5 ม.ค. 2020 เวลา 02:11 • ความคิดเห็น
หมอขอเล่า ขอสัมภาษณ์ : การเรียนเเพทย์ในเมืองจีน ยากเเค่ไหน ไฮเทคอย่างไร ???
ฟังจากผู้มีประสบการณ์จบเเพทย์จากเมืองจีนโดยตรง !!!!
https://thethaiger.com/medical/chinese-medical-tourists-visiting-thailand-set-to-exceed-1-million-by-2020
ณ ปัจจุบัน ประเทศจีนได้พัฒนาตัวเองจาก ประเทศยากจน จนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจเทียบเคียง กับประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วอายุคน
https://www.economicshelp.org/essays/problems-chinese-economic-growth/
ประเทศจีนได้มีความก้าวหน้าในทุกด้านทั้งทาง เศรษฐกิจ สังคม เเละเทคโนโลยี เเละเเน่นอน ในเรื่องการเเพทย์ ก็เริ่มเห็นงานวิจัย
ทางการเเพทย์ที่คิดค้นโดย เเพทย์ชาวจีนที่มีทั้ง ภาษาอังกฤษเเละภาษาจีนมากขึ้นเรื่อยๆ เเละเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
https://www.researchgate.net/publication/323007435_Big_data_and_medical_research_in_China
วันนี้ ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ น้องไอติม ผู้ที่จบการศึกษาเเพทยศาสตร์จากเมืองจีน มาเล่าถึงประสบการณ์ตรงในการเรียน การใช้ชีวิต รวมถึงความไฮเทคต่างๆในเมืองจีน
หมอขอเล่า : สวัสดีครับ น้องไอติม ยินดีมากนะครับที่น้องได้ให้เกียรติมาสัมภาษณ์ในวันนี้ พี่ขอให้ช่วยเเนะนำตัวเองหน่อยครับ
น้องไอติม: สวัสดีค่ะ หนูชื่อ น.ส. พรรณพัชร วงษ์ภาษ ชื่อเล่นชื่อ ไอติม คะ
จบเเพทยศาสตร์ จาก Zhezhiang university อยู่ที่เมือง Hangzhou มณฑล เจ้อเจียง ตอนนี้ฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐบาลในประเทศไทยเพื่อรอสอบใบประกอบโรคศิลปะทางการเเพทย์ ในเมืองไทยคะ
https://www.timeshighereducation.com/hub/first-class-universities/p/zhejiang-university-1-hangzhou
หมอขอเล่า : เเล้วจุดเริ่มต้นของการไปเรียนเเพทย์ในเมืองจีน เเละอุปสรรคที่เกิดขึ้นในตอนเรียนต่อเป็นอย่างไรบ้างครับ
น้องไอติม: จุดเริ่มต้นของการไปเรียนต่อที่ประเทศจีนเริ่มจาก หลังจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เมืองไทยหนูได้ไป open house เรื่องเรียนหมอต่างประเทศ ตอนเเรกก็ ดูไว้ คือ ประเทศอังกฤษ จีน เเละ อินเดีย ซึ่งพอมาดูเรื่องค่าใช้จ่าย ประเทศอังกฤษก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงไป จึงปรึกษาพ่อเเม่ เเละได้ตัดสินใจเลือก ประเทศจีน เพราะรู้สึก เป็นประเทศในเอเชียเเละดูคุ้นเคยมากกว่า
น้องไอติม: พอได้ตัดสินไปเรียนเเพทย์ที่ประเทศจีน ก็ได้ไปเรียนภาษาจีน 1 เดือนเรียนวันละร่วม 9 ชั่วโมงซึ่งหนูก็ไม่เคยรู้ภาษาจีนมาก่อน ซึ่งในเวลา 1 เดือนก็ไม่พอในการใช้ภาษาจริงๆนะคะ เพราะ ภาษาจีนยากมากๆ เเละตัว agency ก็อยู่กับเราเเค่ประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งตอนนั้นก็มีปัญหาพอสมควรคะเเต่ดีที่ได้ รุ่นพี่ที่เป็นคนไทยในเมืองจีนคอยช่วยเหลือ ทั้งเเนะนำสถานที่ การเดินทางรวมถึงเรื่องภาษาต่างๆ จึงผ่านพ้นอุปสรรคไปได้
หมอขอเล่า: เเล้วในการเรียนเเพทย์ที่เมืองจีนมีหลักสูตรในการเรียนอย่างไรเหมือนเมืองไทยหรือเปล่า???
