9 ก.พ. 2020 เวลา 02:40 • ความคิดเห็น
“สังคม” และการ “Bully” มีส่วนที่ทำให้มนุษย์คนหนึ่งกลายเป็นวายร้ายได้จริงหรือไม่ ?
จากเหตุการณ์กราดยิงผู้คนจำนวนมาก ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราทราบกันดีว่าผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการทหาร ในพื้นที่ดังกล่าว
การสูญเสีย และบาดเจ็บ ของเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงประชาชนคนบริสุทธิ์ที่ไม่ได้รู้เห็นอะไรกับเหตุการณ์นั้นด้วย สร้างความโกรธเคืองให้ใครหลาย ๆ คน ไม่มากก็น้อย
ซึ่งสิ่งที่เป็นแรงจูงใจให้ ผู้ก่อเหตุผู้นี้ กระทำการแบบอุกอาจ เกินกว่าที่จะให้อภัย หลาย ๆ แหล่งข่าว ให้การยืนยันว่า เป็นเหตุมาจากการที่ไปทวงคืนเงินหนี้สินเกี่ยวกับบ้าน จากนายพันผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตน
แต่ก็ถูกปฏิเสธ ด้วยการให้ไปฟ้องร้องเพื่อจะได้เงินคืน ผู้ก่อเหตุเหมือนจะโดนบีบคั้น ทั้งด้วยกระบวนการทางกฎหมาย และชั้นยศในทางทหาร รวมไปถึงหน้าที่ปัจจุบันของตน
จึงทำให้ตนมีความโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เลยจบการเจรจาด้วยการยิง ส่งผลให้ผู้พันคนดังกล่าว รวมไปถึงคนในบ้านอีกสองคนเสียชีวิต
หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุก็ได้โพสต์สเตตัสผ่านโซเชี่ยว ในทำนองต่าง ๆ ทั้งที่บอกว่า ยิงเพื่อแก้แค้น ที่เหลือเป็นการยิงป้องกันหรือเปิดทาง อะไรทำนองนั้น
และก็ได้กลับไปปล้นเอาอาวุธ ในพื้นที่เขตทหารที่ตนคุ้นเคย มิหนำซ้ำยังได้ยิงสิบเวรที่กระทำหน้าที่รักษาการณ์อยู่ ณ ขณะนั้น
ผู้ก่อเหตุได้อาวุธไปเป็นจำนวนมาก ก่อนจะยิงเปิดทางที่บริเวณวัดป่าศรัทธาราม ทำให้มีเจ้าหน้าที่และประชาชนบริสุทธิ์ เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ก่อนที่จะไปก่อเหตุกราดยิงที่บริเวณห้างสรรพสินค้า Terminal 21 จนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก
แล้วสิ่งใด ? ที่เป็นแรงจูงใจให้ผู้ก่อเหตุกระทำการอุกอาจเช่นนี้
หากเราย้อนกลับไปยังต้นสายปลายเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นจากการโดนบีบคั้นในเรื่องของทรัพย์สินที่ตกลงไว้กับผู้พัน ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตน
เกิดความไม่พอใจ และความโกรธแค้นที่สั่งสมเอาไว้อยู่แล้ว ทำให้ต้องมีการก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่อาจจะคิดว่า ไม่มีทางเลือกให้กับชีวิตจริง ๆ
เลยอยากให้สังคมที่โหดร้าย ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดทางจิตใจที่ตนได้ถูกกระทำมา ถ้าเรามองเรื่องราวที่ต้นเหตุของผู้ก่อเหตุ เราจะพบว่า
มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ตัวละครในภาพยนตร์ที่ชื่อ “โจ๊กเกอร์” ที่โดนสังคมรุมทำร้าย โดน Bully จากด้านต่าง ๆ จนต้องนำพาตัวเองเข้าสู่ด้านมืด แล้วก่อเหตุให้สังคมที่ Bully ได้มองเห็นถึงด้านมืดของตน
หรือถ้าเรามองต่างอีกหลาย ๆ มุม เหตุจูงใจ อาจจะถูกก่อขึ้นจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งหลายคนอาจจะมีมุมมองที่ต่างกัน แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ นี่เป็นเพียงข้อคิดเห็นจาก Swivel เท่านั้น ไม่ได้ต้องการที่จะซ้ำเติมหรือทำร้ายทางจิตใจต่อใคร แต่อย่างใด
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าเราจะถูกกดดัน ในเรื่องใดในชีวิตก็ตาม การแก้ปัญหาด้วยตัวของเรา ใช้ความถูกต้อง ตั้งสติ ไม่ทำร้ายผู้อื่น ล้วนเป็นสิ่งที่ควรพึงกระทำอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดล้วนมีทางแก้ไขได้เสมอ
ท้ายที่สุดนี้ ไม่ว่าสังคมจะถูกวางรากฐานมาอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทุกชีวิตล้วนมีค่าเท่ากัน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะใส่เครื่องแบบอะไร สีอะไร ทำหน้าที่ใด มีบทบาทใด ทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าตามหลักสิทธิมนุษยชน ด้วยกันทั้งสิ้น
สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยครับ Pray Of Everyone In Korat
Swivel คอนเทนท์ยุคใหม่เชิงสร้างสรรค์ ที่นำเสนอในทุกแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็น
Science&Tech • Inspiration • Passion • Community • Sport
ชื่นชอบ คอนเทนท์ของ Swivel อย่าลืมกดแชร์ กดติดตามและกดไลค์กันเยอะๆนะครับ ที่สำคัญ ติชม และให้กำลังใจผ่านคอมเมนท์ข้างล่างนี้ หรือสนับสนุนด้วยเพชรกันเข้ามาเยอะ ๆ เลยน๊า
Follow Us In “Facebook” https://www.facebook.com/swivelthailand
Follow Us In “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
“เดินออกจากกรอบ แล้วก้าวไปตามโลก ที่หมุนไป อย่างไม่สิ้นสุด”
โฆษณา