3 พ.ค. 2020 เวลา 23:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
• ?รู้หรือไม่? • มันสำปะหลังดิบ [Cassava] …… กิน แล้ว อาจเสียชีวิต!! ได้ .... และวิธีแก้พิษ!!
Cassava
ก่อนอื่นคงต้องมาทำความรู้จักกับสารที่มีชื่อว่า…
>>Cyanide (ไซยาไนด์)<<
https://www.turkishminute.com/2019/11/29/turkey-bans-sale-of-cyanide-to-public-following-series-of-suicides/
…ขึ้นชื่อว่า ไซยาไนด์ นั้นได้รับการจัดอันดับ
ให้เป็นที่ …1… ของสารเคมีอันตรายที่สุดในโลก!!!
มิเช่นนั้น คุณ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” คงไม่นำมาใช้เป็นยาฆ่าปิดปาก เหล่าบรรดาสมุน นายพล
.... เมื่อโดนฝ่ายศัตรู จับตัวได้ และเพื่อไม่ให้ ฝ่ายตรงข้ามล้วงข้อมูล ของฝ่ายนาซี
.... ก็จะทำการกัด แคปซูลซึ่งมีส่วนผสมของ Hydrogen Cyanide ...ในเวลาเพียงไม่นาน ก็จะน้ำลายฟูมปาก...ตายในที่สุด
.... เราจะมาทำความรู้จัก สารตัวนี้กันให้มากขึ้นสักหน่อย...
“ Cyanide “
... เป็นสารที่มีคุณสมบัติทั้ง 3 รูปแบบของสสาร
1. ของแข็ง : อยู่ในรูปแบบของ เกลือ (cyanide salt) เช่น … เกลือโซเดียมไซยาไนด์(Sodium ชCyanide),เกลือโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanode)
2.ของเหลว : ไฮโดรเจนไซยาไนด์(Hydrogen Cyanode;HCN), ไซยาโนคลอรีน(Cyanogen Chlorine;CNCl)
3.ก๊าซ : ไฮโดรเจนไซยาไนด์(Hydrogen Cyanode;HCN) , ไซยาโนคลอรีน(Cyanogen Chlorine;CNCl)
และ มีลักษณะ คือ “ไร้สี” แต่มีกลิ่นจำเพาะเรียกว่า … “กลิ่นอัลมอลด์ขม (Bitter Almond)”
ปัจจุบันมีการใช้สารที่มีส่วนประกอบของ ไซยาไนด์ ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น... อุตสาหกรรมเคลือบเงา ,ส่วนประกอบของพลาสติก, เคลือบสีเหล็ก, ส่วนประกอบของยาฆ่าแมลง ,สารสกัดทองหรือเงิน , ควันบุหรี่ , ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม
?? แล้วเกี่ยวข้องอย่างไรกับ มันสำปะหลัง ??
• ในธรรมชาตินั้น สามารถพบสารที่มีส่วนประกอบของไซยาไนด์ (cyanide) ได้ และ ไกล้ตัวมากกว่าที่คิด
..........ในรูปของสารประกอบที่เรียกว่า ไซยาโนจีนิก ไกลโคไซด์(Cyanogenic glycoside)
ไซยาโนจีนิก ไกลด์โคไซด์ (Cyanogenic Glycoside) แบ่งได้เป็น 2 ชนิดย่อย
1. Amygdalin : เมล็ดพรุน(Prunes) , เมล็ดแอพริคอต(Apricot) , เมล็ดเชอรี่ดำ(black cherry), เมล็ดแอปเปิ้ล(Apple)
2. Linamarin : >>มันสำปะหลังดิบ(Cassava)<<
... ซึ่งโดยตัวของสาร Linamarin ในมันสำปะหลังเอง ... จะยังไม่ก่อให้เกิดพิษ แต่หากว่า รับประทานเข้าไป ผ่านกระบวนการย่อยในทางเดินอาหาร ร่วมกับน้ำที่ร่วมเกิดปฏิกิริยา จะเกิดเป็น ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) … ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิด พิษกับร่างกายนั่นเอง
สมการการแตกตัวของ Linamarin เมื่อ สัมผัส น้ำ
กลไกการก่อให้เกิด พิษของ ไซยาไนด์ (Cyanide)
*ใช้คำย่อ CN แทน Cyanide ครับ
…… เมื่อ CN(Cyanide) เข้าไปในกระแสเลือดของเราแล้ว จะดูดซึมเข้าสู่เซลล์ .... โดยในเซลล์ของร่างกายเราจะ มีครัวสร้างพลังงาน(ATP)ให้แก่เซลล์ เรียกว่า Mitochondria …ซึ่ง ตัวนี้เอง เป็น เป้าหมายการโจมตี ของ CN
*ATP :adenosisne Triphosphate เป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ ทุกชนิดในร่างกาย
เมื่อ CN เข้าไปจับ ... จะทำการยับยั้งกระบวนการสร้างพลังงาน(ATP) ของเซลล์ เรียกว่า Electron Transport Chain , ตรงจุดนี้เอง ทำให้เซลล์อยู่ในสภาพขาดพลังงาน(ATP) และไม่สามารถใช้ O2 เพื่อการสันดาป ได้ ....
เรียกภาวะนี้ว่า .... ภาวะเซลล์ขาดอากาศ (Cellular Anoxia)
Mitochondria ::: Cyanide inhibit at a3 portion of cytochrome Oxidation
โดยกระบวนการก่อพิษนี้ สามารถเกิดได้รวดเร็ว ในระยะเวลาเพียง แค่ นาที .... จนถึง ชั่วโมง
.... ขึ้นอยู่กับ”ปริมาณ” และ”ช่องทาง” รับสารพิษโดย
พบว่าที่ขนาด
• 200 มิลลิกรัม ... ทำให้ตายใน 5-10 นาที
• 300 มิลลิกรัม ... ทำให้ตายใน 1 นาที
…. และ ไซยาไนด์ในรูปของ ก๊าซ ก่อให้เกิดอาการเร็วที่สุด เทียบกับ ของเหลว และ เกลือไซยาไนด์…
"อาการ"ที่สังเกตุได้ของผู้ที่ ... สงสัยถูกพิษ ไซยาไนด์
(Cyanide Poisoning)... ซึ่งจะเกิดตามอวัยวะที่มีความไว สูงต่อภาวะเซลล์ขาดอากาศ(Anoxia) ... จะเกิดเรียงลำดับได้ ดังนี้
Phase 1: ปวดศีรษะ
Phase 2: คลื่นไส้อาเจียน
Phase 3: สับสน มึนงง ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้
Phase 4: หายใจเร็ว หอบเหนื่อย
Phase 5: หัวใจเต้นผิดจังหวะ
Phase 6: หัวใจเต้นช้าลง
Phase 7: หมดสติ
Phase 8: โคม่า
Phase 9: หัวใจหยุดเต้น
Phase 10: เสียชีวิต
.... กลับมา แล้วจะแก้ไขความเป็นพิษของ มันสำปะหลัง ได้อย่างไร....
สารพิษในรูปกรดไฮโดรไซยานิคนี้ มีมากที่...”เปลือก” ของหัวมันสำปะหลัง และที่... ”ใบ ยอดอ่อน”
.....ดังนั้นแล้วก่อนนำมาบริโภค จะสามารถลดสารพิษด้วยวิธีต่อไปนี้...
1.ปอกเปลือก เนื่องจากสารกลูโคไซด์จะสะสมอยู่ในเปลือกมากกว่า ในเนื้อมันสำปะหลัง การปอกเปลือกจึงเป็นการกำจัดสารดังกล่าวได้ดีที่สุด
2.ล้างน้ำและแช่น้ำ เนื่องจากสารกลูโคไซด์ละลายน้ำได้ดีมาก ดังนั้น การล้างน้ำและแช่น้ำนานๆ กลูโคไซด์จะละลายไปกับน้ำ
3.การหั่น สับ ขูด หรือบดเป็นชิ้นเล็ก และตากแดดให้แห้ง จะช่วยเร่งปฏิกิริยาลดความเป็นพิษลงได้เช่น ในกระบวนการทำมันเสัน มันอัดเม็ด
4.การใช้ความร้อน เนื่องจากกลูโคไซด์สลายตัวได้ดีมากที่อุณหภูมิ 150 เซลเซียส ดังนั้นเมื่อนำหัวมันสำปะหลังมาทำให้ร้อนจะด้วยวิธีอบ นึ่ง ต้ม เผา ความเป็นพิษจะหมดไป
5.การหมักดองหัวมันสำปะหลัง ทำให้เกิดกรดอินทรีย์ขึ้น ซึ่งมีผล ในการไฮโดรไลส์สารกลูโคไซด์ที่มีในหัวมัน ทำให้เกิดแก๊สไฮโดรไซยาไนด์ ระเหย และความเป็นพิษลดลง
วิธีการต่างๆ ที่กล่าวมานี้สามารถลดความเป็นพิษด้วยการลด สารกลูโคไซด์ในมันสำปะหลังลงได้มากจนถึงหมดไป เป็นผลให้มัน สำปะหลังใช้บริโภคได้โดยไม่เป็นพิษต่อร่างกายเลย
.... เมื่อพบเจอผู้ที่มีอาการ เข้าข่าย หรือ สงสัย
ว่าจะได้รับสารพิษชนิดนี้ สิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังต่อไปนี้....
• แจ้งทีมกู้ชีพ ที่มีความพร้อม และมีชุดอุปกรณ์ป้องกัน(PPE) ที่เหมาะสม....ในประเทศไทยนั้น สามารถแจ้ง หมายเลข 1 6 6 9 สายด่วน ได้ครับ
• ห้ามเข้าไปช่วยเหลือเด็ดขาด...หาก เรายังไม่สวมใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกัน่ ที่เหมาะสม
• หากพบว่าอยู่ในพื้นที่ปิด ที่มีก๊าซ ไซยาไนด์ ....... รีบนำผู้นั้นออกมายังพื้นที่โล่ง
• เมื่อนำออกมาจากพื้นที่อันตรายได้แล้ว... ก็ต้องทำการให้ออกซิเจน (O2) เพื่อ
....
.... สุดท้ายนี้ ขอฝากคำกล่าวของ พาราเซลซัส(Paracelcus) ;แพทย์และนักเคมีชาวสวิสเซอร์แลนด์ ได้กล่าวไว้ว่า....
“All substances are poisons; There is none which is not a poison. The right dose differentiates poison from a remedy”
....แปลว่า....
“สารเคมีทุกชนิดล้วนเป็นพิษ ไม่มีสารเคมีชนิดใดที่ไม่มีพิษ. ขนาดเท่านั้นที่เป็นตัวแยกระหว่างความเป็นพิษกับความเป็นยา”
——>> ทำความรู้จัก พาราเซลซุส ต่อได้ที่ลิ้งข้างล่างนี่....
References
โฆษณา