(ส่วนรายละเอียดการเรียนเเพทย์ในเมืองไทยผมเคยเขียนไว้ใน ลิ้งค์บทความนี้เลยครับ
น้องไอติม: หนูจบหลักสูตรเรียนเเพทย์ ที่เมืองจีนเป็นหลักสูตร 5.5 ปีเเต่ตอนนี้เหมือนทางจีนได้เปลี่ยนหลักสูตรเป็น 6 ปีเเล้ว รูปเเบบหลักสูตรก็คล้ายๆเมืองไทยคะ คือ ปี 1-3 เป็นการเรียนชั้น pre clinic ก็จะเรียนวิทยาศาสตร์ พื้นฐาน biochem anatomy physiology เเละ ได้ผ่าอาจารย์ ใหญ่ตอนช่วง ปีหนึ่งเทอมสองคะ
น้องไอติม: พอขึ้นชั้น clinic คือ ปี 4-5.5 ก็จะไปวนตามวอร์ดต่างๆ อาทิเช่น วอร์ด สูติ วอร์ด ศัลย์ อายุรกรรม เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้จะเเตกต่างจากประเทศไทยหน่อยตรงที่ประเทศ จีนมีจำนวนคนไข้เยอะมาก เเละจะ
เเบ่งบางโรงพยาบาลเป็น โรงพยาบาลที่เฉพาะทางด้านๆนั้นไปเลย อาทิเช่น โรงพยาบาล ผู้หญิง โรงพยาบาล เด็ก เเละ ก็มีโรงพยาบาล ศูนย์กลางที่มีทุกเเผนกอีกทีด้วย ซึ่งหนูพอไปเรียน วอร์ดนึงหนูก็เปลี่ยน โรงพยาบาลทีนึงคะ ซึ่งเเค่ เมืองที่หนูอยู่ก็มี โรงพยาบาล หลัก อยู่ 3 โรงพยาบาล 1.) first affiliated hospital of Zhejiang university school of medicine (เจ้ออี 浙一)2.) second affiliated hospital of Zhejiang (浙二เจ้อเอ่อ) 3.) Sir run run shaw hospital คะ เเละก็มีโรงพยาบาล เฉพาะด้าน เเละ โรงพยาบาลเครือข่ายเล็กๆย่อยไปอีก
หมอขอเล่า: พอฟังเเละจินตนาการตามก็นึกออกถึงความใหญ่โตของประเทศจีนได้เลยครับ 555 ในปัจจุบันมี กระเเสมากมายได้เล่าถึงความไฮเทคของเมืองจีนในด้านต่างๆ เเล้วเท่าที่น้องไอติมได้ไปสัมผัสการเเพทย์ในเมืองจีน ไฮเทคจริงไหม???
น้องไอติม: โรงพยาบาลในเมืองจีนค่อนข้างไฮเทคมากคะ มีเทคโนโลยีที่เป็นตัวช่วยต่างๆดีมาก ตั้งเเต่ระบบการจัดเก็บข้อมูล เครื่องมือ วัดค่ายังชีพต่างๆ ก็เป็นระบบดิจิตอลหมด เครื่องมือ intervention ต่างๆก็มีขนาดใหญ่โตเเละครบครัน นอกจากนี้ เเม้คนไข้คนจีนจะมีจำนวนมากเเต่ หมอจีนก็มีจำนวนมากเช่นกัน หนูเลยรู้สึกว่า หมอที่จีนทำงานค่อนข้างสบายกว่า หมอที่เมืองไทยนะคะ
หมอขอเล่า: เเล้วในฐานะน้องไอติมได้มีประสบการณ์ ทั้งการเเพทย์ในเมืองจีนเเละในประเทศไทย น้องว่าการเเพทย์เเต่ละประเทศมีข้อดีข้อเสีย ยังไงบ้าง???
