18 มี.ค. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ โรคระบาดทุก 100 ปี
โรคระบาดจาก Covid-19 ที่กำลังระบาดอยู่เช่นนี้ หลายคนอาจตระหนักได้ว่านี่คือโรคระบาดที่น่ากลัว เพราะติดต่อกันได้ง่าย และมันก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แน่นอนว่าที่ผ่านมามีคนที่ได้รับเชื้อ หรือเสียชีวิตไปแล้วหลายรายทั่วโลก
แต่หากจะย้อนดูการเกิดโรคระบาดในอดีตนั้นก็จะเรื่องประหลาดอยู่อย่างหนึ่งก็คือ โรคระบาดครั้งใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนอย่างวิกฤตในครั้งนี้ มันเกิดขึ้นในทุก 100 ปี
1) โรคระบาดกาฬโรค (ปี 1720 ; พ.ศ.2263)
อันที่จริง กาฬโรคนั้นมีการระบาดอย่างยาวนานในทวีปยุโรปตั้งแต่ช่วงยุคกลาง แต่ช่วงที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุด ก็คงการระบาดระรอกที่ 2 ในยุคศตวรรษที่ 14-19 ซึ่งเรียกว่า “Great Pestilence” หรือ “Great Plague” ซึ่งรอบนี้ความรุนแรงของโรคทวีคูณมากขึ้น
โดยสาเหตุของการระบาดนั้นมีบันทึกไว้ว่าอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย “เยอร์ซิเนีย เปสติส” (Yersinia pestis) ที่มีต้นตอของการระบาดเริ่มต้นที่ประเทศอินเดีย จีน เรื่อยมาจนถึงเส้นทางสายไหมจนมาถึงทวีปยุโรป และคาดว่ามีพ่อค้าชาวจีน-มองโกล เป็นพาหะนำโรค โดยการระบาดครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมดสูงถึง 25 ล้านคน
2) อหิวาตกโรค (ปี 1820 ; พ.ศ.2363)
การระบาดครั้งนี้ก็ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่อีกเช่นกัน โดยการระบาดครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางเริ่มต้นที่ทวีปยุโรป โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส โดยในลอนดอนนั้นมีผู้เสียชีวิตประมาณ 6,536 คน และมีผู้เสียชีวิตในกรุงปารีสประมาณ 20,000 คน และมีการแพร่ระบาดเรื่อยมาจนถึงรัสเซีย และทวีปอเมริกา
ในไทยเองก็ได้รับผลกระทบจากโรคร้ายนี้ด้วยเช่นกัน โดยการระบาดของอหิวาตกโรคครั้งนี้ในไทยตรงกับในยุครัชกาลที่สอง โดยได้รับอิทธิพลการระบาดมาจากอินเดีย และค่อยๆ เข้ามาตามหัวเมืองต่างๆ การระบาดครั้งนี้ในไทยกินระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์ แต่มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจนจัดการกับศพไม่ทัน ศพถูกกองอยู่ตามวัดต่างๆ โดยเฉพาะในวัดสระเกศ (ภูเขาทอง) ที่เป็นศูนย์กลางในการกำจัดศพ เมื่อศพมีจำนวนมาก ก็ดึงดูให้แร้งลงมากิน และการระบาดของอหิวาห์ครั้งนี้ก็กลายเป็นที่มาของวลี “แร้งวัดสระเกศ” ไปโดยปริยาย และผู้เสียชีวิตจากการระบาดในไทยครั้งนี้มีจำนวนประมาณ 30,000 คน
3) โรคไข้หวัดใหญ่สเปน (ปี 1920 ; พ.ศ.2463)
การระบาดของโรคนี้ดูท่าว่าจะรุนแรงกว่าการระบาดในอดีตที่ผ่านมาด้วย โดยการแพร่ระบาดครั้งแรกในหมู่ทหารอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (1914-1918) และสาเหตุที่มันกลายเป็นโรคระบาดนั้นก็เป็นเพราะสภาพแวดล้อมในสมรภูมิรบที่สกปรกและแออัดนั้นเอื้ออำนวยให้มีการแพร่เชื้อได้ง่าย
แต่ถึงจะไม่ได้มีศูนย์กลางอยู่ในสเปน แต่สาเหตุที่มันได้ชื่อนี้ก็เพราะในยุคสงครามเช่นนั้น ในแต่ละประเทศก็ปิดข่าวการแพร่ระบาดเพื่อไม่ให้ศัตรูล่วงรู้ จะมีก็แต่ประเทศสเปนซึ่งไม่ได้เข้าอยู่กับฝ่ายใดออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดดังกล่าวนี้ ทว่านั่นจึงทำให้ประเทศสเปนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นต้นกำเนิดของโรค และโรคที่ระบาดนี้จึงถูกเรียกว่าไข้หวัดสเปนไปโดยปริยาย
และแล้วการระบาดนี้ก็ดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ โดยแทบจะไม่มีการรายงานข่าวคราวแต่อย่างได กว่าผู้คนจะรู้ตัว โรคร้ายนี้ก็เริ่มเดินทางไปทั่วโลก ลามไปถึงทวีปอาร์กติก และมีผู้เสียชีวิตรวมมากถึง 50 ล้านคน ซึ่งถือว่ามากกว่าผู้เสียชีวิตจากสงครามถึง 3 เท่า และเป็นโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในศตวรรษที่ 20
4) โรคระบาดจากไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 (2019 ; 2562)
ก็คือโรคที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เริ่มต้น มีจุดศูนย์กลางการระบาดที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน โดยมีข้อมูลว่าผู้ติดเชื้อคนแรกมีประวัติว่าไปตลาดค้าสัตว์ในเมืองอู่ฮั่น ก่อนที่จะป่วย และถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่ที่ไม่เคยปรากฏพบผู้ป่วยมาก่อน แต่ก็กระแสหนึ่งออกมาว่าแท้จริงมันไวรัสโคโรน่าเป็นเชื้อไวรัสที่หลุดมาจากห้องแลปปฏิบัติการพิเศษที่ทำการวิจัยเกี่ยวกับเชื้อโรคและไวรัส
ไวรัสชนิดนี้เป็นโรคที่มีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ และส่งผลทำร้ายเนื้อเยื่อปอดโดยตรง จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด ผู้ที่ภูมิต้านทานต่ำ หรือผู้สูงอายุที่สุขภาพไม่ค่อยดี กลุ่มคนเหล่านี้มีโอกาสเสียชีวิตสูงมากหากติดเชื้อโรคนี้ แต่ในสำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายปกติก็มีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำกว่า
อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถป้องกันได้ และเมื่อติดเชื้อแล้วก็มีโอกาสที่จะรักษาหายได้สูง แต่สิ่งที่ทำให้มันน่ากลัวก็คือมันสามารถติดเชื้อได้ง่าย และส่งผลเสียกับเนื้อเยื่อปอดโดยตรง
การระบาดดังกล่าวนี้เริ่มมีสัญญาณมาตั้งแต่เดือนธันวาคม แต่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงตอนปลายของเดือนมกราคมจวบจนถึงขณะนี้สถานการณ์การระบาดในจีน รวมไปถึงในหลายๆ ประเทศที่มีการรับมือเป็นอย่างดีมีการคลี่คลายลงไปบ้าง แต่การระบาดก็ยังไม่สิ้นสุดลง และศูนย์กลางการระบาดในตอนนี้ได้ย้ายจากจีน ไปยังทวีปยุโรป และปัจจุบัน ยอดผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตก็ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ไม่ว่าจะอย่างไร วิกฤติโรคระบาดเช่นนี้ก็ต้องถึงคราวสิ้นสุดลง และสิ่งสำคัญที่สุดในการเกิดสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ ก็คือการเผยแพร่ข่าวสารที่ต้องเป็นไปอย่างถูกต้องและทันท่วงที รู้จักป้องกันตัวเอง และมีสติอยู่เสมอ ก็มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากที่จะทำให้รอดพ้นจากวิกฤติเช่นนี้ได้
อยากรู้เรื่องอะไร อยากอ่านบทความเเบบไหน ส่งคำถามมาให้ "สมองไหล" ได้ง่ายๆ เพียง “กดลิ้ง” ข้างล่างนี้ได้เลย
โฆษณา