27 มี.ค. 2020 เวลา 12:19
อยากให้ COVID จบ ต้องทำยังไง
ต้องทำให้ R0 น้อยกว่า 1 ค่ะ....
ไม่ได้เป็นนักระบาดวิทยา ไม่ได้เป็นหมอโรคติดเชื้อนะคะ เป็นหมอปอด ICU เฉยๆค่ะ อ่านหนังสือมาเล่าให้ฟัง
1. R0 คืออะไร
ถ้าพูดถึงการระบาด จะต้องมีตัวเลขนี้ คือ R0 (อาร์ศูนย์ หรือ R nought) ชื่อเต็ม basic reproductive number แปลง่ายๆภาษาคน คือ ค่าเฉลี่ยที่คนติดเชื้อคนนึง จะแพร่กระจายให้คนที่ไม่ม่ภูมิคุ้มกันได้กี่คน
เช่น COVID-19 มี R0 = 2.2 (1.4-3.9) ค่ะ (ตอนนี้ตัวเลขแต่ละประเทศ ยังต่างกันอยู่ แต่เอาเฉลี่ยๆทั่วโลกประมาณนี้) แปลว่าคนติดเชื้อคนนึง จะแพร่กระจายได้ 2.2 คน (เอ๊งงงง เสียงสูง)
ฟังดูเหมือนน้อยนะคะ ลองคิดเล่นๆ สมมติเราป่วย วันนึงเราเจอคนเป็นร้อย จะมีแค่ 2 คนเอง ที่จะติดเชื้อจากเรา
2. อดีตที่ผ่านมา R0 แต่ละโรคเป็นยังไง
มาย้อนดูของเดิมกันค่ะ
Spanish flu R0 = 1.8-3
H1N1 2009 R0 = 1.4-2.6
SARS R0 = 2-5
MERS R0 = 0.3-0.8
Measles R0 = 12-18
ไม่ได้เอามาหมด เดี๋ยวจะงง เอามาให้ดูเล่นๆก่อน ว่าอดีตที่ผ่านมา R0 เป็นยังไง แล้ว COVID-19 เพื่อนยาก จะมีคนติดเชื้อมากแค่ไหน
3. ทำไม Measles R0 เยอะสุดเลย
เพราะมันเป็น airborne เป็นหลัก ตรงนี้ก็จะเห็นว่า โรคอื่นที่เป็น Drople เป็นหลัก (อาจจะมี airborne แต่ไม่ใช่หลักๆ) R0 จะใกล้ๆกัน ดังนั้น ตอกย้ำข้อมูลเมื่อวานคือ โรคนี้ ยังไงก็เป็น Droplet เป็นหลัก มีแค่บางโอกาสที่จะเป็น airborne
4. R0 2.2 ถือว่าน้อยมั้ย
จริงๆต้องบอกว่าเยอะค่ะ ดูจาก model ได้ ลองดูตัวเลขของ Spanish flu สิคะ พอๆกันกะ COVID-19 เลย ตอนนั้นระบาดทั่วโลก คนตาย 50-100 ล้านคน
ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า COVID-19 คงไม่ถึงขนาดนั้น
ทำไม R0 ของ SARs ก็พอๆกันกับ COVID-19 แต่ทำไมไม่แย่เหมือนตอนนี้ อันนี้อธิบายได้หลายอย่าง เช่น COVID-19 เป็นโรคที่เวลาเป็น อาการแรกๆและคนส่วนมากอาการไม่รุนแรง เดินเหินสะดวก ไปไหนมาไหนสบาย เวลาไม่สบาย ก็อาการน้อยมากๆๆ จนแทบไม่รู้สึกอะไร คนจะคิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แล้วก็ใช้ชีวิตปกติในสังคม ซึ่งวันแรกๆเนี่ยแหละ ปริมาณไวรัสเยอะมากๆๆ ทำให้เกิดระบาดในวงกว้าง
5. R0 ของไทยหล่ะ
ยังบอกไม่ได้ชัดเจนตอนนี้ แต่มันเป็นไปได้ 3 แบบ อ.นิธิพัฒน์ เคยพูดไว้
ระบาดรุนแรง ติดเชื้อ 16.7 ล้านคนในช่วง 2 ปี (peak สุด 1.5 ล้านคน / wk)
ชะลอการติดเชื้อ 9.9 ล้านคนในช่วง 2 ปี (peak สุด 4 แสนคน / wk)
คุมได้ ประมาณ 4 แสนคนในช่วง 2 ปี (peak สุด 2 หมื่นคน / wk)
***ส่ิงที่ทำให้ตัวเลขต่างกัน คือ R0 เนี่ยแหละ ถ้า R0 2.5 ก็จะได้ 16.7 ล้านคน แต่ถ้า R0 1.6 ก็จะประมาณ 4 แสนคน ต่างกันมหาศาลนะคะ
6. อยากให้ R0 น้อยๆ ทำไง ***
อยากให้ R0 ลดลง ต้อง "Social distancing" ค่ะ เพราะอะไรหรือคะ เพราะการแยกตัว ทำให้โรคไม่กระจายจากคนนึงไปอีกคนนึง หรือกระจายได้ยากขึ้น ดังนั้น การเจ็บป่วยก็จบลงที่คนคนนั้น ถ้าทำแบบนี่ไปเรื่อยๆ ทุกๆคน สุดท้ายก็จะคุมโรคได้
7. ทำไม R0 ถึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
R0 เป็นค่าไม่แน่นอน ขึ้นกับว่าในพื้นที่นั้นๆ มีสิ่งที่เอื้อต่อการระบาดมากแค่ไหน ถ้าที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี อากาศเย็น อนามัยชุมชนไม่ดี ก็เกิดการแพร่ได้มาก R0 ก็มากกว่าค่าเฉลี่ย
ดังนั้น ไม่แน่นอนค่ะ ขึ้นกับการร่วมมือของทุกคน "ทุกคน" จริงๆนะคะ ทุกคนมีส่วนในการทำ social distancing เพื่อตัดตอนการระบาด
8. ก็ทำมาตลอด แต่ยังระบาดเยอะอยู่
ก่อนหน้านี้เราพยายามคุมโรค แต่ผลคือ พยายามยังไม่พอ ยังมีการชุมนุม พบปะสังสรรค์ มากมาย จนเกิดการกระจายโรคขึ้น ไปไกลขนาดนี้ บอกแล้ว เรื่องนี้ต้องการความร่วมมือของทุกๆคน
9. อีกค่าคือ serial interval time
คือเวลาที่ใช้ในการที่เพิ่มจาก คนแรก ไปยังคน generation ที่ 2 ตอนนี้ล่าสุดอยู่ที่ 7.5 วัน (เร็วกว่า SARS และ MERS อีกแล้ว) ดังนั้น
10. ถ้าค่านี้ของไทย R0 = 2.2 และ serial interval time 7.5 วัน ของไทยจะถึงแสน เวลาประมาณ100 วันหลังจากมีรายงานเคสแรก แต่คิดว่าของเราจะช้ากว่านี้หน่อย เพราะเคสแรกๆ เราเป็นเคส import แล้วก็ดักได้เกือบหมด ดังนั้น ลุ้นที่เหลือนะคะ effect ของดาวกระจายจากการปิดเมือง จะเห็นอีก 7-10 วันจากนี้ค่ะ
ดังนั้นที่ทีมบุคคลากรพยายามทำตอนนี้คือ ชะลอการเพิ่มขึ้นของเคส ให้ได้มากที่สุด เพื่อเราจะได้รับมือไหว
ในฐานะหมอปอด หมอ ICU เราไม่อยากถึงจุดที่ต้องเลือกว่าจะเอาเคสไหนได้รับการดูแลแบบ ICU
โฆษณา