"มีแต่มนุษย์ที่มาเถียงกันว่าจะฆ่ายักษ์หรือไม่ โดยที่ยักษ์ยังมองมนุษย์เป็นเพียงอาหารเท่านั้น"
and the review goes to.. -พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ / the Promised Neverland- (part 2/2)
สวัสดีครับทุกคน โพสนี้จะเป็นการตีความการกระทำต่าง ๆ ของตัวละครหลักในเรื่อง สำหรับใครที่ยังไม่อ่านรีวิว part1/2 สามารถอ่านในเพจได้ หรืออ่านแบบ super ย่อได้เลย
เนื้อเรื่อง super ย่อ : เด็กถูกจับมาเพาะพันธุ์ในฟาร์ม (GFH) เพื่อเป็นอาหารยักษ์ จากนั้นเด็ก ๆ วางแผนเพื่อหนีออกจากฟาร์ม และต้องเผชิญกับโลกความจริงอันโหดร้าย
โอเคครับ เนื้อเรื่องประมาณนี้ ต่อจากนี้ไปคือ
***Super Spoiler Alert***
เหมาะสำหรับคนที่อ่านแล้วมาโม้กัน หรือใครเป็นสายชอบโดนสปอยก่อนก็มาอ่านกันเลยครับ
แบ่งเป็น 2 ข้อคือ
1. เนื้อเรื่องสะท้อนถึงห่วงโซ่อาหาร
การ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอโดยการเปรียบเทียบให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์ที่ถูกเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร และใช้ยักษ์แทนสัตว์ที่อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
การ์ตูนเรื่องนี้นำเสนอมุมมองได้ครอบคลุมมาก ๆ มีฉากหนึ่ง หลังจากที่พวกเอ็มม่าหนีออกมาจาก GFH แล้วต้องล่าสัตว์ในป่าเพื่อประทังชีวิต ทำให้เอ็มม่ารู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นไม่ต่างจากยักษ์
นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ใช้เด็กในการเดินเรื่อง เพราะหากใช้ผู้ใหญ่ที่ผ่านอะไรมาเยอะแล้วนั้นอาจจะยอมรับความตายตามกฎธรรมชาติและใช้ช่วงชีวิตสุดท้ายใน GFH ไปแล้ว
การที่ยักษ์เลิกกินมนุษย์ไม่ได้ทำให้มนุษย์เลิกกินสัตว์ สุดท้ายสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์ต้องทำทุกทางเพื่ออยู่รอดและสืบพันธุ์ต่อไปแม้จะเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่นก็ตาม
และเมื่อมีสองเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาทัดเทียมกันต้องการอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารเหมือนกัน สงครามระหว่างมนุษย์กับยักษ์จึงเกิดขึ้น
จุดนี้ที่การ์ตูนเสนอออกมาสุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้ผมเลิกกินสัตว์นะครับ แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกสะเทือนใจเวลาโดนมองเป็นอาหารเหมือนกัน
สุดท้ายก็ยังกินสัตว์เหมือนเดิมแต่คงเห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น เพราะสัตว์ทุกตัวก็คงอยากจะมีชีวิตอิสระไม่ต่างจากพวกเอ็มม่าที่หนีออกมาจาก GFH
2. เนื้อเรื่องเสนอมุมมองพระเจ้า ทำให้ไม่เชียร์ฝั่งไหนเลย
(***สปอยหนักมาก***)
ตรงนี้ขอเท้าความไปถึงจุดเริ่มต้นของยักษ์และที่มาของชื่อเรื่องพันธสัญญาเนเวอร์แลนด์
เริ่มจากยักษ์คือสิ่งมีชีวิตที่มี "วิวัฒนาการแนวราบ" ว่าง่าย ๆ คือกินอะไรแล้วจะได้ลักษณะของสิ่งมีชีวิตนั้นมาด้วย เมื่อยักษ์ได้กินมนุษย์ก็ทำให้ยักษ์มีสติปัญญาและมีวัฒนธรรมเหมือนกับมนุษย์
และที่สำคัญคือต้องกินมนุษย์ต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อคงสภาวะสติปัญญาต่อไป
ครอบครัวขุนนางยักษ์
ต่อมามนุษย์รวมตัวกันต่อสู้กับยักษ์ และทำสงครามกันอย่างยาวนาน เมื่อสงครามไม่มีทีท่าจะจบลงทำให้ทั้งสองเผ่าพันธุ์หันมาทำ "พัธสัญญา" เพื่อแบ่งโลกกันอยู่
โดยที่ยักษ์และมนุษย์จะไม่ข้ามไปโลกของกันและกัน แต่ก่อนจะแบ่งโลกยักษ์ขอมนุษย์ไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเพาะพันธุ์ (ทำฟาร์มมนุษย์ เช่น GFH) ไว้กินในโลกของยักษ์ และเป็นอย่างนี้มากว่า 1,000 ปี
