“ล้มกี่ครั้งก็ยังลุกได้” 135 ปี “triumph” ตำนานแห่งรถจักรยานยนต์เอกลักษณ์ผู้ดีอังกฤษ
แบรนด์รถจักรยานยนต์เจ้าใหญ่ ผู้เป็นตำนานแห่งเมืองผู้ดีอังกฤษ กับการครองตำแหน่งผู้นำด้านจักรยานยนต์ แต่เส้นทางที่ Triumph ต้องฝ่าฟันตั้งแต่จุดเริ่มต้น มาจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ใครๆคิด ทั้งในสภาวะที่แทบจะล้มละลาย หรือเข้าสู่ยุคแห่งสงคราม Triumph นั้นฝ่าฟันจนได้รับชัยชนะสมชื่อ!!
ย้อนกลับไปยังปี 1884 “ซีคฟรีด เบ็ทท์มันน์” ชายหนุ่มเชื้อสายเยอรมันจากเมืองเนือร์นแบร์กวัย 20 ปี ริเริ่มก่อตั้งกิจการที่มีชื่อว่า S. Bettmann & Co. Import Export Agency ณ นครลอนดอน เป็นการค้าเครื่องกลที่มาจากจักรวรรดิเยอรมัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจักรยานที่ขายดี และเพื่อที่จะให้ชื่อของบริษัทเขานั้น เจาะจงกับสินค้าจำเพาะมากขึ้น
ในปี 1886 กิจการของเบ็ทท์มันน์ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Triumph Cycle Company เมื่อเติบโตมากขึ้น ในปีถัดจากนั้นเอง เขาได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทยางดันลอป ที่อยู่เยอรมันณี กิจการของเขาจึงได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดชื่อว่า New Triumph Co. Ltd
1887 กิจการของเบ็ทท์มันน์ยังดำเนินอยู่เรื่อยมา “มอริทซ์ ชุลเทอ” เพื่อนจากเมืองเนือร์นแบร์กของเขา ได้โน้มน้าวให้สร้างโรงงานผลิตขึ้นเสียเอง แทนที่การนำเข้ามา ถัดจากนั้นเพียงหนึ่งปี ที่ดินที่เมืองคอเวนทรี ก็ได้ถูกซื้อโดยเบ็ทท์มันน์ เพื่อที่จะตั้งโรงงาน แต่ในตอนนั้น ลำพังแค่ทุนของเบ็ทท์มันน์นั้น ไม่เพียงพอต่อการขยับขยายกิจการที่ใหญ่มากขึ้นแบบนี้ เบทท์มันน์จึงใช้ทั้งทุนตัวเอง และส่วนที่กู้ยืมมาจากชุดเทอ เพื่อที่จะสร้างโรงงานอะนเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานจักรยานยนต์แห่งอังกฤษ
1889 จักรยานคันแรกที่ผลิตโดย Triumph ก็ออกมา และกิจการของเขาก็เติบโต เจริญรุ่งเรืองต่อมา จนกระทั่งถึงปี 1896 Triumph ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังเมืองเนือร์นแบร์กอีกด้วย ต่อมาในปี 1898 บริษัทของเบ็ทท์มันน์ ได้ตัดสินใจผลิตจักรยานยนต์โดยใช้แบบจากบริษัทอื่น เป็นเวลาเพียงสี่ปี ในปี 1902 จักรยานยนต์คันแรกของ Triumph ก็ถูกเปิดตัว
จักรยานยนต์รุ่นแรกที่ผลิตออกมานั้น ใช้เครื่องยนต์ “มิเนอร์ว่า” จากประเทศเบลเยียม
1904 Triumph ได้ผลิตจักรยานยนต์ที่ออกแบบเอง และใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น จักรยานยนต์เอกลักษณ์ Triumph เต็มตัว จึงถูกเผยสู่สายตาสาธารณชน และเป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน Triumph จริงๆ
กิจการจักรยานยนต์ที่เติบโตมากขึ้น ผ่านกาลเวลามาอย่างหลายทศวรรษ อย่างที่ว่ากัน เส้นทางของ แบรนด์จักรยานยนต์จากเมืองผู้ดีนี้ ไม่ได้โปรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อพวกเขา ต้องเผชิญกับคู่แข่งตัวฉกาจจากดินแดนอาทิตย์อุทัยในยุค 70 ที่อิทธิพลของยานยนต์ทางฝั่งญี่ปุ่นนั้น เติบโตขึ้นมาก จนแบรนด์ทางฝั่งยุโรปหลายแบรนด์ต้องสั่นคลอนไปตามๆกัน รวมไปถึง Triumph ที่เราพูดถึงกันอยู่ ก็เช่นกัน
ไม่เพียงแค่นั้น Triumph ต้องประสบกับขวากหนามที่น่าจะเป็นเรื่องที่ Bad ที่สุด เมื่อปี 1983 พวกเขาต้องประสบกับสภาวะล้มละลาย แต่ในปีนั้นเอง ทรัพย์สินของบริษัทได้ถูกพิทักษ์ทรัพย์โดย “จอห์น บลอร์” นักธุรกิจ ในประเทศอังกฤษ ซึ่งบลอร์ ได้ใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่เดิม แต่ก่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ ใช้ชื่อว่า “Triumph Motorcycles” ใช้เม็ดเงินมหาศาลไปเกือบ 100 ล้านปอนด์ เมื่อคิดเป็นค่าเงินปัจจุบันจะมีมูลค่าราวๆ 4,000 ล้านบาท
หลังจากนั้น Triumph ก็ยังเป็นแบรนด์ที่อยู่มาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นจักรยานยนต์ที่ครองใจผู้คนหลายกลุ่มคนไปแล้วทั่วโลก ทุกยุค และทุกสมัย
อย่างไรก็ตาม Triumph ได้ตั้งฐานการผลิตขนาดใหญ่ที่ประเทศไทยของเรา เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ Triumph ยังครองชัยชนะอยู่อย่างสมชื่อได้
ทิ้งท้ายกันด้วยเม็ดเงินที่น่าสนใจ โดยในปี 2017 Triumph มีรายได้ถึง 498.5 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ราวๆ 19790.79 ล้านบาท และกำไรของ Triumph ในปีนั้นเอง เป็นเม็ดเงิน 24.7 ล้านปอนด์ ราวๆ 980.61 ล้านบาท
ชื่นชอบ บล็อกของ Swivel อย่าลืมกดแชร์ กดติดตามและกดไลค์กันเยอะๆนะ ที่สำคัญ ติชม และให้กำลังใจผ่านคอมเมนท์ข้างล่างนี้ได้เลย
สำคัญไปกว่านั้น ทุกคนสามารถรับคอนเทนท์ดีๆ บวกกับความบันเทิงอย่างมีสาระผ่านช่องทางนี้เลย http://nav.cx/2z8bFq6
"Infinite Development Drive By Swivel" "Everything Are Swiveling"
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
