14 พ.ย. 2019 เวลา 07:38 • ปรัชญา
# กับดักที่ดึงรั้งชีวิตเราไว้
อ่านเรื่ิองราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจว่าสิ่งที่ดึงรั้งชีวิตคุณไว้คืออะไร
จุดเริ่มต้นที่แตกต่าง
หลังจากสงครามกลางเมือง ภายในประเทศอเมริกาสิ้นสุดลง นายพล โรเบิร์ต อี ลี ได้ถือโอกาสนี้ ไปเยือนบ้านแสนสวยของแม่หม้ายชาวเคนตักกีผู้มั่งคั่ง
เธอกระตือรือร้นเป็นอย่างมากที่จะพาเขาไปดูซากต้นไม้เก่าแก่ ในสวนหน้าบ้านของเธอ ซึ่งกิ่ง และลำต้นของมันถูกปืนใหญ่ของฝ่ายรัฐบาลกลางยิงจนเสียหาย
เธอเล่าให้ นายพลลี ฟังถึงผลกระทบ และความสูญเสียที่เธอได้รับ หลังจากนั้นเธอจึงมองไปที่ลี โดยคาดหวังว่าเขาจะแสดงความเห็นอกเห็นใจ เมื่อได้ชมต้นไม้นี้แล้ว
การรับมือที่ถูกต้อง
ชั่ว ขณะ นั้นเองบทสนทนาก็เงียบเสียงไป
นายพลลี กลับแนะนำเธอว่า "คุณผู้หญิงควรตัดต้นไม้นี้ทิ้ง แล้วลืมเรื่องราวนี้เสียเถอะ "
ลี กล่าวต่อไปว่า "คุณต้องก้าวต่อไป และเรียนรู้วิธีรับมือในเชิงบวก โดยไม่คาดหวัง หรือเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพราะสงครามสิ้นสุดลงแล้วทุกสิ่งจึงขึ้นอยู่กับทัศนคติใหม่ในวันนี้”
ชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
หลายครั้งที่ ความสิ้นหวัง มีผลร้ายต่อชีวิตเรามากเกินไป และบ่อยเกินไป จนทำให้เรารู้สึกท้อแท้ และยากที่จะหาทางออกไปได้ อีกทั้งการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
ที่จะยิ่งส่งผลให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าเดิม เพราะคนเรามีโอกาสไม่เท่าเทียมกัน โดยเราอาจกำลังนำสิ่งที่ดีที่สุด รวมไปถึงเจตนาดีของตัวเราเอง ไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่แย่ที่สุดของคนอื่น
มนุษย์เราเหมือนดังเครื่องชั่ง
หรือเราอาจกำลังนำสิ่งที่แย่ที่สุดของตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่นอยู่ก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดวงจรการพูดคุยกับตัวเองในแง่ร้าย สิ้นหวัง และท้อแท้ไม่รู้จบสิ้น
ดังที่ วิลเลียม เอ. วาร์ด เจ้าของโรงพิมพ์ กล่าวไว้ว่า "มนุษย์เราเป็นเหมือนเครื่องชั่งที่ถูกออกแบบมา เพื่อรับน้ำหนักได้เพียงชั่วขณะหนึ่ง ไม่ใช่เพื่อรับน้ำหนักรวม ของทั้งปีในคราวเดียว"
"คนสำคัญที่สุด ที่คุณคุยด้วยคือตัวเอง ฉะนั้นจงระวังสิ่งที่พูด
คนสำคัญที่สุด ที่คุณจะประเมินด้วยคือตัวเอง ฉะนั้นจงระวังสิ่งที่คิด
คนสำคัญที่สุด ที่คุณจะรักคือตัวเอง ฉะนั้นจงระวังสิ่งที่ทำ เพราะทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนส่งผลถึงอนาคตได้ทั้งสิ้น"
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา