17 ม.ค. 2020 เวลา 01:09 • ธุรกิจ
ประวัติ Tim Cook ตอนที่ 9 : Into the Future
เมื่อเข้าสู่วันที่ 2 สิงหาคม ปี 2018 Apple ได้กลายเป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าสูงถึง 1,000,000,000,000 ดอลลาร์ นั่นก็คือล้านล้านดอลลาร์ แน่นอนว่ากำไรส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นภายใต้ยุคของการบริหารงานโดย Tim Cook
1
ประวัติ Tim Cook ตอนที่ 9 : Into the Future
ตั้งแต่ Cook ขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของ Apple หุ้น AAPL มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้แม้จะมาจากผลิตภัณฑ์หลักอย่าง iPhone โดยเฉพาะ iPhone X ที่ทำการออกแบบใหม่ ทำให้ Apple สามารถขึ้นราคาขายได้ ส่งผลให้รายได้เพิ่มมากขึ้นแม้จำนวนเครื่องที่ขายได้จะน้อยลงก็ตาม
1
คงไม่เกินเลยที่จะกล่าวได้ว่า Steve Jobs เป็นผู้ให้กำเนิด iPhone แต่ Cook ได้นำผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัทนี้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงที่สุด พร้อมกับการเติบโตของบริษัทอย่างที่เราได้เห็นกันนั่นเองครับ
1
แม้เราจะไม่รู้ว่า Apple กำลังวางแผนอะไรต่อไปในอนาคต สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ของบริษัทที่ยังดูสดใส แน่นอนว่าความสำเร็จของ Apple มันคงไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ ซึ่ง Cook และทีมงานของเขาก็ไม่พลาดที่จะมองไปยังธุรกิจในอนาคต อย่างเรื่องของรถยนต์ และอุตสาหกรรมสุขภาพ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสองอุตสาหกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
การดูแลสุขภาพเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีมูลค่ากว่า 24.5 พันล้านเหรียญ ส่วนด้านโลจิสติกส์และการขนส่งนั้นอยู่ในอันดับที่ 4 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 12.8 พันล้านเหรียญ ซึ่งแน่นอนว่า Apple Watch กำลังเข้าไปช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่มหึมานี้ ส่วนโครงการ Titan ทีว่ากันว่าเป็นโครงการรถยนต์ในอนาคตของ Apple ดูเหมือนจะยังมีอนาคตที่ไม่ชัดเจนนัก
1
Project Titan หนึ่งในการพัฒนาที่มีความทะเยอทะยานและน่าสนใจที่สุดภายใต้การนำของ Tim Cook เป็นโครงการรถยนต์ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติที่ถูกปิดไว้เป็นความลับ โดยมีรายงานว่า Cook ได้อนุมัติ Project Titan ในปี 2014 และมอบหมายให้ Steve Zadesky อดีตวิศวกรของ Ford ซึ่งทำงานเป็นรองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Apple เป็นผู้ดูแลโปรเจ็คดังกล่าว
Steve Zadesky ผู้มาดูแล Project Titan ให้กับ Apple
ซึ่ง Zadesky เองได้ทำการรวบรวมวิศวกรด้านรถยนต์ รวมถึงทีมงานในส่วนต่าง ๆ ในการผลิตรถยนต์กว่า 1 พันคน ในการสร้าง Project Titan ซึ่งการจะได้ทีมงานคุณภาพมาร่วมทีมนั้น ก็ต้องเปิดศึกแย่งชิงตัวมาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็น BMW , Mercedes-Benz หรือแม้กระทั่งเหล่าวิศวกรอัจฉริยะจากบริษัท Tesla เองก็ตาม
Apple ยังถูกฟ้องร้องโดยบริษัท A123 Systems ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่ถูก Apple ดึงตัวพนักงานของพวกเขาไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่า Apple เองก็กำลังพัฒนาแผนกแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อแข่งขันในสนามเดียวกับบริษัท A123 Systems ซึ่งการเสียวิศวกรไปจำนวนมากเช่นนี้ก็ทำให้ A123 นั้นต้องถูกบีบบังคับให้ปิดโครงการของพวกเขาไป
2
ซึ่งเหล่าทีมงานของ Project Titan ได้ย้ายถิ่นฐานมายังศูนย์บัญชาการใหญ่ของ Apple ที่ คูเปอร์ติโน่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรถยนต์คันแรกของ Apple โดยพวกเขาเริ่มต้นด้วยการศึกษาวิธีการต่าง ๆ ที่จะเป็นการคิดค้นทุกอย่างแบบใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประตูรถ หรือ เครื่องยนต์ที่สามารถเปิดและปิดโดยใช้เสียงที่เงียบที่สุด หรือแม้กระทั่งการตรวจสอบความเป็นไปได้ในการสร้างพวงมาลัยแบบใหม่โดยทำให้มันเป็นทรงกลม ซึ่งจะช่วยให้การเคลื่อนไหวด้านข้างนั้นสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น
3
แต่เมื่อเริ่มโปรเจ็คจริง ๆ Apple ก็พบความจริงที่ว่า การสร้างรถยนต์ขึ้นมาจากศูนย์นั้นมันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย
ในเดือน กรกฎาคม ปี 2016 หัวหน้าทีมอย่าง Zadesky ก็ลาออกจาก Apple ด้วยเหตุผลส่วนตัว และเริ่มมีข่าวลือถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับโปรเจ็ค Titan เหล่าทีมผู้บริหารไม่มีความชัดเจนในสิ่งที่พวกเขาต้องการให้ Project Titan
แผนการของ Zadesky ที่ทำการส่งมอบให้กับบริษัทนั้น เป็นการสร้างรถยนต์แบบกึ่งอัตโนมัติ แต่ยังคงต้องพึ่งพาการขับขี่โดยมนุษย์อยู่ แต่ทาง Jony Ive ต้องการผลักดันให้โปรเจ็คนี้เป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ซึ่งจะให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ใหม่แบบเต็มที่ในรถยนต์คันแรกของ Apple
ในเดือนกรกฎาคมปี 2016 Apple ได้ทำการมอบหมาย Project Titan ให้กับ Bob Mansfield อดีตรองประธานอาวุโสด้านวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Mac ที่ได้เกษียณไปแล้วให้กลับมาช่วยดูแลโปรเจ็คดังกล่าวแทน Zadesky
แต่หลังจากนั้น ก็มีรายงานว่า ในเดือน กันยายนปี 2016 มีพนักงานหลายสิบคนถูกปลดออกจากโครงการดังกล่าว เนื่องจาก Apple ต้องการที่จะ Reboot โครงการนี้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงอีกครั้ง และหลังจากนั้นอีก 1 เดือนต่อมาก็มีพนักงานในโครงการดังกล่าวต้องออกไปอีกกว่า 100 คน
ซึ่งหลังจากที่ Apple ได้รับใบอนุญาตจากกรมยานยนต์ของแคลิฟอร์เนียเพื่อทดสอบรถยนต์ที่ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ ในปี 2017 Apple ก็ได้เริ่มนำแพลตฟอร์มการขับเคลื่อนรถยนต์แบบอัตโนมัติมาใช้บนถนน โดยมันถูกทดสอบโดยรถ SUV Lexus RX450h จำนวนหนึ่ง ซึ่งแต่ละคันจะมีกล้องเรดาห์และเซ็นเซอร์มากมายติดอยู่กับรถ เพื่อทำการทดสอบ
1
ทดสอบเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Apple ด้วย SUV ของ Lexus
Tim Cook ได้ออกมาพูดถึง Project Titan เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายมปี 2017 เมื่อเขายืนยันว่า รถยนต์ของ Apple นั้นจะขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติโดยสมบูรณ์แบบ ซึ่ง Cook ได้กล่าวว่า เทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติดังกล่าวนั้นเป็นเทคโนโลยีหลักที่มีความสำคัญกับ Apple มาก เขามองมันว่า จะเป็นแม่แบบที่สำคัญของโครงการ AI ทั้งหมดของ Apple ในอนาคตนั่นเอง
และแน่นอนว่า Cook นั้นให้ความสำคัญกับการผลิตเป็นอย่างมาก อย่างที่ประสบความสำเร็จมาในผลิตภัณฑ์หลักต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น iPhone , iPad หรือ เครื่อง Mac แต่สำหรับ Project Titan เขาต้องการหาวิธีใหม่ ๆ ในการผลิตรถยนต์
ซึ่ง Cook เองก็มีแนวโน้มที่จะพิจารณาทุกอย่างใหม่ในการะบวนการผลิต ตั้งแต่วัสดุทางเลือกใหม่ ๆ ที่อาจจะไม่ใช้เหล็กเหมือนทางเลือกปรกติที่ทั้งอุตสาหกรรมใช้กัน รวมถึงการจัดการบริหารซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นงานหนักอีกครั้งของ Tim Cook ที่ต้องมา Design ทุกอย่างเหล่านี้ใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างรถยนต์แห่งอนาคตที่แท้จริงให้กับ Apple
แม้ตอนนี้ดูเหมือนสถานะของ Project Titan ยังดูไม่ชัดเจนนัก แต่ก็อย่างที่เราได้เห็นในหลาย ๆ โปรเจ็คของ Apple ที่มีขนาดใหญ่ ล้วนประสบกับปัญหาในการพัฒนาแทบจะทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น iPod , iPhone ก็ล้วนไม่มีอะไรที่ถูกต้องตั้งแต่แรก เพราะทุก ๆ อย่างที่ Apple ทำ มันเป็นนวัตกรรมใหม่ และมักจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
1
แต่สุดท้ายเราก็ได้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็สามารถแก้ปัญหาจนออกมาขายเชิงพาณิชย์ได้และที่สำคัญมันก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งแฟน ๆ Apple ก็หวังว่า Project Titan รถยนต์แห่งอนาคตของ Apple ก็จะสามารถผลิตออกมาได้ในท้ายที่สุด และสามารถปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ได้ เหมือนอย่างที่ Apple เคยทำมากับ อุตสาหกรรมเครื่องเล่นเพลงผ่าน iPod หรือนวัตกรรมชิ้นเอกในการปฏิวัติวงการมือถือผ่าน iPhone ได้ในท้ายที่สุดนั่นเองครับ
สำหรับตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของ Series เรื่องราวของ Tim Cook กันแล้วนะครับ จะเป็นบทสรุปทั้งหมดของเรื่องราว อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับผม
อ่านตอนที่ 10 : Apple's Best CEO (ตอนจบ)
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา