกเมซ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จึงอยากทำให้คนรอบข้างของเขา (โกเมซ) ทุกข์ไปด้วยเท่านั้นเอง
ถึงเเม้ว่าเกมส์วันนั้นจะจบลงไปเเล้ว เเต่อารมณ์ขุ่นมัวของ สเตอร์ลิ่ง ก็ยังไม่จางหาย
เเล้วทำไม โกเมซ จะต้องเอาความสุขจากชัยชนะของตัวเองไปทิ้งเพียงเพราะ สเตอร์ลิ่ง คนเดียว
เมื่อ โกเมซ เข้าใจเรื่องนี้ดี เขาจึงไม่ได้คล้อยตามแต่อย่างใด เเละเลือกที่จะถอยออกจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ถ้ามาลองคิดกันดูดีๆ เรื่องเเบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะกับนักกีฬา หรือ คนดัง เท่านั้น
ในชีวิตของเราก็เกิดเหตุการณ์เเบบนี้อยู่เสมอเช่นกัน
หลายครั้งที่มีคนพยายามมาชวนทะเลาะ หรือ พูดจายั่วยุใส่ ซึ่งหลายคนก็มักจะตอบโต้กลับไป
ซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ มันก็คือ การตอบโต้กลับไปนั่นเเหละ เเละเมื่อไหร่ที่เราตอบโต้กลับไป มันก็เท่ากับว่าเขาทำสำเร็จเเล้ว
เเต่ถ้าเราไม่ตอบโต้อะไร สิ่งที่เขาต้องการก็จะไม่ได้รับการตอบสนอง เขาก็จะหยุดนิ่งเเละหายไปเอง
“คนที่ไม่มีความทุกข์จะอยากทำให้คนอื่นทุกข์ทำไม เพราะมันไม่มีเหตุผลเลยที่คนกำลังมีความสุขจะอยากไปทำให้ใครทุกข์”
ลองสังเกตตัวเองดูก็ได้ครับ เวลาที่เรามีความสุข เราจะพูดดีกับคนรอบข้าง จะทำดีกับทุกคน เผลอๆ อาจจะใจดีเลี้ยงข้าวเพื่อนที่ทำงาน จนเพื่อน งง ไปเลยว่า วันนี้ไปกินยาผิดขวดมาหรือเปล่า ?
ซึ่งเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นกับนักฟุตบอลทีมชาติ สมาคมฟุตบอลอังกฤษเเละแกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีม จึงตัดสินในลงโทษ สเตอร์ลิ่ง โดยการส่งเขากลับบ้านทันที
เเต่ โจ โกเมซ เองก็แสดงให้เห็นเเล้วว่า “ยิ่งใครคิดร้ายกับเรา เรายิ่งต้องเห็นใจเขา”
โดยการที่เจ้าตัวได้เป็นคนยื่นเรื่องขออุทธรณ์ต่อ เซาธ์เกต ในกรณีที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทะเลาะกับเขา เเละเป็นคนร้องขอให้มีการพิจารณาในการตัดสินในเรื่องนี้อีกครั้ง โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเขาเองก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน
เซาธ์เกต จึงได้ลดการลงโทษ สเตอร์ลิง ให้เหลือแค่การตัดชื่อเขาออกจากการมีส่วนร่วมอยู่ในทีมชาติอังกฤษในเกมที่จะพบกับทางทีมชาติมอนเตเนโกรในศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือกในวันพฤหัสบดีนี้เพียงเท่านั้น
ขอให้จำไว้ว่า คนที่คิดร้ายกับเขา นั่นเป็นเพราะในใจของเขาเป็นทุกข์ หรือความสุขของเรามันไปทำให้เขาเป็นทุกข์ เขาจึงต้องการที่ระบายความทุกข์นั้นออกมาเเละอยากทำให้คนรอบข้างทุกข์ไปกับเขาด้วยเท่านั้นเอง
เพราะความจริงที่น่าตกใจ ก็คือ งานวิจัยของ ดร.ซิลเวีย น็อปล็อคห์ เวสเตอร์วิค ระบุเอาไว้ว่า ลึกๆเเล้ว มนุษย์จะมีความสุขมากขึ้นเมื่อมองเห็นความทุกข์ความลำบากของคนอื่นมากกว่าตนเอง
ดังนั้น “ยิ่งใครคิดร้ายกับเรา เราต้องยิ่งเห็นใจเขา” เพราะมันจะทำให้เราไม่เสียความสุขของตัวเองไป เเละสุดท้ายเราก็จะสามารถปล่อยมันผ่านไป โดยที่เราไม่เสียโฟกัสกับเป้าหมายของตัวเอง
หากคุณกำลังเจอปัญหา หรือ อยากอ่านบทความเเบบไหน ส่งคำถามมาให้ "สมองไหล" ได้ง่ายๆ เพียง “กดลิ้ง” ข้างล่างนี้ได้เลย
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