กลับมาปัจจุบัน พวกเอ็มม่าหนีออกมาจาก GFH และพยายามจะหาทางไปโลกฝั่งมนุษย์ โดยที่ในระหว่างนั้น นอร์แมนที่กลายเป็นความหวังของเด็ก ๆ ที่หนีออกมาจากฟาร์ม (ฟาร์มทั้งหมดในโลกฝั่งยักษ์) ตั้งใจที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยักษ์ให้หมดไป
พอมารู้อย่างนี้มันทำให้คนอ่านอย่างผมอึดอัดมากเลยนะครับ (ฮา) คือมองในมุมของใครก็มีเหตุผลรองรับไปหมด และเหตุผลที่ว่าคือการดำรงเผ่าพันธุ์ มันเป็นเหตุผลที่ต่อให้เอาเรื่องศีลธรรมมาจับก็ไม่ไหวอยู่ดี
จะมีเผ่าพันธุ์ไหนยอมตายเพื่อให้อีกฝ่ายมีชีวิต ไม่มี
ทีนี้มาแยกประเด็นของแต่ละคนกัน
2.1 เอ็มม่า's eye view : หนีออกมาจากฟาร์มเพื่ออยากมีชีวิตต่อไปในฐานะมนุษย์
เอ็มม่า
/// แต่การหนีออกมาจากฟาร์มอาจส่งผลให้เกิดสงครามระหว่างมนุษย์กับยักษ์อีกครั้ง เพราะชีวิตของพวกเอ็มม่าคือชีวิตที่ต้องสังเวยเพื่อความสงบสุขของโลกฝั่งมนุษย์
/// ถามว่าโลกฝั่งมนุษย์เห็นใจเด็กที่เป็นอาหารไหม บางทีอาจจะไม่รู้ถึงการมีอยู่ของพวกเอ็มม่าด้วยซ้ำ
/// แล้วทำไมพวกเอ็มม่าไม่มีสิทธิ์ในชีวิตของตัวเอง ถ้ามองตามกฎก็แน่นอนว่าเป็นเครื่องสังเวย แต่ถ้ามองด้วยความรู้สึกของพวกเอ็มม่าแล้วการจะหนีออกมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
/// สุดท้ายไม่มีคำตอบที่ถูกต้องที่สุดของการกระทำนี้ อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน และต้องมีมนุษย์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องลำบากแน่นอน
2.2 เผ่าพันธุ์ยักษ์'s eye view : กินมนุษย์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์และรักษาสติปัญญาต่อไป
ขุนนางยักษ์
/// แน่นอนว่าเมื่อมีสติปัญญาทัดเทียมมนุษย์แล้วไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นยักษ์ชั้นล่างเหมือนเดิม
/// ยักษ์มีการทำฟาร์มมนุษย์ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย อุตสาหกรรมอาหารเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ และมี "ผู้กิน" พันธุ์ไหนที่สนใจความรู้สึกของ "ผู้ถูกกิน" บ้าง คำตอบคืออาจจะมี แต่สุดท้ายก็กินเหมือนเดิม
/// ยักษ์ทำสนามล่ามนุษย์เพื่อความสนุก เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมชัดเจน แต่มนุษย์ก็ทำต่อสัตว์อื่นเช่นกัน
/// ยักษ์มีการใช้มนุษย์เป็นหนูทดลอง มนุษย์ก็เช่นกัน
/// สุดท้ายการมีอยู่ของยักษ์นั้นขัดกับมนุษย์ชัดเจน แต่มีพันธสัญญาในการอยู่ร่วมกัน เพราะฉะนั้นการกระทำของยักษ์ถ้าจะทำให้รู้สึกว่ามันผิดก็เพียงเพราะเราเป็น "มนุษย์" เท่านั้น
2.3 "ตระกูลราตรี" 's eye view : ตระกูลราตรีคือตระกูลที่ทำพันธสัญญากับยักษ์เมื่อ 1,000 ปีก่อน
เจมส์ ราตรี
///ผู้นำคนก่อนปัจจุบัน "เจมส์ ราตรี" พยายามจะช่วยเหลือเด็กจากฟาร์ม แต่ถูกผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน "ปีเตอร์ ราตรี" จับได้และฆ่า เพื่อรักษาความสมดุลของโลกนี้ไว้ และกำลังตามล่าตัวปัญญาอย่าง "เด็กจาก GFH" ที่หนีออกมาอย่างเต็มกำลัง
/// การกระทำของปีเตอร์ถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับว่าถามใคร
2.4 นอร์แมน's eye view : ต้องการล้างบางเผ่าพันธุ์ยักษ์ให้หมดไป คือการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุดสำหรับมนุษย์
นอร์แมน
/// ตรงนี้คือสิ่งที่สะท้อนปัจจุบันออกมาได้ชัดเจนที่สุด คือการเข้าทำด้วยกำลังถือเป็น "สัญชาตญาณ" ที่ติดตัวมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัย
/// ซึ่งยักษ์ก็คิดถึงข้อนี้อยู่เหมือนกัน ทำให้สงครามของมนุษย์และยักษ์มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นมากกว่าการสร้าง "พันธสัญญาใหม่" แน่นอน
/// (สร้างพันธสัญญาใหม่เป็นไอเดียของเอ็มม่า)
/// เอ็มม่าที่เคยเห็นชุมชนของยักษ์ที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หากจจะฆ่าก็ให้ละเว้นยักษ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เอาไว้ หรือไปทำพันธสัญญาใหม่กับผู้นำสูงสุดของยักษ์ ซึ่งนอร์แมนตอบกลับว่า "เพ้อฝันทั้งเพ"
/// ทั้งนอร์แมนและเอ็มม่าต่างคือเด็กที่เป็นอาหารและมาจากฟาร์มเดียวกัน แต่มุมมองที่มีให้กับยักษ์ต่างกัน นอร์แมนมองยักษ์ในฐานะมนุษย์ เอ็มม่ามองยักษ์ในฐานะสิ่งมีชีวิต ซึ่งอะไรถูกอะไรผิดนั้น มีแต่ผลลัพธ์เท่านั้นที่จะตอบได้
/// แต่ผลลัพธ์จะมาจากวิธีการของใครกันล่ะ
2.5 Every eye view on เลือดสามานย์ : "ยักษ์เลือดสามานย์" คือยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่ไม่จำเป็นต้องกินมนุษย์เพื่อคงสภาพไว้ และสามารถถ่ายทอดการคงสภาพนี้ให้ยักษ์ตนอื่นได้โดยการใช้เลือดเพียงหยดเดียว
ยักษ์เลือดสามานย์ ซองจู & มูจิก้า
2.5.1 เอ็มม่า : ต้องการใช้เลือดของ "ซองจู" และ "มูจิก้า" ยักษ์เลือดสามานย์ที่เคยช่วยเหลือพวกเอ็มม่าตอนหลบหนีอยู่ในป่า เพื่อให้ยักษ์ทุกตัวเลิกกินมนุษย์และสร้างโลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกันกับยักษ์
2.5.2 นอร์แมน : ถึงรู้ว่าเลือดของมูจิก้าสามารถยุติสงครามได้ แต่ยังมองมูจิก้าเป็นยักษ์อยู่ และหากยังมียักษ์หลงเหลืออยู่ความสงบสุขที่แท้จริงไม่มีทางเกิดขึ้น
2.5.3 เผ่าพันธุ์ยักษ์ : ในอดีตราชวงศ์ของยักษ์ได้กวาดล้างยักษ์เลือดสามานย์ และกินเลือดนั้นจนหมด เพื่อครอบครองอำนาจและสร้างชนชั้นระหว่างยักษ์ด้วยกันเอง
เพราะหากประชากรยักษ์สามารถอยู่กันเองได้ การมีอยู่ของราชวงศ์ยักษ์อาจจะไม่มีอิทธิพลต่อประชากรมากเท่าทุกวันนี้
และนี่คือสถานการณ์ใน the Promised Neverland ครับ ไม่รู้ว่าจะมีพลิกล็อคอะไรขึ้นมาอีกบ้าง แต่เท่านี้ก็รู้สึกว่าการ์ตูนเรื่องนี้เปิดมุมมองของคนได้เยอะเลยนะครับ
เชื่อว่าหากอ่านแล้วเราก็จะรู้สึกเองว่าเราคิดเหมือนตัวละครตัวไหน และเมื่อตัวละครถกกันในประเด็นต่าง ๆ ก็ทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ด้วยนั่นเอง
สำหรับผมคิดว่าทั้งเอ็มม่าและนอร์แมนมีความคิดที่สุดโต่งเกินไป แต่ก็ไม่ได้คิดว่าฝ่ายไหนผิดเลย ตัวละครที่อาจจะทำให้เรื่องนี้เข้าโหมด Happy Ending น่าจะเป็นเรย์นี่แหละ
การ์ตูนเรื่องนี้อ่านแล้วได้อะไรเยอะเลยครับ อยู่ที่ว่าเราจะจับประเด็นไหนมาเทียบกับชีวิตจริง บางเรื่องพูดได้บางเรื่องพูดไม่ได้ บางเรื่องอาจเป็นความจริงที่เราไม่มีทางได้รู้เลย
สุดท้ายก็ได้แต่มานั่งคิดกันต่อไป เพราะสิ่งที่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียผลประโยชน์ไม่มีทางเผยแพร่เป็นวงกว้างแน่นอน
หากมีเรื่องอะไรเผยออกมา อาจทำให้ชีวิตที่แสนธรรมดาต้องจบลงก็ได้
และโลกนี้ยังมีคนที่พร้อมจะอยู่กับความสบายใจมากกว่าอยู่กับความเป็นจริง
ชื่อเรื่อง : พันธสัญญาเนเวอร์แลนด์ / Yakusoku no Neverland / the Promised Neverland
ประเภท : Drama / Dark Fantacy
เรื่อง : Kaiu Shirai
ภาพ : Posuke Demisu
สำนักพิมพ์ : Siam Inter Comics
จำนวนเล่ม : 1 - 15 (ยังไม่จบ)
อนิเม : season 1 : 12 ตอน
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
