5 เม.ย. 2020 เวลา 03:20 • สุขภาพ
⏳ Unprecedented Time หรือช่วงเวลาที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อน
หลายๆท่านอาจจะเริ่มคุ้นเคยกับคำนี้แล้ว ตั้งแต่ไวรัสโควิดที่เราไม่เคยรู้จักได้เข้ามาแพร่ระบาดทั่วโลกอย่างรวดเร็วอย่างไม่มีใครคาดคิดและไม่มีเวลาให้เราตั้งตัว ในเวลาไม่ถึง 3 เดือนโลกของเราก็มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 1 ล้านคนแล้ว ทุกๆชีวิต ทุกๆธุรกิจบนโลกต่างโดนกระทบหมด ชีวิตประจำวันของเราทุกคนนั้นต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้คำนี้ถูกยกขึ้นพูดขึ้นมาบ่อยๆ
แต่สิ่งที่น่ากลัวของ Unprecedented Time นั้นไม่ใช่ว่าเราจะหาทางรับมือกับปัญหาใหม่ๆไม่ได้ เพราะผมเชื่อว่ามนุษย์เราย่อมจะหาทาง Adapt และปรับเปลี่ยนได้เสมอ เช่นคำที่ Charles Darwin เคยกล่าวไว้ว่า “เผ่าพันธุ์ที่อยู่รอดไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งหรือฉลาดที่สุด แต่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ปรับเปลี่ยนไปตามโลกได้มากที่สุด” ผมเชื่อว่ามนุษย์เราสามารถเป็นเผ่าพันธุ์ที่ปรับเปลี่ยนไปตามโลกได้หากว่าเราร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรฐกิจที่ฝืดเคืองหรือการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสนี้ขึ้นมา ผมเชื่อว่ามนุษย์เราจะสามารถก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้
แต่สิ่งที่น่ากลัวของ Unprecedented Time ในมุมมองของผมนั้นคือ Chain Reaction หรือปฏิกิริยาลูกโซ่ของการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เราไม่คาดคิดมาก่อนที่กำลังจะตามมาอีกเรื่อยๆ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้พวกเราทุกคนก็เลยไม่เคยคิดหรือเตรียมตัวมาก่อนว่า หากสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วเราจะทำอะไรต่อไป หรืออะไรบ้างที่กำลังจะตามมา ?
กลุ่มคนหรือพฤติกรรมที่เราเคยคุ้นชินต่างๆนั้นกำลังค่อยๆ Evolve และเปลี่ยนแปลงไป กำลังสร้างความประหลาดใจใหม่ๆเรื่อยๆต่อหน้าเรา... ผมไม่ได้หมายถึงการที่เพื่อนๆของเราเริ่มกลายเป็นนักเต้น (เจน นุ่น โบว์) หรือเป็นเชฟทำอาหารผ่าน Social Media นะครับ... ถึงแม้การ Evolve เหล่านั้นจะเป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความสามารถในการ Adapt ตามโลกที่เปลี่ยนไปของมนุษย์เราได้อย่างดี
พฤติกรรมที่กำลังเปลี่ยนไปต่อหน้าเราวันนี้กำลังสร้าง Series Of Unprecedented time ใหม่ๆขึ้นมาอีก ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสหรือเป็นภัยของใครบ้างนั้นเราก็ยังไม่รู้
สิ่งที่ผมอยากมาเขียนถึงวันนี้คือ การวิวัฒนาการของตลาดน้ำมันโลก ซึ่งกำลังเป็นตลาดนึงที่กำลังเกิด Unprecedented Time ใหม่ๆสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จนทำให้ทฤษฎีหรือตำราที่เราเคยคุ้นชินนั้นแทบจะใช้ไม่ได้แล้วกับโลกน้ำมันในปัจจุบันนี้...
🛢🛢🛢🛢🛢
 
1️⃣ Unprecedented Time แรกที่เกิดขึ้นจากไวรัสโควิดนั้น ส่งผลให้การใช้น้ำมันทั่วโลกต้องหยุดชะงักไป การเดินทางระหว่างประเทศ การขับรถไปทำงาน การออกจากบ้านไปสังสรรค์นั้นต้องหยุดไปเกือบหมด เหตุการณ์นี้ได้ทำให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอย่างโอเปกและพันธมิตรถึงกับต้องเรียกประชุมด่วน เพราะการใช้ที่หดตัวลงอย่างไม่คาดคิดนี้กำลังทำให้รายได้ของกลุ่มหายไปอย่างรวดเร็วจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงมา
และการเรียกประชุมในครั้งนี้ก็ทำให้เกิด Unprecedented Time ที่ 2 ขึ้น...
2️⃣ Unprecedented Time ที่สองนั้นเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงกันในการประชุมได้เรื่องสัดส่วนในการลดการผลิต การใช้น้ำมันที่หายไปนั้นมากจนเกิดความสามารถที่กลุ่มโอเปกจะสามารถพยุงได้แต่เพียงผู้เดียว ทางรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรหลักนั้นถึงกลับต้องขอถอนตัวออกจากการร่วมมือกันมาหลายปี ในเมื่อขาดพันธมิตรหลักผู้เป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันเป็นอันดับที่ 2 ของโลกไป ทางซาอุจึงไม่มีทางเลือกและได้ประกาศสงครามราคาน้ำมันที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้เราจะเคยเห็นสงครามราคาน้ำมันมาก่อนแล้วถึง 3 ครั้งในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีครั้งไหนที่ซาอุจะลดราคาตัดหน้าผู้ค้าอื่นๆมากขนาดนี้ และโลกไม่เคยเห็นซาอุเพิ่มกำลังการผลิตมากขนาดนี้มาก่อนเลยในประวัติศาสตร์
และสงครามราคาที่รุนแรงนี้ ก็กำลังจะทำให้เกิด Unprecedented Time ที่ 3 ขึ้นต่อๆมา...
3️⃣ Unprecedented Time ที่สามนั้นเกิดขึ้นเมื่อ สงครามราคาเข้ามากดดันทำให้ราคาน้ำมันดิบในโลกเรานั้นลดต่ำลงที่สุดในรอบ 20 ปี ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกนั้นต้องเผชิญกับความยากลำบากจากรายได้ที่หดหาย โดยเฉพาะผู้ผลิตน้ำมันต้นทุนสูงอย่างเชลออยล์ในสหรัฐนั้นกำลังอาจจะต้องล้มละลายไปกันหมด ล่าสุดบริษัท Whiting Petroleum ก็ได้เป็นรายแรกแล้วที่ยื่นขอฟื้นฟูกิจการล้มละลาย (Chapter 11) ในอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ โดยผู้ผลิตในประเทศอื่นๆก็กำลังจะต้องเจอชะตาเดียวกันหากราคายังลงไปอยู่เรื่อยๆ
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ได้ทำให้อีกสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น... โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ต่อสายตรงไปยังซาอุและรัสเซียอีกสองผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกและร้องขอให้ยุติสงครามราคาครั้งนี้ โดยทั้งสองฝั่งนั้นตอบกลับเป็นเสียงเดียวกันว่าจะยอมยุติสงครามหากทางสหรัฐนั้นพร้อมที่จะเข้ามาร่วมกันลดกำลังการผลิตด้วย... และทางสหรัฐก็ได้ตอบรับไปในเบื้องต้น
ทำให้ในวันที่ 8 หรือ 9 เมษายนนี้ จะเกิดการประชุมกันของผู้ผลิตน้ำมันครั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จะมีมากกว่า 24 ประเทศเข้าร่วมชุมนุมเพื่อหาทาง #ลดกำลังการผลิต ร่วมกันและดันราคาตลาดกลับไปให้สูงขึ้นอีกครั้ง เราไม่เคยเห็นการรวมตัวที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
ถ้าหากเมื่อ 1 เดือนก่อนเราลองถามนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกดูว่าจะเกิดการประชุมแบบนี้ขึ้นมา ทุกๆคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่มีทางแน่ๆ"
แต่วันนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว แม้แต่ผู้ผลิตน้ำมันอย่างประเทศแคนนาดาซึ่งโดยปกตินั้นจะไม่พยายามไม่เข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องการเมืองระหว่างประเทศยังได้ตอบตกลงที่จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ หากไม่เกิดโควิด ก็ไม่เกิดสงครามราคา และก็จะไม่เกิดการรวมตัวครั้งนี้ขึ้น เรียกได้ว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนั้นกำลังเรียงแถวเข้ามาสู่ตลาดน้ำมันเรื่อยๆ อย่างไม่ให้เราหยุดพักเลย
📌 แล้วการประชุมในครั้งนี้นั้นจะส่งผลกระทบต่อโลกเราอย่างไรบ้าง ?
ในระยะสั้นๆนั้นหากผู้ผลิตเข้ามาร่วมมือกันได้อย่างจริงจังและมีวินัย ราคาน้ำมันอาจจะดีดขึ้นเล็กน้อยหรือไม่ลงไปต่ำไปมากจากผลกระทบของไวรัสโควิดอีกต่อไป สิ่งนั้นเราอาจจะพอคาดเดาได้เพราะเป็นจุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้
แต่จะเกิดอะไรขึ้นในระยะยาวต่อๆจากนั้นอีก คงเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากมากเพราะย้อนไปแค่ไม่กี่วันนั้นเรายังไม่คาดคิดเลยว่าการประชุมนี้จะเกิดขึ้น เชื่อว่าการรวมตัวในครั้งนี้หากเป็นไปได้ดีและทุกฝ่ายอยากจะดำเนินการแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะต้องเริ่มมีผลกระทบไปสู่นโยบายพลังงานของหลายๆประเทศแน่ๆ โดยเฉพาะประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างชาติ หากราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับสูงไปนานๆอีกครั้งคงต้องมีการปรับแผนรับมือต่อความมั่นคงทางพลังงานและภาระของราคาในประเทศ และการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบลูกโซ่ไปสู่พลังงานทดแทนและกลุ่มธุรกิจที่เกียวข้องอีกหลายๆธุรกิจด้วย
Unprecedented Time นี้ จะนำพาการเปลี่ยนแปลงต่อๆมาอีกมากน้อยแค่ไหน ? ใครเป็นผู้ที่เริ่มคิดและวางแผนในเวลานี้ได้ก่อนจะเป็นผู้ได้เปรียบ เพราะทุกฝ่ายนั้นมีเวลาเท่าๆกันในการเตรียมตัวกับ Evolution ในครั้งนี้ ทฤษฎีและตำราก่อนๆอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...
🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ 😊
#OilTradingKP
โฆษณา