12 ธ.ค. 2019 เวลา 12:16 • การศึกษา
10 ยานยนต์ จะเร็วไปไหน ถามใจเธอดู
โลกหมุนรอบตัวเอง เหมือนดั่งเช่นทุก ๆ วัน แต่มนุษย์กลับรู้สึกว่ามัน หมุนเร็วขึ้นทุกที กลายเป็นจุดเริ่มต้น ของนวัฒกรรมด้านความเร็ว เพื่อช่วยลดเวลาในการเดินทาง ยานยนต์ความเร็วสูง คือหนึ่งในโจทย์ ที่เหล่าวิศกร จะต้องตีให้แตก มนุษย์โลก มียานยนต์ความเร็วสูง โปรเจคไหนบ้าง ที่กำลังถูกกลุ่มนักลงทุนจับตามอง เพจท้อป จะแร้งให้ฟังครับ
10. AGV Italo 360 กิโลเมตร : ชั่วโมง
เริ่มต้นกันที่ ความเร็วระดับมิดไมล์ กับรถไฟจากประเทศอิตาลี่ นามว่า AGV Italo ที่นอกจากความเร็วระดับฟาสฟู๊ด (เฮ๊ยยย.. ใช่เหรอ) ที่เป็นตัวชูโรงแล้ว ยังเป็นรถไฟ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ปัจจุบันรถไฟความเร็วสูงขบวนนี้ วิ่งผ่านเมืองใหญ่ ๆ ในประเทศอิตาลี่ รวมแล้ว ราว ๆ 180 กิโลเมตรต่อวัน ทำความเร็วสูงสุดที่ 360 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงครับ
1
9. The Shinkansen ALFA-X 400 กิโลเมตร : ชั่วโมง
รถไฟความเร็วสูง สายพันธุ์เจแปน (ของสาวก ขาวสวย หมวยอึ๋ม) ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงทดสอบเท่านั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการทดสอบขบวนรถหัวกระสุน ALFA-X ได้อัตราความเร็วสูงสุดที่ 400 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง นับเป็นขบวน ที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมกันนี้ชาวแดนปลาดิบ จะได้นั่ง The Shinkansen N700 ที่มีความเร็ว 300 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ในปี 2020 หรือปีหน้านี้แหละครับ
1
8. Harmony CRH 380A 416 กิโลเมตร : ชั่วโมง
รถไฟความเร็วสูง จากประเทศจีน ที่วิ่งผ่านตัวเมือง ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, หังโจว, อู่ฮั่น, กวางโจว ผลิตด้วยอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบา ลักษณะหัวรถ คล้ายหัวปลา (บ้างก็ว่า เหมือนหัวปลี) พัฒนาด้วยระบบแรงเสียด ที่เรียกว่า aerodynamic pressure reduce ว่ากันว่าแทบจะไม่มีแรงสั่นสะเทือน ภายในห้องโดยสารเลย อัตราความเร็วสูงสุดที่วัดได้ 416 กิโลเมตร : ชั่วโมง
1
7. Shanghai Maglev 430 กิโลเมตร : ชั่วโมง
จัดเป็นรถไฟความเร็วสูง ที่ใช้งานได้จริงในปัจจุบัน และยังเป็นเทคโนโลยีจากประเทศจีนเช่นเดิม รถขบวนนี้ไม่มีล้อ (ทำให้ไม่ต้องกลัว ถูกล้อ) เหมือนรถไฟทั่วไป นั่นเพราะอาศัย พลังขับเคลื่อนจากสนามแม่เหล็กบนรางรถ ตัวรถไฟจะถูกยกขึ้นจากรางประมาณ 10 มิลเมตร อัตราความเร็วสูงสุด ที่ทำไว้ได้คือ 430 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
1
6. Hennessey Venom F5 484 กิโลเมตร : ชั่วโมง
อันดับต่อไป เป็นยานยนต์นั่งคนเดียว หรือจะนั่งสองคนก็แล้วแต่ (มันคือรถส่วนบุคคล.. จะพูดให้งง ทำไม) ว่ากันว่า นี่มันจรวดทางเรียบดี ๆ นี่เอง กับ Hennessey Venom F5 ไฮเปอร์คาร์ที่เร็วสุดในโลก อัตราเร่ง 0-186 ไมล์/ชม. (300 กม./ชม.) ในเวลาไม่ถึง 10 วิ น่าจะการันตีความมันส์ ในระดับพระกาฬได้อย่างถึงใจ ผลการทดสอบความเร็วสูงสุด วัดได้ที่ 484 กม. ต่อ ชม.
1
5. Tokyo Maglev 603 กิโลเมตร : ชั่วโมง
ทุบสถิติกันต่อไป กับรถไฟสนามพลังงานแม่เหล็ก เจ้าของสถิติแรงทะลุนรก ซึ่งล่าสุด ญี่ปุ่นเตรียมเอามาเปิดวิ่ง บนเกาะของตัวเอง ภายใต้การดำเนินงานของ Central Japan Railway โดยมีโครงการวิ่งจากกรุงโตเกียว และเมืองนาโงยะ ระยะทาง 280 กม. ในปี 2027 ทั้งนี้รถไฟขบวนนี้ทำเวลาเอาไว้ที่ 603 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เรียกว่าตัวปลิวกันบ้างล่ะ
1
4. Virgin Hyperloop 1,078 กิโลเมตร : ชั่วโมง
Virgin Hyperloop อาจจะยังไม่เป็นที่คุ้นหู มนุษย์โลกอย่างเรา เนื่องจากเค้าผลิตให้เอเลี่ยนใช้งาน (บ้าเหรอ ..) BMW ผู้เป็นเจ้าของโครงการ Virgin Hyperloop ซุ่มพัฒนาระบบขนส่งความเร็วสูงนี้ มาตั้งแต่ ปี 1995 ซึ่งมีลักษณะคล้ายแคปซูล เดินทางผ่านท่อ ด้วยความเร็วสูง โดยความเร็วที่วิศกรคำนวนไว้คือ 1,078 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
3. Concorde 2,100 กิโลเมตร : ชั่วโมง
เที่ยวบินความเร็วสูง จากเครื่องบิน Concorde เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1969 ด้วยการบริหารงานของ บริติชแอร์เวย์ และแอร์ฟรานซ์ ยุติกิจการพาณิชย์ด้านขนส่งลงเมื่อปี 2003 เนื่องจากมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูง และผู้ใช้บริการน้อย (เจ๊งนั่นเอง...) Concorde เป็นเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง ที่ถูกนำมาใช้ในการขนส่ง มีความเร็วสูงสุด 2,100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2. Boom Overtune 2,300 กิโลเมตร : ชั่วโมง
Boom Overtune เป็นอีกโครงการความเร็วบนท้องนภา (นกกา เตรียมหาที่อยู่ใหม่) ระหว่างความร่วมมือของ Japan Airlines และ Virgin Group ที่ต้องการจะพัฒนาเครื่องบินความเร็วสูงระดับ 2,300 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ด้วยห้องโดยสารขนาด 55 ที่นั่ง มีกำหนดเที่ยวบินแรกจาก ซานฟรานซิสโก ไปกรุงโตเกียว ซึ่งจะลดเวลาจาก 9 ชม. เหลือ 5 ชม.
1. Boeing Hypersonic 5,400 กิโลเมตร : ชั่วโมง
ปิดท้ายกันที่ ความเร็วแห่งอนาคตอย่าง Boeing Hypersonic โครงการความเร็วเหนือเสียง ที่มีปลายทางอยู่ที่ปี 2029 (ปีเดียวกับอาโนลด์ คนเหล็ก 2029) ความเร็วที่ว่านี้แตะระดับ Mach 5 หรือ ราว 5,400 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง บินที่ความสูง 100,000 ฟุต เพดานบินที่ไม่ใช่สำหรับเครื่องบินพานิชย์ทั่วไปครับ
โลกของเรา ยังคงไม่หยุดพัฒนา นั่นคือความจริงครับ ปัจจุบันเรารู้สึกว่า โลกมันแคบลง แต่ในอนาคต โลกจะยิ่งแคบกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี ที่พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง จะเป็นกลไกสำคัญ ที่ทำให้โลก หมุนเร็วขึ้น ไปอีกขั้น
หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
สัมผัสเบา ๆ จากปลายนิ้วท่าน สามารถให้กำลังใจผู้เขียนได้ง่าย ๆ
กดไลค์ = ชอบ
กดแชร์ = เห็นว่ามีประโยชน์
คอมเม้นต์ = เพื่อติชม และเป็นกำลังใจ
อ้างอิง
โฆษณา