15 ก.พ. 2020 เวลา 10:02 • ไลฟ์สไตล์
ทำยังก็ได้ ให้ก้าวไปข้างหน้า!
ตอนผมวิ่งมาราธอนครั้งแรก ผมยังไม่เคยซ้อมถึงระยะมาราธอน 42.195 กม. ผมซ้อมถึงแค่ 35 กม. และไม่ได้วิ่งตลอดทางด้วย มีเดินผสมวิ่ง
แต่ด้วยความที่ลงสมัครรายการนี้ไว้แล้ว และตั้งใจว่าจะวิ่งให้ครบระยะให้ได้ โดยไม่สนเวลามากนัก ขอแค่อยู่ใน cut-off time 6 ชม. พอ ผมเลยตัดสินใจไปลุยกันดู
พอตอนวิ่งจริง ก็เหมือนตอนซ้อมละครับ ซ้อมยังไงก็ได้อย่างนั้น อย่าหวังปาฏิหาริย์ ผมวิ่งต่อเนื่องได้แค่ประมาณ 25 กม. ก็เริ่มหมด เริ่มล้า ที่เหลือก็หนังชีวิตละ ผมก็ทำยังไงก็ได้ให้เคลื่อนไปข้างหน้า ผมก็เดินบ้าง วิ่งบ้าง ไปเรื่อยๆ แต่ไม่หยุดเลย ระหว่างทางก็คิดอะไรไปสารพัด อยากหยุดบ้าง จะวิ่งต่อทำไม เพื่ออะไร ไม่พร้อมไว้รายการหน้าก็ยังมีนะ และอื่นๆอีกมากมายเต็มหัว แต่ด้วยใจมุ่งมั่นว่าอยากจบ ไม่อยากให้ความรู้สึกว่ามาราธอนแรกเราวิ่งไม่จบติดตัวไปตลอด สุดท้ายก็เข้าเส้นชัยได้ตามเป้า
ผมมานึกดู ถ้าวิ่งสั้นๆ 5 หรือ 10 กม. หรือแม้แต่ 21 กม. เราจะไม่เจอความรู้สึกนี้ เพราะเราจบซะก่อน การวิ่งมาราธอนก็เหมือนการดำเนินชีวิตละครับ เวลาเราตั้งเป้าและกำลังดำเนินการไปตามเป้าที่ใช้ระยะเวลายาวๆ ระหว่างทางก็จะมีอุปสรรคตลอด มีจุดวัดใจจะเลิก ไม่เลิกตลอด แต่ถ้าเรามุ่งมั่นจริง ทำยังไงก็ได้ให้เคลื่อนไปข้างหน้าให้ได้ จะช้าจะเร็วก็ได้ แต่ห้ามหยุด สุดท้ายเราจะสำเร็จ
เขาถึงบอกว่าวิ่งมาราธอนแล้วจะพบชีวิตใหม่
มาสู้ไปด้วยกันครับ!
โฆษณา