น้องไอติม: ในประเทศจีนข้อดี คือ มีการใช้เทคโนโลยีในการเเพทย์ที่ทันสมัยกว่าเมืองไทย เเต่ ข้อเสีย ก็คือ หนูรู้สึกบุคคลากรการเเพทย์ ในเมืองจีนก็พึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปเช่นกัน
น้องไอติม: ส่วนในเมืองไทย บุคลากรทางการเเพทย์ของเราจะพึ่งพาเครื่องมือต่างๆน้อยกว่ารวมถึง เเก้ปัญหาในภาวะอุปกรณ์ขาดเเคลนได้ดีกว่า ส่วนในด้านการเรียนเเพทย์ เรียนเเพทย์ที่ประเทศไทยจะได้ ตรวจเเละทำหัตถการต่างๆกับคนไข้มากกว่าที่ประเทศจีนนะคะ
หมอขอเล่า: เเล้วจากการที่ไอติมได้อยู่ที่ประเทศจีนหลายปี ประเทศจีนพัฒนาไปเร็วเเค่ไหน??
น้องไอติม: เมืองจีนพัฒนาเร็วมากคะ เมืองจีนใช้เวลาไม่กี่ปีเปลี่ยนเมืองที่หนูอยู่ให้เป็นสังคมไร้เงินสด เเละการก่อสร้างต่างๆ ทั้งตึก เเละ ถนนก็ทำได้รวดเร็วมาก อย่างเช่น หนูเคยเห็น สร้างตึก 12 ชั้นใช้เวลาเเค่ ปี ถึงปีครึ่ง
เท่านั้นตอนเเรก หนูก็กังวลในเรื่องคุณภาพของสิ่งก่อสร้างเเต่พอหนูได้พูดคุยกับเพื่อนชาวจีนที่ประกอบ อาชีพเกี่ยวกับก่อสร้างก็ได้รู้ว่า สิ่งก่อสร้างของจีนสมัยใหม่นั้น คุณภาพดีด้วย เเต่ที่สามารถสร้างได้รวดเร็ว เพราะ คนจีนทำงานกันอย่างหนักต่างหาก อย่างเช่นการตัดถนน ต่างๆในจีน คนจีนจะทำงานกัน 24 ชั่วโมง ไม่มีการเกี่ยงเวลาเพื่อให้งานเสร็จออกมาเร็วที่สุด !!!
https://emergingequity.wordpress.com/2015/05/17/chinas-infrastructure-gambit-in-southeast-asia/
หมอขอเล่า: เต็มอึ่มมากนะครับวันนี้ พี่ขอขอบคุณไอติมมากนะครับที่ได้สละเวลามาเล่าประสบการณ์ให้ทุกคนได้ฟัง
น้องไอติม: ด้วยความยินดีเลยคะ
ก็จบไปเเล้วกับ บทสัมภาษณ์ผู้ที่มีประสบการณ์ได้ไปเรียน เเพทยศาสตร์ที่ประเทศจีน เป็นบทสัมภาษณ์ที่สนุกเเละ เปิดหูเปิดตาผมมากทีเดียว
ซึ่งในบทสัมภาษณ์ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าใน ด้านการเเพทย์ เเละด้านอื่นๆของประเทศจีนนะครับ
ผมว่าในอนาคตเราคงต้องทำความรู้จักประเทศจีนให้มากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เเละ ไม่เเน่ว่าซักวันประเทศที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก ในอีกไม่กี่ 10 ปี ข้างหน้าอาจจะไม่ใช่ สหรัฐอเมริกา เเต่ อาจจะกลายเป็นประเทศจีนก็เป็นได้
เเละผมก็หวังว่า ประเทศไทยจะนำข้อดี ของประเทศจีนมาใช้ในการพัฒนาประเทศไทยต่อไป โดยเฉพาะ เรื่องความขยันเเละมุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้านะครับ
หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะสนุกเเละได้ความรู้นะครับ
https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn%3AANd9GcQnZLbjNjE411qw9qMLo7yoHQS8V_ls24XTQ0q565EJf92uR2bN
โฆษณา